ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวหุ้น บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO ใน
การซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ราคาหุ้นปรับขึ้นไปกว่า 6% หลังแนวโน้มยอดขายไตรมาสแรกสด
ใส เฉพาะ 2 เดือนแรกปีนี้ก็สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน และผู้บริหารคาดว่าเมื่อรวมทั้งไตรมาส 1 ปี
นี้แล้ว ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ SUSCO จะมีกำไรจากการขายหุ้นบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เกือบ 100 ล้านบาท ในกรณีที่บริษัทฯ ขายหุ้น BAFS เพราะมีต้น
ทุนที่หุ้นละ 13 บาท(มีอยู่ 10.2 ล้านหุ้น) แต่ราคาหุ้น BAFS ปรับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 22-24
บาทในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยังคงยืนยันว่าไม่มีนโยบายขายหุ้น BAFS แม้ว่าจะมีกำไร
ในระดับสูงแล้วก็ตาม
ฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าสนใจของ SUSCO ต่อจากนี้คือ ร้านค้า
ในปั๊มกว่า 300 แห่งของบริษัทน่าจะมีการร่วมธุรกิจกับค้าปลีกรายใหญ่ ซึ่งโดยหลักการแล้ว น่า
จะออกมาในลักษณะของการตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาแล้วร่วมทุนกัน และก็ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจมี
การนำบริษัทย่อยนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
ดังนั้น จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนระยะสั้น โดยมีแนวต้าน 6.50 บาท ส่วน
นักลงทุนระยะยาวแนะซื้อสะสมเพราะเป็นหุ้นที่มีอนาคต
ณ เวลา 11.01 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 10.58% มูลค่า
การซื้อขาย 698.25 ล้านบาท
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 25/03/13 เวลา 11:05:24
++++
++++
SUSCO เด้งเกือบ 10% รับผลงานปีนี้สดใส-กำไรจากการถือหุ้น BAFS เป้าแรก 6.50 บาท
การซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ราคาหุ้นปรับขึ้นไปกว่า 6% หลังแนวโน้มยอดขายไตรมาสแรกสด
ใส เฉพาะ 2 เดือนแรกปีนี้ก็สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน และผู้บริหารคาดว่าเมื่อรวมทั้งไตรมาส 1 ปี
นี้แล้ว ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ SUSCO จะมีกำไรจากการขายหุ้นบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เกือบ 100 ล้านบาท ในกรณีที่บริษัทฯ ขายหุ้น BAFS เพราะมีต้น
ทุนที่หุ้นละ 13 บาท(มีอยู่ 10.2 ล้านหุ้น) แต่ราคาหุ้น BAFS ปรับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 22-24
บาทในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยังคงยืนยันว่าไม่มีนโยบายขายหุ้น BAFS แม้ว่าจะมีกำไร
ในระดับสูงแล้วก็ตาม
ฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าสนใจของ SUSCO ต่อจากนี้คือ ร้านค้า
ในปั๊มกว่า 300 แห่งของบริษัทน่าจะมีการร่วมธุรกิจกับค้าปลีกรายใหญ่ ซึ่งโดยหลักการแล้ว น่า
จะออกมาในลักษณะของการตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาแล้วร่วมทุนกัน และก็ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจมี
การนำบริษัทย่อยนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
ดังนั้น จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนระยะสั้น โดยมีแนวต้าน 6.50 บาท ส่วน
นักลงทุนระยะยาวแนะซื้อสะสมเพราะเป็นหุ้นที่มีอนาคต
ณ เวลา 11.01 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 10.58% มูลค่า
การซื้อขาย 698.25 ล้านบาท
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 25/03/13 เวลา 11:05:24
++++ ++++