'พญาเสือ' คืนบัลลังก์มือ 1 โลกอีกครั้ง หลังคว้าแชมป์ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชั่นแนล ทำสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ได้แชมป์รายการเดียวกันบนสนามเดียวกันสมัยที่ 8
26 มี.ค. 56 หลังจากที่ "พญาเสือ" ไทเกอร์ วู้ดส์ ต้องต่อสู้กับมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตมาเกือบ 3 ปีเต็ม ไม่ว่าการมีปัญหาด้านครอบครัวจนต้องเลิกรากับอดีตภรรยา เอลิน นอร์เดเกรน รวมไปถึงอาการบาดเจ็บที่ทำให้ฟอร์มการเล่นตกต่ำ จนเสียตำแหน่งมือ 1 ของโลก ไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2010 ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ยอดนักกอล์ฟลูกครึ่งสหรัฐ-ไทย วัย 37 ปี ก็ได้ทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมา ด้วยการกลับขึ้นมาครองตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกอีกครั้ง หลังคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการอาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชั่นแนล พร้อมทำสถิติต่างๆ ขึ้นมาอีกมากมาย
การเล่นรอบสุดท้าย ซึ่งถูกเลื่อนจากวันอาทิตย์มาเล่นในวันจันทร์ ไทเกอร์ ทำสกอร์เพิ่มได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 มีคะแนนรวมที่ 13 อันเดอร์พาร์ 275 เอาชนะ จัสติน โรส จากอังกฤษ ถึง 2 สโตรค รับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 1.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทำสถิติคว้าแชมป์รายการเดียวกันในศึกพีจีเอ สูงสุด 8 ครั้ง เท่ากับ แซม สนีด ที่ชนะในรายการเกรทเตอร์ กรีนโบโร โอเพ่น เมื่อปี 1965 หากชัยชนะของสนีดเกิดขึ้นบนสนามที่แตกต่างกันหลายแห่ง แต่กับไทเกอร์นั้น ชัยชนะทั้งหมดเกิดขึ้นบนสนามเบย์ฮิลล์ คลับ แอนด์ ลอดจ์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้การคว้าแชมป์ดังกล่าว ยังเป็นชัยชนะในศึกพีจีเอทัวร์ ครั้งที่ 77 ของไทเกอร์ ตามหลังสถิติตลอดกาลของสนีดอยู่เพียง 5 ครั้ง และเป็นแชมป์อาชีพรวมทั้งสิ้น 99 รายการ เพิ่มสถิติการคว้าแชมป์เมื่อเป็นผู้นำหลังจบรอบที่ 3 เป็น 51 จากทั้งหมด 55 ครั้ง นอกจากนี้ ยังทำให้คะแนนสะสมของเขาในรายการเฟดเอ็กซ์คัพ แซงขึ้นมานำเป็นอันดับ 1 อีกด้วย
สำหรับการกลับขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก ไทเกอร์มีคะแนนสะสมเฉลี่ย 11.87 แซงหน้า รอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ ที่ไม่ได้ลงเล่นรายการนี้ ที่มี 11.29 แต้ม ก่อนหน้านี้ทำสถิติครองมือ 1 มา 281 สัปดาห์ติดต่อกัน และมีสถิติรวมทั้งสิ้นถึง 623 สัปดาห์ โดยในช่วงที่ไทเกอร์ไม่ได้เป็นมือ 1 ของโลกนั้น มียอดโปรที่สลับกันขึ้นมาครองตำแหน่งนี้รวม 4 คนได้แก่ ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ, มาร์ติน คายเมอร์ จากเยอรมนี, ลุค โดนัลด์ จากอังกฤษ และรอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ
เครดิต จาก คมชัดลึก
'ไทเกอร์'เก่งจริงๆให้ดิ้นตาย!!
26 มี.ค. 56 หลังจากที่ "พญาเสือ" ไทเกอร์ วู้ดส์ ต้องต่อสู้กับมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตมาเกือบ 3 ปีเต็ม ไม่ว่าการมีปัญหาด้านครอบครัวจนต้องเลิกรากับอดีตภรรยา เอลิน นอร์เดเกรน รวมไปถึงอาการบาดเจ็บที่ทำให้ฟอร์มการเล่นตกต่ำ จนเสียตำแหน่งมือ 1 ของโลก ไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2010 ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ยอดนักกอล์ฟลูกครึ่งสหรัฐ-ไทย วัย 37 ปี ก็ได้ทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมา ด้วยการกลับขึ้นมาครองตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกอีกครั้ง หลังคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการอาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชั่นแนล พร้อมทำสถิติต่างๆ ขึ้นมาอีกมากมาย
การเล่นรอบสุดท้าย ซึ่งถูกเลื่อนจากวันอาทิตย์มาเล่นในวันจันทร์ ไทเกอร์ ทำสกอร์เพิ่มได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 มีคะแนนรวมที่ 13 อันเดอร์พาร์ 275 เอาชนะ จัสติน โรส จากอังกฤษ ถึง 2 สโตรค รับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 1.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทำสถิติคว้าแชมป์รายการเดียวกันในศึกพีจีเอ สูงสุด 8 ครั้ง เท่ากับ แซม สนีด ที่ชนะในรายการเกรทเตอร์ กรีนโบโร โอเพ่น เมื่อปี 1965 หากชัยชนะของสนีดเกิดขึ้นบนสนามที่แตกต่างกันหลายแห่ง แต่กับไทเกอร์นั้น ชัยชนะทั้งหมดเกิดขึ้นบนสนามเบย์ฮิลล์ คลับ แอนด์ ลอดจ์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้การคว้าแชมป์ดังกล่าว ยังเป็นชัยชนะในศึกพีจีเอทัวร์ ครั้งที่ 77 ของไทเกอร์ ตามหลังสถิติตลอดกาลของสนีดอยู่เพียง 5 ครั้ง และเป็นแชมป์อาชีพรวมทั้งสิ้น 99 รายการ เพิ่มสถิติการคว้าแชมป์เมื่อเป็นผู้นำหลังจบรอบที่ 3 เป็น 51 จากทั้งหมด 55 ครั้ง นอกจากนี้ ยังทำให้คะแนนสะสมของเขาในรายการเฟดเอ็กซ์คัพ แซงขึ้นมานำเป็นอันดับ 1 อีกด้วย
สำหรับการกลับขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก ไทเกอร์มีคะแนนสะสมเฉลี่ย 11.87 แซงหน้า รอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ ที่ไม่ได้ลงเล่นรายการนี้ ที่มี 11.29 แต้ม ก่อนหน้านี้ทำสถิติครองมือ 1 มา 281 สัปดาห์ติดต่อกัน และมีสถิติรวมทั้งสิ้นถึง 623 สัปดาห์ โดยในช่วงที่ไทเกอร์ไม่ได้เป็นมือ 1 ของโลกนั้น มียอดโปรที่สลับกันขึ้นมาครองตำแหน่งนี้รวม 4 คนได้แก่ ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ, มาร์ติน คายเมอร์ จากเยอรมนี, ลุค โดนัลด์ จากอังกฤษ และรอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ
เครดิต จาก คมชัดลึก