บทที่ 5
สองหนุ่มสาวที่เพิ่งควงคู่กันเข้ามาได้รับเสียงทักทายและกระเซ้าเย้าแหย่จากผู้ที่รู้จักว่าเมื่อไรจะมีข่าวดี การินระบายลมหายใจออกมาอย่างรำคาญ ยังไงเขาก็ไม่เห็นความเหมาะสมกันของสองคนนั้น เจ้แอ้มต้องคู่กับเฮียดังอยู่แล้ว ไปคู่กับพี่นนท์ได้ยังไง
ทิชากรชายตามองหลานชายที่ทำเสียงฮึดฮัด ไม่ต้องหันไปดูเธอก็รู้แล้วว่าใครมาถึงงาน ต้องบอกว่าคู่ใครซิ เพราะหากอรนภามาเพียงคนเดียวหรือว่ามากับคุณพ่อของเธอ พ่อหลานชายตัวดีคงไม่ส่งเสียงขัดอกขัดใจเป็นเด็กๆ แบบนี้หรอก
“เพิ่งเห็นเฮียดังยอมแพ้”
“ไม่ได้ยอมแพ้” การินตวัดเสียง “แค่ไม่อยากบังคับใจใคร”
นั่น...เหตุผลของคนอกหัก
“ไปหาคนใหม่ซิ สาวๆ มีอีกเยอะแยะ ปีหน้าหนูแอ้มก็แก่ไปแล้ว”
สีหน้าดำมืดของหลานชายแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ทำให้ทิชากรหัวเราะดังลั่นในใจ
“ผมยังไม่เห็นเจ้ทิแก่เลย ผ่านไปกี่ปีกี่ปีก็ไม่แก่”
ทิชากรเผยยิ้มหวาน เอ๊ะ วันนี้มาเอาใจคนแก่ให้ชื่นใจได้ แต่...
“มีแต่อ้วนขึ้นทุกปี”
สิ้นเสียงกระซิบของการิน ทิชากรก็อยากเตะโด่งเจ้าตัวแสบให้ไปตกเอาหัวปักที่ขั้วโลกใต้เสียเลย ไอ้ปากเสียถาวรซ่อมไม่ได้
“สวัสดีค่ะอี๊ทิ เฮียดัง” เสียงหวานใสทักทาย ทิชากรอ้าแขนกอด แตะแก้มกับหญิงสาวก่อนโอบแขนจุ๊บชายหนุ่มที่โน้มตัวลงให้สาวใหญ่กอดจูบได้ตามสบาย
“สวัสดีครับ อี๊ทิ สวยขึ้นทุกทีที่พบเลยนะครับ”
“สวยขึ้นนี่อ้วนขึ้นใช่ไหม” ทิชากรตวัดตาค้อนคม เมื่อเพิ่งจะโดนหลานรักกัดมาทำให้อดระแวงไม่ได้ ปุณยนนท์ยิ้ม
“สวยขึ้นครับไม่ได้หมายถึงอ้วนขึ้น ผมว่าผู้หญิงสวยขึ้นได้เรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างแอ้ม เพิ่งจะเริ่มสวย กว่าจะสวยคงที่ ต้องอีกหลายปี”
อรนภาแอบหยิกเอาเบาๆ ขณะที่ทิชากรยิ้มกว้างเขย่งตัวขึ้นจูบเป็นรางวัลให้ชายหนุ่มที่รู้จักพูดจาเอาใจผู้ใหญ่อีกจุ๊บหนึ่ง พ่อหลานชายฉันจะไปสู้อะไรกับปุณยนนท์ได้
“เฮียดัง” ปุณยนนท์หันไปยิ้มทักชายหนุ่มที่ยืนตีหน้าเบื่ออยู่ข้างๆ ทิชากรหลังจากทักทายผู้เป็นน้าสาวแล้ว
“พี่นนท์ แอ้ม” การินฉีกยิ้ม ก่อนพยักหน้าทักไปทางหญิงสาวที่ปุณยนนท์ไม่ปล่อยให้ห่างตัว ไม่จับมือก็โอบบ่าโอบเอว แตะแขน แตะหลัง หรืออะไรสารพัดที่ขัดหูขัดตาการิน แล้วพอการินเอ่ยปากทักตอบปุ๊บ ปุณยนนท์ก็รั้งเอวหญิงสาวออกเดินไปทักคนอื่นต่อปั๊บทันที
ทิชากรมองหน้าหลานชายก็รู้ใจ เอาไหล่กระแทกเป็นเชิงสะกิด การินปรายตาค้อนแต่ก็ยอมเดินตามก่อนเร่งฝีเท้าจนขนาบอีกข้างของอรนภา
ปุณยนนท์รู้ถึงอาการตัวแข็งของอรนภาก่อนที่การินจะเดินมาประกบอีกข้างเสียอีก เขาบีบมือให้กำลังใจ อรนภาเงยหน้ายิ้มให้การินตามมารยาท
“เฮียลืมถามแอ้มไป” การินลากเสียง “เฮียเล้งบอกเฮียว่าจะให้เราตั้งทีมไปดูแลรถเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ” อรนภายิ้มน้อยๆ เธอลองอู่รถบริเวณใกล้เคียงบ้านและบริษัทแล้ว ก่อนจะยอมรับในฝีมือของการิน “จะให้บริษัทของเฮียมารับผิดชอบเรื่องดูแลรถของบริษัทแอ้มน่ะค่ะ เรื่องนี้...” หญิงสาวช้อนตาหวานมองปุณยนนท์ “คุณนนท์จะร่างสัญญาไปให้วันสองวันนี้ล่ะค่ะ”
“เพิ่งทราบว่าพี่นนท์รับงานสองบริษัท แล้วรถที่บ้านล่ะ” การินกัดหมับก่อนหันไปถามอรนภาตรงๆ
“รถที่บ้านแอ้มก็แล้วแต่ความสะดวกใจของเจ้าของครับเฮียดัง” ปุณยนนท์ตอบแทนอรนภา แล้วทำให้มันไม่เป็นการไร้มารยาทมากนักด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล “สัญญานี้คือรถที่บริษัทเท่านั้น เฮียดังเป็นคนตีราคาหรือครับ ขอโทษทีผมคิดว่าเฮียเล้งเสียอีก”
เสียงพึมพำของปุณยนนท์เรียกเลือดขึ้นหน้าการินอีกครั้ง ก็เฮียเล้งนะซิคนคิดราคา แต่ที่เขาเดินตามมาถามนี่เพราะทิชากรไล่ ไม่อยากจะมาเองให้เจ็บใจเล่นหรอก
“คุณนนท์” อรนภาปรามเบาๆ เมื่อเห็นปุณยนนท์เล่นแรง ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนขอร้องให้เขามาอยู่ข้างๆ เพื่อกันการิน
“เฮียเล้งถามเฮียมาน่ะ เฮียเลยอยากรู้รายละเอียด เพราะเราต้องดูไปถึงพวกอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนด้วย” หัวหน้าช่างใหญ่พยายามควบคุมอารมณ์ให้นิ่งเท่าไอ้หนุ่มรุ่นน้อง
“อ๋อ เราจะส่งเลขทะเบียนรถและแจ้งล่วงหน้าครับ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ปุณยนนท์ตอบอย่างไตร่ตรองดีแล้ว “ส่วนรถที่บ้านก็ส่งเช็คปกติไม่ต้องวางบิลเคลียร์เหมือนรถบริษัท น่าจะดีกว่านะครับ เผื่อแอ้มอยากเปลี่ยนรถจะได้ไม่ต้องแจ้งเลขทะเบียนกันให้ยุ่งยาก”
การินตาขวางใส่ นี่ถึงขั้นจะเปลี่ยนรถไม่ให้จำกันได้เลยใช่ไหม ปุณยนนท์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งเหมือนจะท้าทายการิน
“แอ้มชอบเพลงนี้ ไปเต้นรำกันดีกว่า” อรนภารีบทำลายบรรยากาศที่เริ่มเคร่งเครียด ก่อนจะนึกได้ว่าเธอยืนระหว่างสองหนุ่ม หญิงสาวช้อนตามองปุณยนนท์ เธอควรจะเต้นรำกับเขาก่อน หากปุณยนนท์กลับยิ้มใส่ตา ก้าวถอยให้
“ผมจะรอเพลงต่อไป เชิญเฮียดังก่อนครับ”
การินสูดลมหายใจเอากลิ่นหอมของสาวข้างกายเข้าไป นานๆ จะได้เข้าใกล้ให้ชื่นใจเสียที รับมือนางฟ้าในดวงใจมาคล้องแขน แล้วเสียงทุ้มนุ่มก็ลอยตามหลังมาเบาๆ ที่ทำให้แทบกระอัก
“เพลงต่อไปแทงโก้ซ้อนสองเพลงรวด แอ้มเก็บแรงเอาไว้ด้วยนะ”
สายตาคมหวานบาดใจของหญิงสาวที่เกาะแขนเขาอยู่หันไปส่งแวววิบวับให้ชายหนุ่มที่ถอยไปยืนรอ ก่อนขยับมือส่งสัญญาณว่าเธอไม่มีทางลืม
โธ่! นางฟ้าของการิน ทำร้ายจิตใจกันได้ลงคอ
‘เฮียก็เต้นเป็นนะ’ การินกัดฟันกระซิบ ‘แทงโก้นะ’
ก็ได้แต่กระซิบในใจเท่านั้น
You are mine. ตอนที่ 5
สองหนุ่มสาวที่เพิ่งควงคู่กันเข้ามาได้รับเสียงทักทายและกระเซ้าเย้าแหย่จากผู้ที่รู้จักว่าเมื่อไรจะมีข่าวดี การินระบายลมหายใจออกมาอย่างรำคาญ ยังไงเขาก็ไม่เห็นความเหมาะสมกันของสองคนนั้น เจ้แอ้มต้องคู่กับเฮียดังอยู่แล้ว ไปคู่กับพี่นนท์ได้ยังไง
ทิชากรชายตามองหลานชายที่ทำเสียงฮึดฮัด ไม่ต้องหันไปดูเธอก็รู้แล้วว่าใครมาถึงงาน ต้องบอกว่าคู่ใครซิ เพราะหากอรนภามาเพียงคนเดียวหรือว่ามากับคุณพ่อของเธอ พ่อหลานชายตัวดีคงไม่ส่งเสียงขัดอกขัดใจเป็นเด็กๆ แบบนี้หรอก
“เพิ่งเห็นเฮียดังยอมแพ้”
“ไม่ได้ยอมแพ้” การินตวัดเสียง “แค่ไม่อยากบังคับใจใคร”
นั่น...เหตุผลของคนอกหัก
“ไปหาคนใหม่ซิ สาวๆ มีอีกเยอะแยะ ปีหน้าหนูแอ้มก็แก่ไปแล้ว”
สีหน้าดำมืดของหลานชายแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ทำให้ทิชากรหัวเราะดังลั่นในใจ
“ผมยังไม่เห็นเจ้ทิแก่เลย ผ่านไปกี่ปีกี่ปีก็ไม่แก่”
ทิชากรเผยยิ้มหวาน เอ๊ะ วันนี้มาเอาใจคนแก่ให้ชื่นใจได้ แต่...
“มีแต่อ้วนขึ้นทุกปี”
สิ้นเสียงกระซิบของการิน ทิชากรก็อยากเตะโด่งเจ้าตัวแสบให้ไปตกเอาหัวปักที่ขั้วโลกใต้เสียเลย ไอ้ปากเสียถาวรซ่อมไม่ได้
“สวัสดีค่ะอี๊ทิ เฮียดัง” เสียงหวานใสทักทาย ทิชากรอ้าแขนกอด แตะแก้มกับหญิงสาวก่อนโอบแขนจุ๊บชายหนุ่มที่โน้มตัวลงให้สาวใหญ่กอดจูบได้ตามสบาย
“สวัสดีครับ อี๊ทิ สวยขึ้นทุกทีที่พบเลยนะครับ”
“สวยขึ้นนี่อ้วนขึ้นใช่ไหม” ทิชากรตวัดตาค้อนคม เมื่อเพิ่งจะโดนหลานรักกัดมาทำให้อดระแวงไม่ได้ ปุณยนนท์ยิ้ม
“สวยขึ้นครับไม่ได้หมายถึงอ้วนขึ้น ผมว่าผู้หญิงสวยขึ้นได้เรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างแอ้ม เพิ่งจะเริ่มสวย กว่าจะสวยคงที่ ต้องอีกหลายปี”
อรนภาแอบหยิกเอาเบาๆ ขณะที่ทิชากรยิ้มกว้างเขย่งตัวขึ้นจูบเป็นรางวัลให้ชายหนุ่มที่รู้จักพูดจาเอาใจผู้ใหญ่อีกจุ๊บหนึ่ง พ่อหลานชายฉันจะไปสู้อะไรกับปุณยนนท์ได้
“เฮียดัง” ปุณยนนท์หันไปยิ้มทักชายหนุ่มที่ยืนตีหน้าเบื่ออยู่ข้างๆ ทิชากรหลังจากทักทายผู้เป็นน้าสาวแล้ว
“พี่นนท์ แอ้ม” การินฉีกยิ้ม ก่อนพยักหน้าทักไปทางหญิงสาวที่ปุณยนนท์ไม่ปล่อยให้ห่างตัว ไม่จับมือก็โอบบ่าโอบเอว แตะแขน แตะหลัง หรืออะไรสารพัดที่ขัดหูขัดตาการิน แล้วพอการินเอ่ยปากทักตอบปุ๊บ ปุณยนนท์ก็รั้งเอวหญิงสาวออกเดินไปทักคนอื่นต่อปั๊บทันที
ทิชากรมองหน้าหลานชายก็รู้ใจ เอาไหล่กระแทกเป็นเชิงสะกิด การินปรายตาค้อนแต่ก็ยอมเดินตามก่อนเร่งฝีเท้าจนขนาบอีกข้างของอรนภา
ปุณยนนท์รู้ถึงอาการตัวแข็งของอรนภาก่อนที่การินจะเดินมาประกบอีกข้างเสียอีก เขาบีบมือให้กำลังใจ อรนภาเงยหน้ายิ้มให้การินตามมารยาท
“เฮียลืมถามแอ้มไป” การินลากเสียง “เฮียเล้งบอกเฮียว่าจะให้เราตั้งทีมไปดูแลรถเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ” อรนภายิ้มน้อยๆ เธอลองอู่รถบริเวณใกล้เคียงบ้านและบริษัทแล้ว ก่อนจะยอมรับในฝีมือของการิน “จะให้บริษัทของเฮียมารับผิดชอบเรื่องดูแลรถของบริษัทแอ้มน่ะค่ะ เรื่องนี้...” หญิงสาวช้อนตาหวานมองปุณยนนท์ “คุณนนท์จะร่างสัญญาไปให้วันสองวันนี้ล่ะค่ะ”
“เพิ่งทราบว่าพี่นนท์รับงานสองบริษัท แล้วรถที่บ้านล่ะ” การินกัดหมับก่อนหันไปถามอรนภาตรงๆ
“รถที่บ้านแอ้มก็แล้วแต่ความสะดวกใจของเจ้าของครับเฮียดัง” ปุณยนนท์ตอบแทนอรนภา แล้วทำให้มันไม่เป็นการไร้มารยาทมากนักด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล “สัญญานี้คือรถที่บริษัทเท่านั้น เฮียดังเป็นคนตีราคาหรือครับ ขอโทษทีผมคิดว่าเฮียเล้งเสียอีก”
เสียงพึมพำของปุณยนนท์เรียกเลือดขึ้นหน้าการินอีกครั้ง ก็เฮียเล้งนะซิคนคิดราคา แต่ที่เขาเดินตามมาถามนี่เพราะทิชากรไล่ ไม่อยากจะมาเองให้เจ็บใจเล่นหรอก
“คุณนนท์” อรนภาปรามเบาๆ เมื่อเห็นปุณยนนท์เล่นแรง ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนขอร้องให้เขามาอยู่ข้างๆ เพื่อกันการิน
“เฮียเล้งถามเฮียมาน่ะ เฮียเลยอยากรู้รายละเอียด เพราะเราต้องดูไปถึงพวกอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนด้วย” หัวหน้าช่างใหญ่พยายามควบคุมอารมณ์ให้นิ่งเท่าไอ้หนุ่มรุ่นน้อง
“อ๋อ เราจะส่งเลขทะเบียนรถและแจ้งล่วงหน้าครับ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ปุณยนนท์ตอบอย่างไตร่ตรองดีแล้ว “ส่วนรถที่บ้านก็ส่งเช็คปกติไม่ต้องวางบิลเคลียร์เหมือนรถบริษัท น่าจะดีกว่านะครับ เผื่อแอ้มอยากเปลี่ยนรถจะได้ไม่ต้องแจ้งเลขทะเบียนกันให้ยุ่งยาก”
การินตาขวางใส่ นี่ถึงขั้นจะเปลี่ยนรถไม่ให้จำกันได้เลยใช่ไหม ปุณยนนท์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งเหมือนจะท้าทายการิน
“แอ้มชอบเพลงนี้ ไปเต้นรำกันดีกว่า” อรนภารีบทำลายบรรยากาศที่เริ่มเคร่งเครียด ก่อนจะนึกได้ว่าเธอยืนระหว่างสองหนุ่ม หญิงสาวช้อนตามองปุณยนนท์ เธอควรจะเต้นรำกับเขาก่อน หากปุณยนนท์กลับยิ้มใส่ตา ก้าวถอยให้
“ผมจะรอเพลงต่อไป เชิญเฮียดังก่อนครับ”
การินสูดลมหายใจเอากลิ่นหอมของสาวข้างกายเข้าไป นานๆ จะได้เข้าใกล้ให้ชื่นใจเสียที รับมือนางฟ้าในดวงใจมาคล้องแขน แล้วเสียงทุ้มนุ่มก็ลอยตามหลังมาเบาๆ ที่ทำให้แทบกระอัก
“เพลงต่อไปแทงโก้ซ้อนสองเพลงรวด แอ้มเก็บแรงเอาไว้ด้วยนะ”
สายตาคมหวานบาดใจของหญิงสาวที่เกาะแขนเขาอยู่หันไปส่งแวววิบวับให้ชายหนุ่มที่ถอยไปยืนรอ ก่อนขยับมือส่งสัญญาณว่าเธอไม่มีทางลืม
โธ่! นางฟ้าของการิน ทำร้ายจิตใจกันได้ลงคอ
‘เฮียก็เต้นเป็นนะ’ การินกัดฟันกระซิบ ‘แทงโก้นะ’
ก็ได้แต่กระซิบในใจเท่านั้น