พี่มากขา
เอาเท่าที่ความรู้สึกนึกปิ๊งแวบออกมาก่อน
นี่เป็นความประทับใจนะครับ
ผมชอบตรงที่..
1.สไตล์แม่นาคชัดเจนไม่มั่ว
...แม่นาคซีเรียส ก็ซีเรียส ไม่มากมุขแป้กผสมโรง...
...โทนแม่นาคโผล่...จะมืดๆ เคร่งขรึม ตลอด
2.การที่พี่มากแบ๊วตอนแรก...ทำให้ฉากดราม่าช่วงหลังมันจริงจังถึงอารมณ์ขึ้นมาก
3.จังหวะเคลื่อนกล้องนิ่งสวยมาก...ช้าๆ แช่ดึงอารมณ์...ภาพไปเที่ยวในงานวัดสวยมาก
4.มันเป็นเหมือนแก๊กซีเรียส...คือในเรื่องกลัวจริง หลอนจริง รู้สึกจริงๆในหนัง...แต่คนดูขำได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เป็นเสน่ห์ของหนังตลกธรรมชาติ ให้สามารถอินได้ทั้ง 2 อารมณ์
...พี่มากแบ๊ว...ก็เฉพาะคนรัก รักจริงๆ แบ๊วจริง ซีเรียสจริง
...ไอ้ 4 ตัวนี้ก็ทะลึ่งจริง กลัวจริง
...แม่นาคก็ซีเรียสจริง กังวลจริง อาวรจริงๆ
พอมันมาอยู่รวมกัน มันตลกได้ มันซีเรียสได้ มันดราม่าได้ โดยไม่ผสมกันมั่ว
ปล.คุณชินฮามากครับ...ฮาเพราะเขากลัวโดยธรรมชาติ บทพูดซื่อๆนี่แหละเสน่ห์
5.ใหม่ดาวิกา สวยแมาก...แสดงเก่งมาก...นิ่งมาก
6.ฉากดราม่าตอนสุดท้ายมีพลังมาก...อัดอั้นอย่างไรปล่อยออกมาหมด
หนังให้เวลาตัวละคร 2 คนนี้มากพอสมควร กล้องแช่นาน ให้น้ำหูน้ำตาไหลจริง
ให้เวลาคนดูซึมซับอารมณ์แม่นาคกับพี่มาก มากพอดู
ให้น้ำหูน้ำตาไหลจริง
7.หลายฉากที่เตรียมขำ คิดว่าตลกแน่ๆ ...มันก็ยังมีมุขซ้ำอีก level ให้ขำเพิ่มแบบที่คาดไม่ถึงอีกเยอะ...ใส่มาไม่หยุด
ปล.เช่นฉากจะเหยียบบรรไดหัก ผมคิดไว้แล้วว่ามันต้องชะงักแล้วหักอีกขั้นแน่ๆ...เตรียมขำไว้ละ
แต่ปรากฏว่า...มันเหยียบหักหมดทั้งแถบเลย ปล่อยก๊าก
8.ไดอะลอกบทพูดเสียดสี สังคมปัจจุบันหลายอย่าง...ภาษาที่ใช้ก็เข้าใจง่ายสากลมากขึ้น
แต่ไม่หลุดไปจากกรอบของ theme หนังเลย
9.ผมรู้สึกดีที่ไม่มีโฆษณาประกัน หรือสารพัดยัดเยียดโฆษณาต่างๆที่เคยใส่มาในหนัง GTH
มันดูสบายตาดีกับ ไทยสไตล์สมัยก่อน
10.ฉากที่มาริโอ้เอาศพมากอด...แล้วจูบ...มันเหมือนจะแหวะ...แต่ไม่ใช่อ่ะ
...มันซึ้ง มันน่าเศร้าจริงๆ
...โดยรวมแล้วทำให้ผมดูหนังรอบดึกหลังจากทำงานมาเหน็ดเหนื่อย ได้โดยไม่ง่วง
มีอารมณ์ร่วมไปกับหนังพอสมควร...สนุกมากครับ
ข้อสังเกตุ...และส่วนที่ไม่ชอบ
สำหรับผม...คิดว่าถ้าจบตอนที่นาคกับมากจูบกันกล้องเครนรอบ
นั่นมันคือพีคที่สุดแล้ว แล้วแม่นาคหายไปผุดไปเกิดดีกว่า...perfect
บทสรุปความรักที่ผมชอบคือ เสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว...ไม่รั้ง
...ปล่อยวางและเข้มแข็งอยู่ต่อไปให้ได้
...แต่หนังจบโดยสรุปว่า...ไม่สามารถตัดใจจากกัน...ไม่ยอมปล่อย...
สุดท้าย...คนเลยหาทางอยู่ร่วมกับผี...กับคนตาย...อย่างมีความสุข
...epic กันไป
happy ending ตลกน่ารักจริง...แต่ผมติด ไม่ประทับใจเท่าไร
สรุปแล้ว...สัดส่วนดราม่ากับคอมดี้ เกือบจะลงตัวแล้ว
ถ้าเทียบอัตราส่วน...ดราม่า : คอมดี้ มันจะออกมายังงี้ครับ
มันจะลงตัวพอดี...3:3 ถ้าจบแบบดราม่าซีนในวัด...ต่างคนต่างอยู่ ปล่อยกันไป
... สนุก ฮา perfect ได้แง่คิด
แต่พอมีตอนท้ายจบอีกแบบอยู่ร่วมกันเอาฮากันไปอีก เลยเป็น 3:4
ก็พอไหวแต่อารมณ์ผมสะดุดเลย
---------------------------------------------
ข้อคิด
เพราะหนังปูเรื่องมากทั้งเรื่องแล้วว่า ไม่ยอมไปเพราะรักมาก
...ถ้าไม่มีเราจะอยู่ได้ไหม
ขนาดไปสงครามก็ต้องกลับมาให้ได้ รักมากขนาดนี้
ในชีวิตจริงมันมีอยู่แล้ว...คนที่รักมาก คิดถึงมาก...เสียสละทำให้กันและกันขนาดนี้
...แต่วันนึงต้องจากกัน...ตายจากกัน
...เราจะทำอย่างไร...ให้อยู่ได้โดยไม่มีเขา
...จะอยู่กับความเสียใจอย่างไร...ใช้ชีวิตยังไง
...จะตัดเพื่อนตัดฝูงแล้วเฝ้าผีเฝ้าเถ้ากระดูกจ่อไปไหม?
...ความรักคือการเสียสละ...หรือหาความสุขด้วยกันโดยไม่สนใจผู้ใดเดือดร้อนหรือเป็นห่วง
ว่าไปนั่นก็จริง...แต่ถ้าหนังจบแบบนี้...มันสอนแบบนั้นไม่ได้แล้วครับ
[CR] ...พี่มากพระโขนง...สรุปแล้วความรักคืออะไรคะ
เอาเท่าที่ความรู้สึกนึกปิ๊งแวบออกมาก่อน
นี่เป็นความประทับใจนะครับ
ผมชอบตรงที่..
1.สไตล์แม่นาคชัดเจนไม่มั่ว
...แม่นาคซีเรียส ก็ซีเรียส ไม่มากมุขแป้กผสมโรง...
...โทนแม่นาคโผล่...จะมืดๆ เคร่งขรึม ตลอด
2.การที่พี่มากแบ๊วตอนแรก...ทำให้ฉากดราม่าช่วงหลังมันจริงจังถึงอารมณ์ขึ้นมาก
3.จังหวะเคลื่อนกล้องนิ่งสวยมาก...ช้าๆ แช่ดึงอารมณ์...ภาพไปเที่ยวในงานวัดสวยมาก
4.มันเป็นเหมือนแก๊กซีเรียส...คือในเรื่องกลัวจริง หลอนจริง รู้สึกจริงๆในหนัง...แต่คนดูขำได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เป็นเสน่ห์ของหนังตลกธรรมชาติ ให้สามารถอินได้ทั้ง 2 อารมณ์
...พี่มากแบ๊ว...ก็เฉพาะคนรัก รักจริงๆ แบ๊วจริง ซีเรียสจริง
...ไอ้ 4 ตัวนี้ก็ทะลึ่งจริง กลัวจริง
...แม่นาคก็ซีเรียสจริง กังวลจริง อาวรจริงๆ
พอมันมาอยู่รวมกัน มันตลกได้ มันซีเรียสได้ มันดราม่าได้ โดยไม่ผสมกันมั่ว
ปล.คุณชินฮามากครับ...ฮาเพราะเขากลัวโดยธรรมชาติ บทพูดซื่อๆนี่แหละเสน่ห์
5.ใหม่ดาวิกา สวยแมาก...แสดงเก่งมาก...นิ่งมาก
6.ฉากดราม่าตอนสุดท้ายมีพลังมาก...อัดอั้นอย่างไรปล่อยออกมาหมด
หนังให้เวลาตัวละคร 2 คนนี้มากพอสมควร กล้องแช่นาน ให้น้ำหูน้ำตาไหลจริง
ให้เวลาคนดูซึมซับอารมณ์แม่นาคกับพี่มาก มากพอดู
ให้น้ำหูน้ำตาไหลจริง
7.หลายฉากที่เตรียมขำ คิดว่าตลกแน่ๆ ...มันก็ยังมีมุขซ้ำอีก level ให้ขำเพิ่มแบบที่คาดไม่ถึงอีกเยอะ...ใส่มาไม่หยุด
ปล.เช่นฉากจะเหยียบบรรไดหัก ผมคิดไว้แล้วว่ามันต้องชะงักแล้วหักอีกขั้นแน่ๆ...เตรียมขำไว้ละ
แต่ปรากฏว่า...มันเหยียบหักหมดทั้งแถบเลย ปล่อยก๊าก
8.ไดอะลอกบทพูดเสียดสี สังคมปัจจุบันหลายอย่าง...ภาษาที่ใช้ก็เข้าใจง่ายสากลมากขึ้น
แต่ไม่หลุดไปจากกรอบของ theme หนังเลย
9.ผมรู้สึกดีที่ไม่มีโฆษณาประกัน หรือสารพัดยัดเยียดโฆษณาต่างๆที่เคยใส่มาในหนัง GTH
มันดูสบายตาดีกับ ไทยสไตล์สมัยก่อน
10.ฉากที่มาริโอ้เอาศพมากอด...แล้วจูบ...มันเหมือนจะแหวะ...แต่ไม่ใช่อ่ะ
...มันซึ้ง มันน่าเศร้าจริงๆ
...โดยรวมแล้วทำให้ผมดูหนังรอบดึกหลังจากทำงานมาเหน็ดเหนื่อย ได้โดยไม่ง่วง
มีอารมณ์ร่วมไปกับหนังพอสมควร...สนุกมากครับ
ข้อสังเกตุ...และส่วนที่ไม่ชอบ
สำหรับผม...คิดว่าถ้าจบตอนที่นาคกับมากจูบกันกล้องเครนรอบ
นั่นมันคือพีคที่สุดแล้ว แล้วแม่นาคหายไปผุดไปเกิดดีกว่า...perfect
บทสรุปความรักที่ผมชอบคือ เสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว...ไม่รั้ง
...ปล่อยวางและเข้มแข็งอยู่ต่อไปให้ได้
...แต่หนังจบโดยสรุปว่า...ไม่สามารถตัดใจจากกัน...ไม่ยอมปล่อย...
สุดท้าย...คนเลยหาทางอยู่ร่วมกับผี...กับคนตาย...อย่างมีความสุข
...epic กันไป
happy ending ตลกน่ารักจริง...แต่ผมติด ไม่ประทับใจเท่าไร
สรุปแล้ว...สัดส่วนดราม่ากับคอมดี้ เกือบจะลงตัวแล้ว
ถ้าเทียบอัตราส่วน...ดราม่า : คอมดี้ มันจะออกมายังงี้ครับ
มันจะลงตัวพอดี...3:3 ถ้าจบแบบดราม่าซีนในวัด...ต่างคนต่างอยู่ ปล่อยกันไป
... สนุก ฮา perfect ได้แง่คิด
แต่พอมีตอนท้ายจบอีกแบบอยู่ร่วมกันเอาฮากันไปอีก เลยเป็น 3:4
ก็พอไหวแต่อารมณ์ผมสะดุดเลย
---------------------------------------------
ข้อคิด
เพราะหนังปูเรื่องมากทั้งเรื่องแล้วว่า ไม่ยอมไปเพราะรักมาก
...ถ้าไม่มีเราจะอยู่ได้ไหม
ขนาดไปสงครามก็ต้องกลับมาให้ได้ รักมากขนาดนี้
ในชีวิตจริงมันมีอยู่แล้ว...คนที่รักมาก คิดถึงมาก...เสียสละทำให้กันและกันขนาดนี้
...แต่วันนึงต้องจากกัน...ตายจากกัน
...เราจะทำอย่างไร...ให้อยู่ได้โดยไม่มีเขา
...จะอยู่กับความเสียใจอย่างไร...ใช้ชีวิตยังไง
...จะตัดเพื่อนตัดฝูงแล้วเฝ้าผีเฝ้าเถ้ากระดูกจ่อไปไหม?
...ความรักคือการเสียสละ...หรือหาความสุขด้วยกันโดยไม่สนใจผู้ใดเดือดร้อนหรือเป็นห่วง
ว่าไปนั่นก็จริง...แต่ถ้าหนังจบแบบนี้...มันสอนแบบนั้นไม่ได้แล้วครับ