สวัสดีครับทุกๆคน
**************************
คำดี ๆ จาก “ความสุขของกะทิ”
"ความสุขของกะทิ” เป็นวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลซีไรต์ประจำปี 2549 เนื้อหาเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อ กะทิ เริ่มจากความรู้สึกที่อยากเจอแม่แต่ไม่รู้ว่าแม่อยู่ไหนเพราะไม่มีใครเคยพูดถึง จนกระทั่งเจอแม่แล้วก็ต้องสูญเสียแม่ไป ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้เหมือนกับการเดินทางช่วงสั้น ๆ ของกะทิ ซึ่งต้องผ่านทั้งขั้นตอนของความสุข ความทุกข์ ความสมหวังและความสูญเสีย กะทิค่อย ๆ เรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ตามลำดับ จนกระทั่งสุดท้ายคือ การปล่อยวาง
…ผู้แต่ใช้คำเรียบง่าย สั้น งดงาม แต่สะเทือนถึงอารมณ์ เป็นหนังสือดีอีกเล่มที่อยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองหามาอ่านกัน ผมมั่นใจว่าซึ้งกินกินใจไม่แพ้นิยายเกาหลีอย่างแน่นอน
“ยิ้มของพี่ทองเหมือนโรคติดต่อ ยิ้มที่ส่งมาจากหัวใจระรื่น ต่อสายตรงถึงปากและแววตา แผ่รัศมีเป็นคลื่นรอบ ๆ เหมือนเวลา โยนก้อนหินลงในน้ำ จนคนรอบข้างรู้สึกได้”
“เรือย่อมมุ่งหน้าไปอย่างไม่ถึงจุดหมายไม่ได้ แม้การเดินทางจะหฤหรรษ์เพียงใดก็ตาม”
“อยู่ที่ไหนก็ดูพระจันทร์ดวงเดียวกัน”
“ถ้าใจคนเหมือนทรายในกระถางธูป ที่เททิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ให้ขาวผ่องได้ ก็คงจะดีไม่น้อย”
“การอยู่กับปัจจุบันนาทีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“อดีตเหมือนเงา บางครั้งทอดนำทางอนาคต”
“น้ำตาไม่อาจแทนความโศกเศร้าได้”
“แม่บอกว่าคนเราต้องมีความใฝ่ฝัน และทำวันแต่ละวันให้ดีที่สุดไปพร้อมกันด้วย”
“ความรักมีหลากหลายรูปแบบและสีสัน”
“ความสุขของคนรอบข้าง คือความสุขของเราด้วย”
“จักรวาลนี้กว้างใหญ่นัก มนุษย์ตัวจ้อยจะมีอำนาจอะไร
เพียงแหงนมองฟ้าก็ดูจะปลดศักดาและความมุงหวังเกินตัวให้หมดสิ้นไปในบัดดล
เหลือเพียงหัวใจดวงเล็ก ๆ ในอกที่เต้นอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและใฝ่หาความสุขตามอัตภาพ
ไม่ต้องการสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องการสิ่งใดที่อยู่ไกลตัว”
“ทิ้งอดีตให้เป็นเพียงเงา มองไปข้างหน้าดูจะดีที่สุด”
“บางทีชีวิตก็ไม่มีคำอธิบาย”
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=7160.0
@@@ SCB MUTUAL FUND AND GOLD & SILVER , STOCK INVESTMENT @@@ วันพุธที่ 27/03/2556
**************************
คำดี ๆ จาก “ความสุขของกะทิ”
"ความสุขของกะทิ” เป็นวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลซีไรต์ประจำปี 2549 เนื้อหาเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อ กะทิ เริ่มจากความรู้สึกที่อยากเจอแม่แต่ไม่รู้ว่าแม่อยู่ไหนเพราะไม่มีใครเคยพูดถึง จนกระทั่งเจอแม่แล้วก็ต้องสูญเสียแม่ไป ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้เหมือนกับการเดินทางช่วงสั้น ๆ ของกะทิ ซึ่งต้องผ่านทั้งขั้นตอนของความสุข ความทุกข์ ความสมหวังและความสูญเสีย กะทิค่อย ๆ เรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ตามลำดับ จนกระทั่งสุดท้ายคือ การปล่อยวาง
…ผู้แต่ใช้คำเรียบง่าย สั้น งดงาม แต่สะเทือนถึงอารมณ์ เป็นหนังสือดีอีกเล่มที่อยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองหามาอ่านกัน ผมมั่นใจว่าซึ้งกินกินใจไม่แพ้นิยายเกาหลีอย่างแน่นอน
“ยิ้มของพี่ทองเหมือนโรคติดต่อ ยิ้มที่ส่งมาจากหัวใจระรื่น ต่อสายตรงถึงปากและแววตา แผ่รัศมีเป็นคลื่นรอบ ๆ เหมือนเวลา โยนก้อนหินลงในน้ำ จนคนรอบข้างรู้สึกได้”
“เรือย่อมมุ่งหน้าไปอย่างไม่ถึงจุดหมายไม่ได้ แม้การเดินทางจะหฤหรรษ์เพียงใดก็ตาม”
“อยู่ที่ไหนก็ดูพระจันทร์ดวงเดียวกัน”
“ถ้าใจคนเหมือนทรายในกระถางธูป ที่เททิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ให้ขาวผ่องได้ ก็คงจะดีไม่น้อย”
“การอยู่กับปัจจุบันนาทีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“อดีตเหมือนเงา บางครั้งทอดนำทางอนาคต”
“น้ำตาไม่อาจแทนความโศกเศร้าได้”
“แม่บอกว่าคนเราต้องมีความใฝ่ฝัน และทำวันแต่ละวันให้ดีที่สุดไปพร้อมกันด้วย”
“ความรักมีหลากหลายรูปแบบและสีสัน”
“ความสุขของคนรอบข้าง คือความสุขของเราด้วย”
“จักรวาลนี้กว้างใหญ่นัก มนุษย์ตัวจ้อยจะมีอำนาจอะไร
เพียงแหงนมองฟ้าก็ดูจะปลดศักดาและความมุงหวังเกินตัวให้หมดสิ้นไปในบัดดล
เหลือเพียงหัวใจดวงเล็ก ๆ ในอกที่เต้นอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและใฝ่หาความสุขตามอัตภาพ
ไม่ต้องการสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องการสิ่งใดที่อยู่ไกลตัว”
“ทิ้งอดีตให้เป็นเพียงเงา มองไปข้างหน้าดูจะดีที่สุด”
“บางทีชีวิตก็ไม่มีคำอธิบาย”
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=7160.0