เกริ่นนำ

    สำหรับใครที่เป็นคอหนังในระดับนึงแล้วย่อมรู้จัก เควนติน ทารันทิโน่ เป็นซะส่วนใหญ่แน่นอน ผู้ซึ่งกำกับหนังคนนี้เป็นที่รู้กันอยู่ว่าหนังที่พี่แกทำอกมาแต่ละเรื่องล้วนมีความน่าสนใจในตัวของหนังมันที่แปลกประหลาดและไม่ซ้ำกันเลยและทุกๆเรื่องของพี่แกมักจะจบในแบบที่เราไม่ได้คาดคิดเสมอ

เข้าบท

    จังโก้อันเชนด์ เป็นเรื่องราวของจังโก้ทาสผิวสีในยุคปี 1863 ก่อนสงครามกลางเมืองจะระอุ ยุคที่คนดำทั้งหลายยังถูกมองจากคนขาวว่าเป็นได้เพียงแค่เศษมนุษย์แรงงานที่ไม่ต่างไปจากสัตว์ซักเท่าไหร่นักถูก นักล่าค่าหัวชาวเยอรมันนามว่า ดร. คิง ชูลทซ์ ช่วยเหลือจากคาราวานค้าทาสเพื่อไปเป็นคนชี้เป้าในการตามหาสามพี่น้องบริทเทิ้ลผู้มีค่าหัวก้อนโต โดยหลังจากจัดการกับสามพี่น้องบริทเทิ้ลแล้วด๊อกเตอร์คิงก็สัญญาว่าจะช่วยตามหาบรูมฮิลด้าเมียสาวของจังโก้ที่พลัดพรากจากกันไป
การดำเนินเรื่อง




     การดำเนินเรื่องของจังโก้อันเชนด์นั้นดำเนินไปได้อย่างไหลลื่นตลอดเรื่องโดยอาจจะมีเฉื่อยลงบ้างในช่วงครึ่งหลัง แต่หากว่าตั้งใจดูบทสนทนาที่เชือดเฉือนกันระหว่างตัวละครจะพบว่าเป็นอะไรที่มีเสน่ห์มากๆอันเป็นลายเซ็นของเควนตินไปแล้วที่แทบทุกเรื่องของพี่มักจะมีบทสนทนาที่น่าสนใจ และสำหรับช่วงสุดท้ายของเรื่องก็มีเซอร์ไพรส์ชนิดบิ๊กเบิ้มให้คนดูหงายหลังกันเลยทีเดียวเปรียบเสมือนทั้งเรื่องคุณกินอาหารเรียกน้ำย่อยมาเรื่อยๆกินอาหารจานใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและสุดท้ายคุณได้กินสิ่งที่พิเศษที่สุดแทนที่จะได้กินของหวานปิดท้าย

ตัวละคร

ในส่วนของตัวละครในเรื่องนั้นเรียกได้ว่าช่างมีเอกลักษณ์กันแทบทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวจังโก้เองที่กลายมาเป็นคาวบอยผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์อเมริกา(ในประวัติศาสตร์ปลอมๆนะ) หรือจะเป็นด๊อกเตอร์คิงนักล่าค่าหัวจากเยอรมันผู้มีวาทศิลป์ขั้นเทพ ตัวร้ายอย่างคุณแคนดี้ที่แสดงโดยเลโอนาโด เดคาปริโอก็เป็นตัวร้ายที่คนดูอย่างเราๆต้องเกลียดขี้หน้าเหม็นขี้ไม่ต่างจากที่แม่ค้าในตลาดเกลียดนางร้ายในละครสองทุ่มก็มิปาน และท้ายสุดอย่างสตีเฟนในบทของคนดำผู้เกลียดคนดำด้วยกันเองเพื่อนสนิทของคุณแคนดี้ โดยนอกจากตัวละครหลักๆแล้วท่านผู้ชนจะได้ชมตัวละครที่เท่ๆ(น้อยลงหน่อย) ตามเนื้อเรื่องกันไปตลอดการเดินทางของจังโก้





ดนตรี แท่มๆ

ดนตรีประกอบในเรื่องนี้บอกได้เลยว่ามาอย่างเท่และจัดเต็มมากๆครับ ท่านผู้ชมจะได้ฟังเพลงหลากหลายแนวในจังโก้อันเชนด์ในฉากที่หลากหลายเหลือเกิน ถือเป็นความสำเร็จของเควนตินอย่างยิ่งที่กล้าบ้าบิ่นมากๆที่พยายามฉีกแนวหนังคาวบอยเดิมๆไปในรูปแบบของ เควนติน-คาวบอย

บทสรุป

สำหรับแฟนๆเควนตินผมก็คงไม่พูดไรมากนะเพราะท่านๆคงรู้อยู่ว่าควรไปดูไหม แต่สำหรับผู้ที่ต้องการดูหนังที่แปลกแหวกแนวเดิมๆก็ต้องขอแนะนำให้ไปลองกันครับแล้วคุณจะพบว่าปี 2013 นี้จะเป็นปีที่สนุกอีกปีนึงในการดูหนังของท่านครับ

9/10

เกร็ดเล็กๆน่าคิด

การที่เควนตินเลือกภูมิหลังของด๊อกเตอร์คิงเป็นคนเยอรมันอาจจะเป็นการล้อเลียนฮิตเลอร์ที่เป็นชาวเยอรมันผู้ที่เกลียดยิวเข้ากระดูกไม่ต่างจากชาวอเมริกันยุคแรกๆที่เกลียดคนดำ (แต่ฮิตเลอร์โหดกว่าเยอะนะ อิอิ)