เกริ่นแบบนี้นะครับ แฟนคนล่าสุดของผม เลิกกันตอน ปี 53 นะครับ ผมเจอกับเธอ(ผู้หญิงในเรื่องนี้)ตอนต้นปี 55 เลิกกับแฟนเก่ามาแล้ว 2 ปี ครับ
" ยาวขนาด 7627 ตัวอักษร แต่นี้คือเรื่องจริงที่ผมอัดอั้นใจมา หลายเดือนจริงๆ"
ประมาณ 7 เดือนแล้วครับ ที่เปลี่ยนที่ทำงานมาทำงานตัวเอง ที่ทำงานเก่าผมได้ชอบผู้หญิงคนนึง เธอก็สวยในสายตาผม จริงๆผมชอบที่นิสัยเธอมากกว่าเธอเฮอามากครับ ลุยๆ แต่ เธอมีแฟนอยู่ครับ แล้วผมพึ่งรู้ว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว หลังจากที่ผมทำดีกับเธอ พูดคุยกับเธอบ่อยๆ แต่เธอก็มาปรึกษาเรื่องแฟนเธอกับผมว่า มันเลวอย่างงั้นอย่างงี้ ทำยังไงดี เอาจริงๆตอนนั้นผมจิ้ดมากเลยละ คือแบบสิ่งที่ผมทำไป คุณไม่รู้เหรอว่าผมคิดยังไง แต่เธอก็ยังให้อภัยเขาแล้วให้เขากลับมาอีก แต่ในที่สุด เขาคนนั้นก็ทำเธอเสียใจอีกครับ โดยทิ้งเธอไปอีกครั้ง
รูมเมท เธอบอกผมว่า เธอนั้งร้องไห้อยู่ที่ห้อง ข้างนอกไม่ค่อยร้องหรอก แล้วไม่ค่อยกินอะไร ผมก็เป็นห่วงเธอมากนะ ผมเลยซื้อพวกนมและขนมที่เธอชอบกิน ให้เพื่อนเธอเอาไปแช่ตู้เย็นไว้แล้วว่าเป็นคนซื้อมาเองนะ เพื่อนเธอก็โอเค ทำตามผม [รูมเมทเธอไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน]
พอเธอเลิกกับแฟนคนนั้น เธอก็เงียบๆลงนิดนึงครับ ข้าวเที่ยงก็ไม่ยอมกิน เธอบอกผมว่ากลัวอ้วน จริงๆเธอผอมมากครับ เธอคงทุกข์ใจกับเรื่องแฟนมาก ผมก็เป็นห่วงเธอนะว่ากลัวจะเป็นอะไร ก็ไปถามว่าจะเอาอะไรใหม จะซื้อมาฝากอะไรแบบเนี่ย เธอก็ฝากบ้างอะไรบ้างผมก็ยังรู้สึกโอเค วันใหนเธอไม่ฝากผมก็จะซื้อของมาตุนไว้ เพราะเธอจะชอบบ่นๆว่าหิวช่วงบ่ายๆกับคนในฝ่าย บางทีคนในฝ่ายไม่มีอะไร ผมก็จะบอกเธอว่า เนี่ยซื้อมาไม่ได้กินเลย ลูกค้าเข้ามาคุยเยอะ เธอเอาไปกินสิ ไม่ต้องเกรงใจ เธอก็กินของผมอยู่นะครับ
แล้วหลังจากนั้นเธอก็เหมือนว่าจะใจอ่อนนิดๆ เธอคงรู้แล้วละว่าผมชอบแต่เธอมีคนอื่นอยู่เลยยังไม่อะไรมาก ตอนผมต้องทำงานเลยเที่ยงหรือต้องรับลูกค้าจนไม่ได้กินข้าวตามเวลา เธอก็จะถามผมบ้างว่าจะซื้ออะไรบ้างใหม ตอนกลับบ้านเธอก็จะเดินผ่านโต้ะผมแล้วบอกว่ากลับบ้านแล้วนะ บางวันไม่พูดก็ทำมือ บ้ายบาย ให้ ผมคนเดียว ผมโพส facebook อะไร เธอก็จะมาคุยมาแซวกับผมบ้าง ผมก็จะเข้าไปแซวเธอบ้าง แล้ว จนเหมือนเธอจะติดตามผมขนาดผมโพสแล้วลบ เธอยังรู้ว่าผมโพสแล้วลบไปเลย ตอนนั้นผมเองนึกว่าจะมีโอกาศบ้าง
แล้วในที่สุด เธอก็ได้ไปสนิทสนมกับ นศ ทันตแพทย์ คนนึงที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของน้องเธอที่ยังเรียนอยู่ แต่เขาอยู่ต่างจังหวัดเลยได้คุยกันทาง facebook เธอก็คุยหยอกกับเขาแบบสนิทมาก tag กันบ่อยๆ ส่งของไปให้กันอีก จนแบบว่าผมรู้สึกผิดหวังอีกครั้ง "ผมคิดไปเอง" ว่าน้องเขาคงจะแนะนำหมอนี่ให้เธอ แล้วเธอก็สนใจ เพราะอยู่่ดีๆหมอนี่ก็โผล่มาแบบไม่ทันรู้ตัวจริงๆ แล้วเขาก็พูดในฝ่ายว่าเออ เป็นแฟนกับหมอดีใหมน้า พูดว่าเขาทำดีอย่างงั้นอย่างงี้ ผมก็เออ..เศร้าอะจิ้ดเลย แถมหลังๆเธอไม่ค่อยคุยกับผมอีก ทั้งชีวิตจริงและใน facebook อาจจะเพราะงานยุ่งรึเปล่าผมเองก็ไม่แน่ใจ หรือไม่อยากให้หมอว่ามั้ง [ผมคิดไปเองอีกแล้ว]
แล้วช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมขายที่ของพ่อได้ [เดือน 6 ปี 55] ผมได้ส่วนแบ่งจากพ่อมาพอสมควร ผมเลยตัดสินใจว่าประมาณเดือน 10 ผมจะลาออกไปทำงานของตัวเอง แล้ววันนึงเธอก็โพสรูปเธอแต่งตัวเตรียมนอนที่ห้อง ผมก็เข้าไปเขียนว่า " อืมก็น่ารักดีนิ แต่จะนอนต้องติดขนตาปลอมด้วยเหรอ " เธอไม่ได้สวนมาแบบเดิม เธอสวนผมเข้ามาว่า " พี่ควรจะอยู่ส่วนพี่ได้แล้วนะ " ผมก็ห้ะ !? ผมก็ตอบไปว่า " อะไรแซวโกรธเหรอวันนี้ งั้นพี่ขอโทษนะ " เธอก็สวนกลับมาอีกว่า "เลิกวุ่นวายกับเราได้ละ " เอาจริงๆตอนนั้นผมจิ้ดเลยนะ ผมเสียใจนะ ผมคิดไปว่า เธออาจจะชอบกับหมอแล้ว เธอเลยไม่อยากให้ผมอะไรกับเธอมาก วันรุ่งขึ้น เธอเดินผ่านโต้ะผม เธอไม่เอียงตามองผมเลยด้วยซ้ำ เธอเดินไปแบบเงียบๆ ทั้ง 3 วันก่อนสิ้นเดือน
ผมไม่รุ้เลยว่าเธอโกรธอะไรผม โกรธที่ผมไปถ่าย vdo ตอนเธอตีแบตหรอ ? คือปกติออฟฟิสจะไปตีแบตกันถ้าว่างๆ
วันนั้นผมพักเหนือยผมนั้งพัก ก็กดโทรศัพท์ถ่าย vdo รุ่นน้องผมที่อยู่ฝั่งนี้ เธอตีฝั่งนู้น ผมก็ถ่ายรวมๆนะ แต่มันก็ติดเธอนิดหน่อย
แต่ก็ไม่ได้ชัดอะไรเพราะไกล แต่เธอดันเดินมาบอกเมื่อกี้ ถ่ายอะไร ผมก็บอกก็ถ่ายแมทคู่เธอกับรุ่นน้องผมไง เธอก็มาดูนะ แต่พอกลางคืนก่อนวันที่เธอพูดกับผมแบบนั้น เธอโพส facebook ว่าเกลียดนัก คนแอบถ่ายโดยไม่ขออนุญาติเนี่ย ผมก็เลย โพสกลับไปว่า " ถ้าผมทำผิด ผมก็ขอโทษด้วยแล้วกัน แต่ผมไม่ได้เจตนาที่จะถ่ายเธอ " แต่คลิบนั้นผมก็เอาลง facebook นะ แต่ผมจำกัดคนดูได้ เฉพาะพวกที่ไปด้วยกันเท่านั้น
เพราะรุ่นน้องผมขอดูด้วย อาจจะเพราะสาเหตุนี้ !?
เอาจริงๆแล้ว ตั้งแต่ที่เธอพูดกับผมแบบนั้น เธอเฉยกับผม ผมรู้สึกแย่จริงๆนะ ไม่อยากทำงานต่อ อาจจะเพราะเสียใจเรื่องนี้มาติดๆกันหลายเดือนแล้ว [เธอเข้ามาทำงานตั้งแต่ปีใหม่ แต่ก่อนหน้านี้เธอก็มาฝึกงานที่นี่เหมือนกัน ทำให้เรารุ้จักกันมาเป็นปีแล้ว] อาจเพราะใจนึงผมมีทางที่จะสร้างธุรกิจเพิ่มเติมได้แล้ว(จริงๆปกติ ผมทำธุรกิจตัวนี้อยู่แล้ว แต่ผมทำไม่เยอะและไม่ลงทำเองเต็มที่ แม่ผมช่วยอยู่ และขาดเงินทุน) สิ้นเดือนผมเลยตัดสินใจ ยิ่นใบลาออกผ่านทางเลขาของ ผจก ไม่ให้ ผจก โดยตรงด้วย เพราะกลัวเขาพูดจนผมไม่อยากออก และผมไม่ได้บอกใครในออฟฟิส นอกจาก ในแผนกผมที่ผมจ่ายงานให้รุ่นน้องไปหมดแล้ว จากนั้นผมก็ไม่ไปทำงานอีกเลย ผมยกเลิกใช้ facebook ของผม ไม่ติดต่อใคร ผมไม่รับโทรศัพท์คนในออฟฟิส กลัวเขาจะมาพูดให้ผมกลับ เปิดแต่ ทวิสเตอร์ ที่เผื่อรุ่นน้องในแผนกจะถามอะไรเท่านั้น คนอื่นๆไม่รู้ว่าผมเล่นทวิสเตอร์นะ ผมก็ลงมือทำธุรกิจของผมเต็มตัวทันที ไม่ได้รอเดือน 10 ตามที่คิดไว้
แต่เรื่องก็เกิดหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ เธอ และ เพื่อนๆ และ เลขา มาหาผมที่ร้าน ถามว่าทำไมไม่ไปทำงานเป็นอาทิตย์แล้ว
เจ้านายบ่นใหญ่เป็นห่วงว่าเป็นอะไรไป ผมก็บอกว่า ผมลาออกแล้วนะ ผมยื่นใบให้เลขาแล้วไง
เลขาบอกผมว่า ก็อยากรู้จากปากว่าทำไมลาออก เพราะวันนั้นไม่ได้ถามว่าทำไม ผมก็เลยบอกไปว่า
ผมจะทำงานของตัวเองให้เต็มที่ พอดีอยากให้แม่พัก เพราะแม่ไม่ค่อยสบายด้วย ( จริงๆแม่เป็นไทรอย ผ่าแล้วหมอสั่งพักห้ามทำงาน 10 เดือน ถ้าไม่หายอาจจะเป็นปี และห้ามแม่ใช้เสียง เลี่ยงเหงื่อยออก กลัวแผลผ่าตัดติดเชื่อ ตอนนี้วันที่เขียน แม่ยังเสียงแหบอยู่เลยครับ ซึ่งจะมาช่วยผมดูแลงานไม่ได้แน่ๆ) เธอก็พูดดีกับผมซะงั้น บอกว่า " เออ พี่คงมีอารมณ์แบบไม่อยากทำงานใช่เปล่า เธอก็เคยเป็นนะ แต่เธอก็อดทนไว้ " เธอก็ถามนู้นถามนี้มากมาย อารมณ์เป็นห่วง ผมนึกว่าเธอคงพูดให้ผมแค่กลับไปทำงานนั้นละ ผมนึกนะเธอมาพูดดีๆกับผมอีก เพราะอะไร ?? ผมไม่เข้าใจ เอาจริงๆ ผมเสียใจนะ ว่าเออ..ทำไมมาพูดดีอีก อารมณ์แปรปรวนจัง ผมก็บอกว่า " ผมอยากจะรับผิดชอบครอบครับผม ต้องขอโทษทุกๆคนที่มาเสียเที่ยวแล้ว ผมคงไม่ได้ไปทำงานอีกแล้ว " พวกเขาก็ฟังเหตุผลผมก็เข้าใจ เลขาเลยบอกว่าจะยื่นจดหมายลาออกเป็นทางการให้
5062 ตัวอักษรแล้วคิดว่าจะจบใช่ใหมครับ ?
เมื่อไม่กี่วันนี้ ผมไปติดต่อบริษัทลูกค้าที่นึง ผมได้เจอรูมเมทของเธอเป็นเลขาอยู่ครับ เราก็ทักกันอยู่นะครับ ว่าเป็นไง สบายดีใหม
ผมก็ถามถึงเธอว่าเป็นยังไงบ้าง แต่เธอก็ไม่พูด เธอบอกว่า เดี่ยวเธอจะเลิกงานตอนบ่ายโมง อยู่กินกาแฟกันก่อนสิ
ผมก็อยู่รอครับเพราะผมเสร็จงานเหมือนกัน
รูมเมทเธอเล่าเรื่องหลังจากผมเลิกใช้ facebook หลังจากออกจากงาน ไปแล้วให้ฟัง ทำเอาผมอึ้งไปพอสมควร
- วันที่เธอมาหาผมที่พัก เธอเป็นคนขอร้องให้เลขาขับรถพาเธอมาหาผมที่พักเอง เพราะรู้สึกเป็นห่วงที่ไม่ได้ไปทำงาน
- คืนนั้น เธอนั้งร้องไห้อยู่ที่คอนโด เพราะเธอเสียใจว่า เธออาจจะเป็นคนที่ทำให้ผมอยากจะลาออกเพราะคำพูดเธอ
เพราะผมไปปิด facebook นั้นละ ทำให้เธอคิด
- นศ ทันตแพทย์ ที่เธอคุยใน facebook จริงๆแล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน รู้สึกว่าเป็นลูกป้า ของเธอที่สนิทกันมาก [ผมรู้สึกว่าผมโง่จริงๆ]
- หลังจากเธอเลิกกับแฟนคนเก่า เพื่อนเธอเล่าว่า เธอเหมือนจะใจอ่อนกับผมอยู่จริงๆ เธอดู facebook ผม ทุกวัน และคุยกับรูมเมทเธอ
เรื่องที่ผมโพส ( เอาจริงๆ ผมไม่ได้คิดเลย เธอชอบพูดกับผมบ่อยๆว่า เดี่ยวนี้อัพเฟสบ่อยนะ )
- ที่เธอทำสนิทกับ นศ ทันตแพทย์ เพราะเธอต้องการทดสอบใจผมว่า ผมชอบเธอจริงหรือเปล่า เลยบอกให้ นศ ทันตแพย์คนนั้นช่วย
( จริงๆแล้ว นศ ทันตแพทย์คนนี้มีแฟนอยู่แล้ว คบกันมาราวๆ 4 ปีแล้ว ข้อนี้ทำให้ผมรู้สึกโง่อีกแล้ว )
- เธอเคยบอกกับเพื่อนเธอ ผมก็น่าสนใจแต่ว่าผมอ้วนไปเธอเลยบอกกับเพื่อนว่าอาจจะชวนไปเล่นฟิตเนตด้วยกันอยู่
- ที่เธอเคยมาปรึกษาเรื่องแฟนเก่า เพราะเธออยากให้ผมรู้ว่า เธอกำลังจะโสดแล้วนะ
และ เพื่อนเธอบอกว่า ตอนเนี่ยเธอยังไม่มีใครนะ ไม่มีใครจีบด้วย วันๆทำงาน ทำงานเสร็จก็ไปเรียน ป โท ยุ่งมากๆ
ถ้าพี่ยังชอบเธออยู่อะ ให้บอกเดี่ยวเขาจะช่วยให้ได้มาเจอกันอีก ผมก็ยิ้มๆ รับไปนะ แต่ผมก็ขอเบอร์รูมเมท กับ เบอร์เธอไว้แล้ว
ใจจริงๆผมชอบเธออยู่นะ แต่ผมรู้สึกจริงๆว่าตอนนั้นผมโดนเธอเล่นกับความรู้สึกของผมอยู่ ไม่รู้เธอไม่คิดเหรอว่าผู้ชายก็มีหัวใจเหมือนผู้หญิงโดนทำร้ายความรู้สึกมันก็เสียใจเป็นเหมือนกัน แต่ผมอาจจะตัดสินใจออกมาเร็วไป จนผมกลับไปทำร้ายความรู้สึกเธอด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ผมรู้สึกไม่อยากสู้หน้าเธอด้วยซ้่ำ ขนาด line ที่ได้มาเพราะเมมเบอร์โทรศัพท์ ผมยังไม่กล้ากดไปคุยกับเธอเลย นี่เพื่อนเธอก็บอกผมใน line ว่า
วันสงกรานต์เธอกับเพื่อนจะไปสีลมเพราะเพื่อนๆเธอที่มหาลัยจะไปมิตติ้งกัน ด้วย เธอเลยบอกให้ผมไปด้วย ไปบังเอิญเจอกันก็ได้ เผื่อจะได้คุยกัน
แล้วเพื่อนสมาชิกผู้หญิงในนี้เจอแบบนี้จะรู้สึกยังไงกับผู้ชายแบบผม ถ้าผมจะกลับไปขอโทษและไปขอเป็นคนรู้จักกันอีกครั้ง แล้วเพื่อนสมาชิกผู้ชายจะไปหาผู้หญิงคนนี้ดีรึเปล่า ถ้าไปจะเริ่มยังไงดี?
เอาจริงๆได้เขียนระบายออกมาหน่อย โล่งใจดีเหมือนกัน
ผมสงสัยว่า ถ้าเพื่อนๆสมาชิกในนี้เจอเรื่องแบบนี้ เพื่อนๆจะทำอย่างไรกัน
" ยาวขนาด 7627 ตัวอักษร แต่นี้คือเรื่องจริงที่ผมอัดอั้นใจมา หลายเดือนจริงๆ"
ประมาณ 7 เดือนแล้วครับ ที่เปลี่ยนที่ทำงานมาทำงานตัวเอง ที่ทำงานเก่าผมได้ชอบผู้หญิงคนนึง เธอก็สวยในสายตาผม จริงๆผมชอบที่นิสัยเธอมากกว่าเธอเฮอามากครับ ลุยๆ แต่ เธอมีแฟนอยู่ครับ แล้วผมพึ่งรู้ว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว หลังจากที่ผมทำดีกับเธอ พูดคุยกับเธอบ่อยๆ แต่เธอก็มาปรึกษาเรื่องแฟนเธอกับผมว่า มันเลวอย่างงั้นอย่างงี้ ทำยังไงดี เอาจริงๆตอนนั้นผมจิ้ดมากเลยละ คือแบบสิ่งที่ผมทำไป คุณไม่รู้เหรอว่าผมคิดยังไง แต่เธอก็ยังให้อภัยเขาแล้วให้เขากลับมาอีก แต่ในที่สุด เขาคนนั้นก็ทำเธอเสียใจอีกครับ โดยทิ้งเธอไปอีกครั้ง
รูมเมท เธอบอกผมว่า เธอนั้งร้องไห้อยู่ที่ห้อง ข้างนอกไม่ค่อยร้องหรอก แล้วไม่ค่อยกินอะไร ผมก็เป็นห่วงเธอมากนะ ผมเลยซื้อพวกนมและขนมที่เธอชอบกิน ให้เพื่อนเธอเอาไปแช่ตู้เย็นไว้แล้วว่าเป็นคนซื้อมาเองนะ เพื่อนเธอก็โอเค ทำตามผม [รูมเมทเธอไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน]
พอเธอเลิกกับแฟนคนนั้น เธอก็เงียบๆลงนิดนึงครับ ข้าวเที่ยงก็ไม่ยอมกิน เธอบอกผมว่ากลัวอ้วน จริงๆเธอผอมมากครับ เธอคงทุกข์ใจกับเรื่องแฟนมาก ผมก็เป็นห่วงเธอนะว่ากลัวจะเป็นอะไร ก็ไปถามว่าจะเอาอะไรใหม จะซื้อมาฝากอะไรแบบเนี่ย เธอก็ฝากบ้างอะไรบ้างผมก็ยังรู้สึกโอเค วันใหนเธอไม่ฝากผมก็จะซื้อของมาตุนไว้ เพราะเธอจะชอบบ่นๆว่าหิวช่วงบ่ายๆกับคนในฝ่าย บางทีคนในฝ่ายไม่มีอะไร ผมก็จะบอกเธอว่า เนี่ยซื้อมาไม่ได้กินเลย ลูกค้าเข้ามาคุยเยอะ เธอเอาไปกินสิ ไม่ต้องเกรงใจ เธอก็กินของผมอยู่นะครับ
แล้วหลังจากนั้นเธอก็เหมือนว่าจะใจอ่อนนิดๆ เธอคงรู้แล้วละว่าผมชอบแต่เธอมีคนอื่นอยู่เลยยังไม่อะไรมาก ตอนผมต้องทำงานเลยเที่ยงหรือต้องรับลูกค้าจนไม่ได้กินข้าวตามเวลา เธอก็จะถามผมบ้างว่าจะซื้ออะไรบ้างใหม ตอนกลับบ้านเธอก็จะเดินผ่านโต้ะผมแล้วบอกว่ากลับบ้านแล้วนะ บางวันไม่พูดก็ทำมือ บ้ายบาย ให้ ผมคนเดียว ผมโพส facebook อะไร เธอก็จะมาคุยมาแซวกับผมบ้าง ผมก็จะเข้าไปแซวเธอบ้าง แล้ว จนเหมือนเธอจะติดตามผมขนาดผมโพสแล้วลบ เธอยังรู้ว่าผมโพสแล้วลบไปเลย ตอนนั้นผมเองนึกว่าจะมีโอกาศบ้าง
แล้วในที่สุด เธอก็ได้ไปสนิทสนมกับ นศ ทันตแพทย์ คนนึงที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของน้องเธอที่ยังเรียนอยู่ แต่เขาอยู่ต่างจังหวัดเลยได้คุยกันทาง facebook เธอก็คุยหยอกกับเขาแบบสนิทมาก tag กันบ่อยๆ ส่งของไปให้กันอีก จนแบบว่าผมรู้สึกผิดหวังอีกครั้ง "ผมคิดไปเอง" ว่าน้องเขาคงจะแนะนำหมอนี่ให้เธอ แล้วเธอก็สนใจ เพราะอยู่่ดีๆหมอนี่ก็โผล่มาแบบไม่ทันรู้ตัวจริงๆ แล้วเขาก็พูดในฝ่ายว่าเออ เป็นแฟนกับหมอดีใหมน้า พูดว่าเขาทำดีอย่างงั้นอย่างงี้ ผมก็เออ..เศร้าอะจิ้ดเลย แถมหลังๆเธอไม่ค่อยคุยกับผมอีก ทั้งชีวิตจริงและใน facebook อาจจะเพราะงานยุ่งรึเปล่าผมเองก็ไม่แน่ใจ หรือไม่อยากให้หมอว่ามั้ง [ผมคิดไปเองอีกแล้ว]
แล้วช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมขายที่ของพ่อได้ [เดือน 6 ปี 55] ผมได้ส่วนแบ่งจากพ่อมาพอสมควร ผมเลยตัดสินใจว่าประมาณเดือน 10 ผมจะลาออกไปทำงานของตัวเอง แล้ววันนึงเธอก็โพสรูปเธอแต่งตัวเตรียมนอนที่ห้อง ผมก็เข้าไปเขียนว่า " อืมก็น่ารักดีนิ แต่จะนอนต้องติดขนตาปลอมด้วยเหรอ " เธอไม่ได้สวนมาแบบเดิม เธอสวนผมเข้ามาว่า " พี่ควรจะอยู่ส่วนพี่ได้แล้วนะ " ผมก็ห้ะ !? ผมก็ตอบไปว่า " อะไรแซวโกรธเหรอวันนี้ งั้นพี่ขอโทษนะ " เธอก็สวนกลับมาอีกว่า "เลิกวุ่นวายกับเราได้ละ " เอาจริงๆตอนนั้นผมจิ้ดเลยนะ ผมเสียใจนะ ผมคิดไปว่า เธออาจจะชอบกับหมอแล้ว เธอเลยไม่อยากให้ผมอะไรกับเธอมาก วันรุ่งขึ้น เธอเดินผ่านโต้ะผม เธอไม่เอียงตามองผมเลยด้วยซ้ำ เธอเดินไปแบบเงียบๆ ทั้ง 3 วันก่อนสิ้นเดือน
ผมไม่รุ้เลยว่าเธอโกรธอะไรผม โกรธที่ผมไปถ่าย vdo ตอนเธอตีแบตหรอ ? คือปกติออฟฟิสจะไปตีแบตกันถ้าว่างๆ
วันนั้นผมพักเหนือยผมนั้งพัก ก็กดโทรศัพท์ถ่าย vdo รุ่นน้องผมที่อยู่ฝั่งนี้ เธอตีฝั่งนู้น ผมก็ถ่ายรวมๆนะ แต่มันก็ติดเธอนิดหน่อย
แต่ก็ไม่ได้ชัดอะไรเพราะไกล แต่เธอดันเดินมาบอกเมื่อกี้ ถ่ายอะไร ผมก็บอกก็ถ่ายแมทคู่เธอกับรุ่นน้องผมไง เธอก็มาดูนะ แต่พอกลางคืนก่อนวันที่เธอพูดกับผมแบบนั้น เธอโพส facebook ว่าเกลียดนัก คนแอบถ่ายโดยไม่ขออนุญาติเนี่ย ผมก็เลย โพสกลับไปว่า " ถ้าผมทำผิด ผมก็ขอโทษด้วยแล้วกัน แต่ผมไม่ได้เจตนาที่จะถ่ายเธอ " แต่คลิบนั้นผมก็เอาลง facebook นะ แต่ผมจำกัดคนดูได้ เฉพาะพวกที่ไปด้วยกันเท่านั้น
เพราะรุ่นน้องผมขอดูด้วย อาจจะเพราะสาเหตุนี้ !?
เอาจริงๆแล้ว ตั้งแต่ที่เธอพูดกับผมแบบนั้น เธอเฉยกับผม ผมรู้สึกแย่จริงๆนะ ไม่อยากทำงานต่อ อาจจะเพราะเสียใจเรื่องนี้มาติดๆกันหลายเดือนแล้ว [เธอเข้ามาทำงานตั้งแต่ปีใหม่ แต่ก่อนหน้านี้เธอก็มาฝึกงานที่นี่เหมือนกัน ทำให้เรารุ้จักกันมาเป็นปีแล้ว] อาจเพราะใจนึงผมมีทางที่จะสร้างธุรกิจเพิ่มเติมได้แล้ว(จริงๆปกติ ผมทำธุรกิจตัวนี้อยู่แล้ว แต่ผมทำไม่เยอะและไม่ลงทำเองเต็มที่ แม่ผมช่วยอยู่ และขาดเงินทุน) สิ้นเดือนผมเลยตัดสินใจ ยิ่นใบลาออกผ่านทางเลขาของ ผจก ไม่ให้ ผจก โดยตรงด้วย เพราะกลัวเขาพูดจนผมไม่อยากออก และผมไม่ได้บอกใครในออฟฟิส นอกจาก ในแผนกผมที่ผมจ่ายงานให้รุ่นน้องไปหมดแล้ว จากนั้นผมก็ไม่ไปทำงานอีกเลย ผมยกเลิกใช้ facebook ของผม ไม่ติดต่อใคร ผมไม่รับโทรศัพท์คนในออฟฟิส กลัวเขาจะมาพูดให้ผมกลับ เปิดแต่ ทวิสเตอร์ ที่เผื่อรุ่นน้องในแผนกจะถามอะไรเท่านั้น คนอื่นๆไม่รู้ว่าผมเล่นทวิสเตอร์นะ ผมก็ลงมือทำธุรกิจของผมเต็มตัวทันที ไม่ได้รอเดือน 10 ตามที่คิดไว้
แต่เรื่องก็เกิดหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ เธอ และ เพื่อนๆ และ เลขา มาหาผมที่ร้าน ถามว่าทำไมไม่ไปทำงานเป็นอาทิตย์แล้ว
เจ้านายบ่นใหญ่เป็นห่วงว่าเป็นอะไรไป ผมก็บอกว่า ผมลาออกแล้วนะ ผมยื่นใบให้เลขาแล้วไง
เลขาบอกผมว่า ก็อยากรู้จากปากว่าทำไมลาออก เพราะวันนั้นไม่ได้ถามว่าทำไม ผมก็เลยบอกไปว่า
ผมจะทำงานของตัวเองให้เต็มที่ พอดีอยากให้แม่พัก เพราะแม่ไม่ค่อยสบายด้วย ( จริงๆแม่เป็นไทรอย ผ่าแล้วหมอสั่งพักห้ามทำงาน 10 เดือน ถ้าไม่หายอาจจะเป็นปี และห้ามแม่ใช้เสียง เลี่ยงเหงื่อยออก กลัวแผลผ่าตัดติดเชื่อ ตอนนี้วันที่เขียน แม่ยังเสียงแหบอยู่เลยครับ ซึ่งจะมาช่วยผมดูแลงานไม่ได้แน่ๆ) เธอก็พูดดีกับผมซะงั้น บอกว่า " เออ พี่คงมีอารมณ์แบบไม่อยากทำงานใช่เปล่า เธอก็เคยเป็นนะ แต่เธอก็อดทนไว้ " เธอก็ถามนู้นถามนี้มากมาย อารมณ์เป็นห่วง ผมนึกว่าเธอคงพูดให้ผมแค่กลับไปทำงานนั้นละ ผมนึกนะเธอมาพูดดีๆกับผมอีก เพราะอะไร ?? ผมไม่เข้าใจ เอาจริงๆ ผมเสียใจนะ ว่าเออ..ทำไมมาพูดดีอีก อารมณ์แปรปรวนจัง ผมก็บอกว่า " ผมอยากจะรับผิดชอบครอบครับผม ต้องขอโทษทุกๆคนที่มาเสียเที่ยวแล้ว ผมคงไม่ได้ไปทำงานอีกแล้ว " พวกเขาก็ฟังเหตุผลผมก็เข้าใจ เลขาเลยบอกว่าจะยื่นจดหมายลาออกเป็นทางการให้
5062 ตัวอักษรแล้วคิดว่าจะจบใช่ใหมครับ ?
เมื่อไม่กี่วันนี้ ผมไปติดต่อบริษัทลูกค้าที่นึง ผมได้เจอรูมเมทของเธอเป็นเลขาอยู่ครับ เราก็ทักกันอยู่นะครับ ว่าเป็นไง สบายดีใหม
ผมก็ถามถึงเธอว่าเป็นยังไงบ้าง แต่เธอก็ไม่พูด เธอบอกว่า เดี่ยวเธอจะเลิกงานตอนบ่ายโมง อยู่กินกาแฟกันก่อนสิ
ผมก็อยู่รอครับเพราะผมเสร็จงานเหมือนกัน
รูมเมทเธอเล่าเรื่องหลังจากผมเลิกใช้ facebook หลังจากออกจากงาน ไปแล้วให้ฟัง ทำเอาผมอึ้งไปพอสมควร
- วันที่เธอมาหาผมที่พัก เธอเป็นคนขอร้องให้เลขาขับรถพาเธอมาหาผมที่พักเอง เพราะรู้สึกเป็นห่วงที่ไม่ได้ไปทำงาน
- คืนนั้น เธอนั้งร้องไห้อยู่ที่คอนโด เพราะเธอเสียใจว่า เธออาจจะเป็นคนที่ทำให้ผมอยากจะลาออกเพราะคำพูดเธอ
เพราะผมไปปิด facebook นั้นละ ทำให้เธอคิด
- นศ ทันตแพทย์ ที่เธอคุยใน facebook จริงๆแล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน รู้สึกว่าเป็นลูกป้า ของเธอที่สนิทกันมาก [ผมรู้สึกว่าผมโง่จริงๆ]
- หลังจากเธอเลิกกับแฟนคนเก่า เพื่อนเธอเล่าว่า เธอเหมือนจะใจอ่อนกับผมอยู่จริงๆ เธอดู facebook ผม ทุกวัน และคุยกับรูมเมทเธอ
เรื่องที่ผมโพส ( เอาจริงๆ ผมไม่ได้คิดเลย เธอชอบพูดกับผมบ่อยๆว่า เดี่ยวนี้อัพเฟสบ่อยนะ )
- ที่เธอทำสนิทกับ นศ ทันตแพทย์ เพราะเธอต้องการทดสอบใจผมว่า ผมชอบเธอจริงหรือเปล่า เลยบอกให้ นศ ทันตแพย์คนนั้นช่วย
( จริงๆแล้ว นศ ทันตแพทย์คนนี้มีแฟนอยู่แล้ว คบกันมาราวๆ 4 ปีแล้ว ข้อนี้ทำให้ผมรู้สึกโง่อีกแล้ว )
- เธอเคยบอกกับเพื่อนเธอ ผมก็น่าสนใจแต่ว่าผมอ้วนไปเธอเลยบอกกับเพื่อนว่าอาจจะชวนไปเล่นฟิตเนตด้วยกันอยู่
- ที่เธอเคยมาปรึกษาเรื่องแฟนเก่า เพราะเธออยากให้ผมรู้ว่า เธอกำลังจะโสดแล้วนะ
และ เพื่อนเธอบอกว่า ตอนเนี่ยเธอยังไม่มีใครนะ ไม่มีใครจีบด้วย วันๆทำงาน ทำงานเสร็จก็ไปเรียน ป โท ยุ่งมากๆ
ถ้าพี่ยังชอบเธออยู่อะ ให้บอกเดี่ยวเขาจะช่วยให้ได้มาเจอกันอีก ผมก็ยิ้มๆ รับไปนะ แต่ผมก็ขอเบอร์รูมเมท กับ เบอร์เธอไว้แล้ว
ใจจริงๆผมชอบเธออยู่นะ แต่ผมรู้สึกจริงๆว่าตอนนั้นผมโดนเธอเล่นกับความรู้สึกของผมอยู่ ไม่รู้เธอไม่คิดเหรอว่าผู้ชายก็มีหัวใจเหมือนผู้หญิงโดนทำร้ายความรู้สึกมันก็เสียใจเป็นเหมือนกัน แต่ผมอาจจะตัดสินใจออกมาเร็วไป จนผมกลับไปทำร้ายความรู้สึกเธอด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ผมรู้สึกไม่อยากสู้หน้าเธอด้วยซ้่ำ ขนาด line ที่ได้มาเพราะเมมเบอร์โทรศัพท์ ผมยังไม่กล้ากดไปคุยกับเธอเลย นี่เพื่อนเธอก็บอกผมใน line ว่า
วันสงกรานต์เธอกับเพื่อนจะไปสีลมเพราะเพื่อนๆเธอที่มหาลัยจะไปมิตติ้งกัน ด้วย เธอเลยบอกให้ผมไปด้วย ไปบังเอิญเจอกันก็ได้ เผื่อจะได้คุยกัน
แล้วเพื่อนสมาชิกผู้หญิงในนี้เจอแบบนี้จะรู้สึกยังไงกับผู้ชายแบบผม ถ้าผมจะกลับไปขอโทษและไปขอเป็นคนรู้จักกันอีกครั้ง แล้วเพื่อนสมาชิกผู้ชายจะไปหาผู้หญิงคนนี้ดีรึเปล่า ถ้าไปจะเริ่มยังไงดี?
เอาจริงๆได้เขียนระบายออกมาหน่อย โล่งใจดีเหมือนกัน