ศาสนาอิสลาม พลาดเสียแล้วครับ

ตามธรรมชาติแล้ว เพศชาย เป็นเพศที่ก้าวร้าว สรีระที่แข็งแรง
แต่ถูกกลมกลืนโดยเพศหญิง ที่มีสรีระและใบหน้าอันอ่อนโยน ซึ่งจะลดความก้าวร้าวในเพศชายได้
ซึ่งทั้งสองเพศจะคอยถ่วงดุลซึ่งกันและกัน มีความรักต่อกัน ความรักทำให้คนอ่อนโยนลง

เราลองนึกถึงเด็กช่างจากสถาบันต่างๆที่ตีกัน ฆ่ากันก็มี
เพราะโรงเรียนเด็กช่าง มักมีแต่ผู้ชาย ไม่ค่อยมีเพศหญิง มาลดความก้าวร้าวลง

ศธ. เองก็พยายามแก้ปัญหา โดยการนำเอาเด็กช่าง จากสถาบันที่เป็นคู่อริกัน
มาเข้าค่ายด้วยกัน ปฏิบัติธรรมร่วมกัน มีกิจกรรมร่วมกัน ให้รู้จักกัน จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอย่างที่บอก สถาบันเหล่านี้ส่วนใหญ่มีแต่เพศชาย

ในประเทศอิสลามก็เช่นกัน เพศหญิงคลุมโปงเป็นอีโม่งกันหมด
ไม่มีใบหน้า และสรีระอันอ่อนโยนของผู้หญิง มาคอยถ่วงดุล
ความรุนแรงจึงบังเกิด เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
หรือมีครั้งหนึ่ง มีการจัดประกวดนางงามจักรวาล ที่ประเทศในจีเรีย(ถ้าจำไม่ผิด)
ก็มีมุสลิมออกมาประท้วงและฆ่าชาวคริสต์ไปเกือบสองพันคน

เรามาดูอย่างที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตหนังโป๊ออกมาสัปดาห์ละกว่า 200 เรื่อง
และหนังโป๊ที่มีการเซ็นเซอร์ภาพอะวัยวะเพศ ก็วางขายอย่างถูกกฎหมาย
และยังมีธุรกิจที่จำลองแบบภายในรถไฟใต้ดิน ให้ผู้หญิงไปยืนอยู่
และให้ลูกค้าผู้ชาย สามารถไปเดินเบียด ไปจับ ไปล้วง
สามารถลดความกดดันของผู้ชายลงได้

ประเทศนี้แทบไม่มีอาชญากรรม

อย่างประเทศสวีเดน หรือประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียร์
ประเทศเหล่านี้มีการสอนเพศศึกษาในโรงเรียน และเปิดเผยเรื่องเพศอย่างมาก
ประเทศเหล่านี้ก็แทบไม่มีอาชญากรรมเช่นกัน

จริงๆแล้ว ธรรมชาติสร้างทุกอย่างมาให้ลงตัว สวยงามอยู่แล้ว
ไม่ควรไปฝืน ไปบังคับจนเกินไป

การแต่งตัว ผู้หญิงจะรักสวยรักงาม ผู้ชายก็อยากหล่อ สมาร์ท อะไรก็ว่ากันไป
แรงจูงใจสร้างสรรค์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าก็เกิดขึ้น

ไม่ใช่มาคลุมโปงผู้หญิง เพราะกลัวผู้ชายจะมีอารมณ์ทางเพศ
อารมณ์หน่ะ เมื่อถึงวัยมันมีอยู่แล้ว มันมีพลัง แล้วพลังก็ถูกใช้ไปในทางที่ผิด
ถูกใช้ไปกับความรุนแรง ยิ่งเคร่งครัด ยิ่งรุนแรง

ไปฝืนธรรมชาติ ธรรมชาติก็ตีกลับ เช่นนั้นเอง