จากมติชนออนไลน์
Hell hath no fury like a woman scorned
โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
Hell hath no fury like a woman scorned แปลแบบให้รู้ความ คือ ผู้หญิงที่ถูกปฏิเสธความรัก (ถูกนอกใจ) จะมีความเคียดแค้นพยาบาทและเป็นอันตราย โดยคำกล่าวนี้มาจากบทละครของนักเขียนชาวอังกฤษนามอุโฆษชื่อ วิลเลียม คอนกรีพ ผู้มีชีวิตอยู่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคำกล่าวนี้ดูจะมีความเป็นอมตะอยู่มากสำหรับนักการเมืองอังกฤษที่ต้องเสียอนาคตไปเนื่องจากปัญหารักๆ เลิกๆ กับสุภาพสตรีนี่มีอยู่ไม่ขาดสาย
และเรื่องล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ถึงขั้นอดีตรัฐมนตรีของอังกฤษต้องติดคุกเลยนะครับ
เรื่องนี้เริ่มต้นในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2546 เมื่อ นายคริส ฮิวส์ ขับรถบีเอ็มดับเบิลยู หมายเลขทะเบียน H11HNE กลับบ้านด้วยความเร็วเกินกว่า 90 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งผิดกฎจราจร) ผ่านหน่วยตรวจจับ M11 ซึ่งก็ถูกบันทึกเอาไว้และส่งใบสั่งปรับไปที่บ้านของนายคริส ฮิวส์
ซึ่งนายคริส ฮิวส์ ผู้นี้ขับรถเร็วถูกจับได้หลายครั้งแล้วและหากโดนจับอีกครั้งหนึ่งก็จะถูกยึดใบขับขี่และจะไม่สามารถขับรถของตัวเองได้อีกไประยะหนึ่ง
นายคริส ฮิวส์ จึงขอร้องให้ภรรยาของเขาในขณะนั้นคือ นางวิกกี้ ไพส์ ไปรับผิดกับตำรวจว่าเธอเป็นผู้ขับรถเอง ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้อยู่ในรถครั้งนั้นด้วยซ้ำไป ซึ่งเป็นการแจ้งความเท็จโดยเธอยอมจ่ายค่าปรับและถูกหักคะแนนจากใบขับขี่รถยนต์ของเธอเอง
ต่อมานายคริส ฮิวส์ ไปมีกิ๊กกับเลขานุการของเขาและแจ้งให้ภรรยาทราบโดยบอกว่าจะไปอยู่กับกิ๊กซึ่งนางวิกกี้ก็ได้ฟ้องหย่าและหย่าขาดกันไปในที่สุด
อีทีนี้คุณวิกกี้ก็อยากล้างแค้นอดีตสามีของเธอจึงไปแจ้งตำรวจเรื่องการขับรถเร็วเกินกำหนดครั้งโน้นโดยอ้างว่าเธอถูกบังคับให้มาแจ้งความเท็จต่อตำรวจ
ผลก็คือทั้งคุณวิกกี้และคุณคริสเลยต้องติดคุกคนละ 8 เดือนทั้งคู่ โดยคุณคริสโดนข้อหา Perverting the Cause of Justice ซึ่งก็เหมือนข้อหา obstruction of justice ของสหรัฐอเมริกานั่นแหละครับ คือการขัดขวางการทำงานของเจ้าที่ตามกฎหมายนั่นเอง แต่อังกฤษเขาใช้คำว่าวิปริต (pervert) เลยดูน่ากลัวและในกรณีนี้ขั้นสูงสุดนี่ถึงจำคุกตลอดชีวิตเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงๆ คุณคริสแกก็โดนตัดสินจำคุกเพียง 8 เดือนเท่านั้น (ตอนนี้อยู่ในคุกเรียบร้อยแล้ว)
ที่น่าสนใจคือคุณคริสเป็นลูกคนรวยเรียนจบออกซ์ฟอร์ด วิชาฮิตคือ PPE (ปรัชญา รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์) แล้วก็เป็นนักการเมืองอาชีพแบบว่าเป็นผู้แทนราษฎรแล้วก็เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคผสมร่วมรัฐบาลของอังกฤษในปัจจุบันถึง 2 ครั้ง และเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของอังกฤษ ระหว่าง พ.ศ.2553-2555 และต้องลาออกเมื่อโดนฟ้องนี่แหละ
สรุปนายคริส ฮิวส์ แกก็เลยหมดอนาคตทางการเมืองไปเลยชั่วชีวิต
สำหรับคุณวิกกี้ ไพส์นั้น เธอเป็นชาวกรีกโดยกำเนิดและเป็นนักเศรษฐศาสตร์มือดีของรัฐบาลอังกฤษโดยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจและการคลังของรัฐบาลอังกฤษ เธอแต่งงานครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2515 มีลูกสาว 2 คน และหย่ากับสามีคนแรกใน พ.ศ.2524 และแต่งงานกับนาย
คริส ฮิวส์ ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้แทนอังกฤษในรัฐสภายุโรปเมื่อ พ.ศ.2527 มีลูกด้วยกัน 3 คน และหย่ากันเมื่อ พ.ศ.2554
แหม ! ก็น่าเห็นใจคุณวิกกี้นะครับ คือเมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษเมื่อ พ.ศ.2553 และนายคริส ฮิวส์ ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็มาบอกเลิกกับภรรยาเพื่อจะไปอยู่กับกิ๊ก ทั้งๆ ที่ว่ากันตามจริงแล้วเท่าที่แต่งงานกันมาคุณวิกกี้เป็นผู้หาเลี้ยงดูแลครอบครัวเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากเธอหาเงินได้มากกว่าสามีและอยู่กับลูกๆ ตลอดเวลา ในขณะที่คุณคริสเป็นนักการเมืองจึงไม่ค่อยอยู่ติดบ้านสักเท่าไหร่
ดังนั้น คุณวิกกี้ก็คิดที่จะแก้แค้นคุณคริสแบบว่า Hell hath no fury like a woman scorned นั่นแหละจึงเอาความหลังเมื่อ 8 ปีก่อนใน พ.ศ.2546 ที่คุณวิกกี้ได้แจ้งเท็จต่อตำรวจเพื่อช่วยคุณคริสครั้งนั้น เมื่อคุณวิกกี้นำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจก็เลยถูกข้อหา Perverting the Cause of Justice เหมือนกันกับอดีตสามีของเธอ เนื่องจากเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดจึงมีระวางโทษเท่ากับผู้ที่ลงมือกระทำผิดจริง
แม้ว่าคุณวิกกี้จะอ้างว่าเธอถูกคุณคริสบีบบังคับให้เธอร่วมมือทำการ Perverting the Cause of Justice ครั้งนั้นด้วยก็ตาม แต่เท่าที่ผู้เขียนอ่านและฟังดูจากแหล่งข่าวในอังกฤษดูคนอังกฤษออกจะสมน้ำหน้าคุณวิกกี้ แทบทั้งนั้น
ผู้หญิงที่ถูกปฏิเสธความรัก (ถูกนอกใจ) จะมีความเคียดแค้นพยาบาทและเป็นอันตราย
Hell hath no fury like a woman scorned
โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
Hell hath no fury like a woman scorned แปลแบบให้รู้ความ คือ ผู้หญิงที่ถูกปฏิเสธความรัก (ถูกนอกใจ) จะมีความเคียดแค้นพยาบาทและเป็นอันตราย โดยคำกล่าวนี้มาจากบทละครของนักเขียนชาวอังกฤษนามอุโฆษชื่อ วิลเลียม คอนกรีพ ผู้มีชีวิตอยู่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคำกล่าวนี้ดูจะมีความเป็นอมตะอยู่มากสำหรับนักการเมืองอังกฤษที่ต้องเสียอนาคตไปเนื่องจากปัญหารักๆ เลิกๆ กับสุภาพสตรีนี่มีอยู่ไม่ขาดสาย
และเรื่องล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ถึงขั้นอดีตรัฐมนตรีของอังกฤษต้องติดคุกเลยนะครับ
เรื่องนี้เริ่มต้นในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2546 เมื่อ นายคริส ฮิวส์ ขับรถบีเอ็มดับเบิลยู หมายเลขทะเบียน H11HNE กลับบ้านด้วยความเร็วเกินกว่า 90 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งผิดกฎจราจร) ผ่านหน่วยตรวจจับ M11 ซึ่งก็ถูกบันทึกเอาไว้และส่งใบสั่งปรับไปที่บ้านของนายคริส ฮิวส์
ซึ่งนายคริส ฮิวส์ ผู้นี้ขับรถเร็วถูกจับได้หลายครั้งแล้วและหากโดนจับอีกครั้งหนึ่งก็จะถูกยึดใบขับขี่และจะไม่สามารถขับรถของตัวเองได้อีกไประยะหนึ่ง
นายคริส ฮิวส์ จึงขอร้องให้ภรรยาของเขาในขณะนั้นคือ นางวิกกี้ ไพส์ ไปรับผิดกับตำรวจว่าเธอเป็นผู้ขับรถเอง ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้อยู่ในรถครั้งนั้นด้วยซ้ำไป ซึ่งเป็นการแจ้งความเท็จโดยเธอยอมจ่ายค่าปรับและถูกหักคะแนนจากใบขับขี่รถยนต์ของเธอเอง
ต่อมานายคริส ฮิวส์ ไปมีกิ๊กกับเลขานุการของเขาและแจ้งให้ภรรยาทราบโดยบอกว่าจะไปอยู่กับกิ๊กซึ่งนางวิกกี้ก็ได้ฟ้องหย่าและหย่าขาดกันไปในที่สุด
อีทีนี้คุณวิกกี้ก็อยากล้างแค้นอดีตสามีของเธอจึงไปแจ้งตำรวจเรื่องการขับรถเร็วเกินกำหนดครั้งโน้นโดยอ้างว่าเธอถูกบังคับให้มาแจ้งความเท็จต่อตำรวจ
ผลก็คือทั้งคุณวิกกี้และคุณคริสเลยต้องติดคุกคนละ 8 เดือนทั้งคู่ โดยคุณคริสโดนข้อหา Perverting the Cause of Justice ซึ่งก็เหมือนข้อหา obstruction of justice ของสหรัฐอเมริกานั่นแหละครับ คือการขัดขวางการทำงานของเจ้าที่ตามกฎหมายนั่นเอง แต่อังกฤษเขาใช้คำว่าวิปริต (pervert) เลยดูน่ากลัวและในกรณีนี้ขั้นสูงสุดนี่ถึงจำคุกตลอดชีวิตเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงๆ คุณคริสแกก็โดนตัดสินจำคุกเพียง 8 เดือนเท่านั้น (ตอนนี้อยู่ในคุกเรียบร้อยแล้ว)
ที่น่าสนใจคือคุณคริสเป็นลูกคนรวยเรียนจบออกซ์ฟอร์ด วิชาฮิตคือ PPE (ปรัชญา รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์) แล้วก็เป็นนักการเมืองอาชีพแบบว่าเป็นผู้แทนราษฎรแล้วก็เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคผสมร่วมรัฐบาลของอังกฤษในปัจจุบันถึง 2 ครั้ง และเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของอังกฤษ ระหว่าง พ.ศ.2553-2555 และต้องลาออกเมื่อโดนฟ้องนี่แหละ
สรุปนายคริส ฮิวส์ แกก็เลยหมดอนาคตทางการเมืองไปเลยชั่วชีวิต
สำหรับคุณวิกกี้ ไพส์นั้น เธอเป็นชาวกรีกโดยกำเนิดและเป็นนักเศรษฐศาสตร์มือดีของรัฐบาลอังกฤษโดยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจและการคลังของรัฐบาลอังกฤษ เธอแต่งงานครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2515 มีลูกสาว 2 คน และหย่ากับสามีคนแรกใน พ.ศ.2524 และแต่งงานกับนาย
คริส ฮิวส์ ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้แทนอังกฤษในรัฐสภายุโรปเมื่อ พ.ศ.2527 มีลูกด้วยกัน 3 คน และหย่ากันเมื่อ พ.ศ.2554
แหม ! ก็น่าเห็นใจคุณวิกกี้นะครับ คือเมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษเมื่อ พ.ศ.2553 และนายคริส ฮิวส์ ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็มาบอกเลิกกับภรรยาเพื่อจะไปอยู่กับกิ๊ก ทั้งๆ ที่ว่ากันตามจริงแล้วเท่าที่แต่งงานกันมาคุณวิกกี้เป็นผู้หาเลี้ยงดูแลครอบครัวเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากเธอหาเงินได้มากกว่าสามีและอยู่กับลูกๆ ตลอดเวลา ในขณะที่คุณคริสเป็นนักการเมืองจึงไม่ค่อยอยู่ติดบ้านสักเท่าไหร่
ดังนั้น คุณวิกกี้ก็คิดที่จะแก้แค้นคุณคริสแบบว่า Hell hath no fury like a woman scorned นั่นแหละจึงเอาความหลังเมื่อ 8 ปีก่อนใน พ.ศ.2546 ที่คุณวิกกี้ได้แจ้งเท็จต่อตำรวจเพื่อช่วยคุณคริสครั้งนั้น เมื่อคุณวิกกี้นำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจก็เลยถูกข้อหา Perverting the Cause of Justice เหมือนกันกับอดีตสามีของเธอ เนื่องจากเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดจึงมีระวางโทษเท่ากับผู้ที่ลงมือกระทำผิดจริง
แม้ว่าคุณวิกกี้จะอ้างว่าเธอถูกคุณคริสบีบบังคับให้เธอร่วมมือทำการ Perverting the Cause of Justice ครั้งนั้นด้วยก็ตาม แต่เท่าที่ผู้เขียนอ่านและฟังดูจากแหล่งข่าวในอังกฤษดูคนอังกฤษออกจะสมน้ำหน้าคุณวิกกี้ แทบทั้งนั้น