Underwater Fashion ...คงสร้างแรงบันดาลใจให้หลายคนอยากลงไปแช่น้ำ เก็บภาพสวยๆ แบบนางแบบ

วันนี้เรามี Makeup tutorial ง่ายๆ สำหรับการแต่งหน้าสวยสู้น้ำ สำหรับซัมเมอร์นี้มาฝากเพื่อนๆกันค่าาาา



MAKE UP SHOUT !
สาวๆ ต้องเข้าใจกันก่อนนะคะว่า เครื่องสำอางคงกันน้ำไม่ได้ 100% แน่นอน แต่คิดซะว่าเป็นการคงสภาพเมคอัพให้สวยเหมือนเพิ่งแต่งเสร็จให้ได้นานที่สุด  

MAKE UP RULE
จะทั้งดำน้ำ ว่ายน้ำ หรือเล่นสงกรานต์ Makeup แบบหลักๆ ที่ควรใช้ควรจะเป็นแบบ Water proof นั่นเองคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Eyeliner Mascara และรองพื้น ควรจะต้องกันน้ำเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเวลาโดนน้ำจะได้ไม่เลือน รวมถึงการใช้ บลัช กับ ทินต์ ก็จะทำให้สีติดทนทาน ถึงแม้จะโดนน้ำ แต่สีติดทนทานกว่า บลัชแบบฝุ่น และลิปสติก ทั่วๆไปค่าาา

เดี๋ยวเราไปดูแต่ละ Step กันดีกว่า ว่าต้องทำยังไงบ้าง

Step 1
       ควรลงเบส เพื่อปรับสภาพผิวหน้าของเราก่อนคะ เบสจะใช้หลักการคู่สีตรงข้ามในการปรับสีผิวของเรา สาวๆหลายๆ คนอาจจะยังสงสัยกันว่า ในเมื่อเบส มีตั้งหลายสี ทั้งเขียว ม่วง ชมพู หรือ ไข่ไก่ มันต่างกันอย่างไร?ใช้กับสภาพผิวแบบไหน? เรามาลองดูกันคะ





สีม่วง # เหมาะกับสาวสำหรับผิวที่ซีดเหลือง


สีเขียว # เหมาะกับสำหรับผิวที่มีจ้ำ หรือผื่นแดง หรือคนที่มีผิวออกคล้ำดำแดง เพื่อลบรอยแดง


สีส้ม # เหมาะสำหรับคนที่ผิวคล้ำจัด เช่น ผิวของสาวอาฟริกัน เพื่อปรับให้ผิวสว่างมากขึ้น


สีเหลือง # เหมาะกับการใช้อำพรางรอยฟกช้ำ หรือรอยคล้ำใต้ตาได้


สีขาว # ช่วยทำให้สีผิวสว่างกระจ่างขึ้น
สีบรอนซ์

สีทอง # ช่วยให้ผิวมีสีแทน สีบ่มแดด เหมือนผ่านการอาบแดด 


สีฟ้า # เหมาะกับคนที่อาบแดดจนสีผิว Burn จนเกินไป ปรับให้สีผิวดูธรรมชาติขึ้น
สีเบจ หรือ...

สีไข่ไก่ # ทำให้เครื่องสำอางค์ยึดเกาะผิวดีขึ้นอย่างเดียว (คุณสมบัติอีกประการของเบส) และไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยน


สีชมพู # สำหรับผู้มีผิวสีขาวจัด ขาวจนเหมือนกระดาษ เพื่อเพิ่มความเปล่งปลั่งนั่นเองค่าาา





Step 2
       เพื่อเป็นการบล็อคผิวขั้นแรก ก็ลง "คอนซีลเลอร์" ต่อกันคะ คอนซีลเลอร์จะช่วย ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา รอยดำ จุด่างดำ หรือ ฝ้า กระ ต่าง ให้เนียนขึ้น หลังจากลงเบสเป็นขั้นพื้นฐานนั่นเองค่า



Step 3
       การลง Blush Cream แบบง่าย และรวดเร็วสุด คือลงพร้อมกับรองพื้น แล้วค่อยๆใช้นิ้วกลางกับนิ้วชี้ ค่อยๆ เกลี่ยๆ ทั่วบริเวณพวงแก้มของเราค่ะ

Step 4
       การลงแป้ง สำหรับกันน้ำนี้ควรเลือกแป้ง ประเภท แป้งโฟมคะ แป้งโฟมนี้เป็นนวัตกรรมเครื่องสำอางสูตรเกาหลีชนิดหนึ่ง มีความพิเศษที่เหนือกว่า BB ครีม เพราะทั้ง BB ครีม  และ แป้งโฟม มีส่วนประกอบ คือ Base + Foundation + Sunblock + Skincare แต่แป้งโฟมมีตัวที่พิเศษ ขึ้นมาคือ  ซิลิโคนป้องกันการละลายน้ำ นั่นเองจ้าจึงทำให้ แป้งโฟม มีคุณสมบัติที่มีความแห้งคล้ายแป้ง มีคุณสมบัติทั้งกันน้ำ กันเหงื่อ จึงไม่เป็นคราบค่าาา



Step 5
       สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดค่ะ การเขียนตาและปัดมาสคาร่า นั่นเองจ้า ควรเลือกแบบที่เป็น Water proof ค่ะ ทั้งดินสอ แบบเจล  ลิควิด ปากกาเมจิก และ มาสคาร่า ค่ะ เพราะจะเป็นสิ่งแรกเลยที่จะซับน้ำไว้ เพราะฉะนั้น การเลือกแบบ Water proof นี้ จะช่วยทำให้ Eye makeup ของเราไม่เลอะ และไหลเยิ้มระหว่างวัน หรือหลังโดนน้ำนั่นเองค่ะ



Step 6
       สุดท้าย คือการลงสีให้ปากของเราสดสวย ตลอดวัน โดนน้ำก็ไม่หายไม่เลือน ควรเลือก Lip แบบ Tint ค่ะ เพราะ จะซึม ติดปากเราได้ดี กว่า ลิปทั่วๆไปค่า (ลองแต่งสีสดๆดูค่ะ โดดเด่นแน่นอน อิอิ)



REFRESHING MAKE UP



        การสเปรย์ด้วยน้ำแร่หลังการแต่งหน้า ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้ Make up ของสาวๆไม่เลือนลาง และ ติดทนนานมากขึ้น สามารถสเปรย์ได้ตลอดทั้งวัน เพราะนอกจากจะช่วยเซทเครื่องสำอางให้อยู่ด้วยแล้ว ยังทำให้ผิวของสาวๆ รู้สึกสดชื่น และลดการระคายเคืองผิว ที่โดนแสงแดดเผาตลอดทั้งวันด้วยจ้า

        ไม่ต้องห่วงความโปรฯ แค่นี้สาวๆ เราเอาอยู่ สนุกสดชื่นแน่ๆ กับ Refreshing Summer นี้ค่าาาา