Pay it Forward

กระทู้สนทนา
Pay it Forward  เป็นชื่อภาพยนตร์ ที่เราเคยดูเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
เนื้อหาและความหมายของ Pay it Forward  ลองอ่านจากเว็บนี้นะคะ
http://www.cityvariety.com/citytalk-8098.html
เราเป็นคนหนึ่ง ที่ดำเนินชีวิตโดยอาศัยหลัก Pay it Forward มานานหลายปีแล้วค่ะ
Pay it Forward  เกี่ยวข้องกับพวกแมวๆ ของเรายังไง  เราจะเล่าให้ฟังค่ะ

เรามีโรคประจำตัว
ค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นสูงมาก  หากจะมองว่า การที่เรามีโรคประจำตัวเป็นโชคร้าย
ก็คงต้องบอกว่าในความโชคร้ายของเรานั้นยังมีความโชคดี  คือบริษัทที่เราทำงานออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด

เราขอบคุณบริษัท และขอบคุณโลกนี้ด้วยการ Pay it forward  ส่งต่อความโชคดีของเรา ให้กับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์
แต่เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องแมว  เราจะเล่าเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับแมวนะคะ
หากเพื่อนๆ เคยผ่านตากับกระทู้ต่างๆ ของเรามาบ้าง  คงพอจะจำแมวๆ ของเราได้

หมูยอ  ถูกรถชนขาหัก หางหัก   ต้องผ่าตัดใส่เหล็ก และตัดหางออกจนชิดก้น
บุนบุน  ถูกโยนลงมาจากชั้น 5 ของอาคารจอดรถห้างเซ็นทรัล บางนา กระดูกสะโพกหลุด ฟันหัก ปากฉีก
บุญรักษา ลำไส้หลุดออกมานอกก้น ติดเชื้อจนลำไส้เสียหายมากถ่ายเรี่ยราดตลอดเวลา  เป็นเอดส์ เป็นโรคไต
เจ้าตาใสที่ถูกหมารุมกัด (แต่น้องจากไปแล้วค่ะ T^T)

ทุกๆ ครั้งที่พาแมวพเนจรที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยไปรักษา  เราจะบอกคุณหมอทุกคนว่าให้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
และขอให้ดูแลพวกเขาอย่างดีที่สุด
เราไม่เคยเสียดายเงินจำนวนมากที่จ่ายไป  เราไม่เคยรู้สึกว่าเป็นภาระที่จะต้องรับดูแลแมวเจ็บป่วยเหล่านั้น
ตรงกันข้าม เรารู้สึกว่าเป็นโชคดีทั้งของแมวและของเราจริงๆ
แมวโชคดีที่ได้รับการดูแลรักษา ได้มีชีวิตอยู่  มีที่อยู่  มีที่กิน มีบ้านที่ปลอดภัย
ส่วนเราก็โชคดีที่ได้ส่งต่อความโชคดีนั้นอีกแล้ว

ตอนนี้เรามีแมวทั้งหมด 12 ตัว
นอกจากแมวพเนจร 2 ตัว (ตอนนี้ไม่ต้องพเนจรแล้วนะ)  ที่เคยเล่าว่าเป็นเอดส์และลิวคีเมีย จากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/30308385
ยังมีแมวเด็กอีก 2 ตัวที่กำลังสู้กับ FIP    หนึ่งในสองกำลังถูกมอนิเตอร์ว่าอาจจะเป็นมะเร็งในลำไส้
แมวโตอีก 3 ตัวค่าไตสูง (ตอนนี้เริ่มลดแล้ว)  อีก 1 ตัวค่าตับสูง 400 กว่าๆ

ทุกวันเมื่อกลับถึงบ้าน  เรากับสามีต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงในการปรนนิบัติแมว
ด้วยการหยอดยา (ทุก 15 นาที เป็นเวลา 1.5 ชม.) ป้อนยา ปล่อยให้วิ่งเล่น ตักกระบะทราย ให้น้ำ ให้อาหาร จากนั้นถึงจะได้อาบน้ำนอน
ตื่นแต่เช้ามืด เพื่อปล่อยแมวออกมาวิ่งเล่นรอบเช้า  ป้อนยา  ตักอึ ให้อาหาร  ถึงจะไปทำงานได้
ถึงจะเหนื่อยในการดูแล  แต่เราก็ไม่เคยเบื่อ ไม่เคยหงุดหงิดเลยค่ะ เห็นหน้าพวกแมวๆ แล้วก็ชื่นใจ
แต่สิ่งที่ทำให้เหนื่อยใจ  ท้อใจ  คือเป็นโรคที่รักษายาก  รักษาไม่หาย

ในการดูแลและรักษาแมวเจ็บป่วยของเรานั้น  เราทำทุกอย่าง ทุกทางที่คุณหมอของเราจะนึกได้
แมวของเราต้องใช้ยา hample จากออสเตรเลีย  ใช้อินเตอร์ฟีรอน โอเมก้า  ที่ค่อนข้างแพง
และต้องใช้กันยาวนาน ไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆ  อีกไม่นานก็คงต้องใช้ AZT และคีโมอีก T^T
สิ่งเหล่านี้นอกเหนือจากความรักแมวเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว  เราทำด้วยหลัก Pay it Forward
เพราะเราโชคดีมากที่อยู่ในการดูแลของหมอที่เก่งมากๆและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย
เราเลยส่งต่อความโชคดีนั้นๆ ให้แก่พวกแมวๆ ให้พวกเขาอยู่ในมือคุณหมอที่เก่งมากๆ เช่นกัน
และใช้ยา ใช้การรักษาทุกอย่างเท่าที่มนุษย์เราจะค้นพบได้

มีอยู่วันหนึ่ง คุณหมอที่ดูแลแมวของเราอยู่ เห็นเราน้ำตาซึมๆ เมื่อฟังผลตรวจ + ผลเลือดที่ออกมาไม่ดี
คุณหมอพูดกับเราว่า  “ไม่ต้องเสียใจ ตั้งแต่หมอเห็นคุณมา  คุณไม่ได้ทำอะไรขาดตกบกพร่องเลย”
เราจารึกคำพูดของคุณหมอไว้ในใจ  วันใดที่แมวของเราตัวใดตัวหนึ่งต้องจากไป
เราจะได้พูดกับตัวเองได้ว่า  เราทำดีที่สุดแล้ว


เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา  ไม่ได้มีเจตนาจะโอ้อวดความดีหรอกค่ะ (เพราะสิ่งเหล่านี้เพื่อนๆ ห้องแมวทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว)
แต่เราหวังว่า เรื่องราวการส่งต่อความโชคดีของเรา อาจจะทำให้ใครสักคนที่ผ่านมาอ่าน
นึกอยากส่งต่อความโชคดีของเขาให้ผู้อื่นบ้าง เสมือนการจุดเทียนจากเล่มนี้ไปสู่เล่มนั้น

ขอบคุณทุกกิฟท์  ทุกความเห็น ทุกกำลังใจที่เพื่อนๆ ในห้องแมวเคยมีให้เรามาตลอด
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่