80 ปี ส.ศิวรักษ์ (พูดเอง) ไม่เข็ด ...ยัง
อยู่
วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:50:03 น.
สัปดาห์ก่อน สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า "ปัญญาชนสยาม" นักคิด-นักเขียน ส.ศิวรักษ์ ไปออกรายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" พร้อมกับ "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ "ดีเบต" เรื่อง "สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ" จนเกิดกระแสการแสดงความเห็นอย่างเข้มข้นในสังคมออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้ง "เห็นด้วย" และ "ไม่เห็นด้วย" กับการนำเสนอเรื่องดังกล่าว
อาทิตย์ นี้ แทบลอยด์ ไทยโพสต์ สัมภาษณ์ ส.ศิวลักษณ์ มติชนออนไลน์ นำบางตอนของบทสัมภาษณ์ มานำเสนอ ดังนี้
@ ผบ.ทบ. ฮึ่มไม่พอใจไปอยู่ที่อื่น
ตอนนี้ผู้บัญชาการทหารบกออกมาไล่คนเลย บอกคุณไม่พอใจก็ไปอยู่เมืองอื่น ทำตัวเป็นเจ้าของประเทศ ทหารออกมาไล่คน บอกไม่ได้ออกมาจากหลอดแก้ว หมายความว่าอะไร คุณเป็นเจ้าของประเทศคนเดียวหรือ คุณทำหน้าที่อะไร
แหม! กร่างเลย บอกคุณไม่พอใจก็ไปอยู่ที่อื่น คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง บ้านเมืองต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง มาบอกกฎหมายมีอยู่ถ้าไม่ได้ทำผิด
ก็ไม่เป็นไร ทหารไม่น่าจะปากโป้ง ถือเป็นเจ้าของประเทศ คุณไม่ใช่เจ้าของประเทศ คุณกินเงินเดือน แล้วก็กินเงินเดือนมากเกินไปแล้วด้วย แล้วก็เอาเงินไปใช้ซื้ออาวุธมากเกินไป แล้วอาวุธที่ซื้อคุณจะเอาไปรบกับใคร ซื้อเรือเหาะมาก็ใช้ไม่ได้ ทหารทุกประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ทหารไม่มีสิทธิ์มาออกความเห็นกับสื่อมวลชนเป็นอันขาด ข้าราชการ พลเรือนและทหารไม่สามารถออกความเห็นทางการเมืองได้
คนที่ออกความเห็นได้คือนักการเมืองหรือประชาชนคนธรรมดาสามัญ
พวกนี้น่าจะรู้กฎเกณฑ์ประชาธิปไตยบ้าง ประชาธิปไตยอยู่ได้ ทหารต้องฟังนักการเมืองและคนที่มาออกความเห็นต่างๆ ทหารมีหน้าที่อย่างเดียวคือฟัง ไม่ใช่มาออกความเห็นตอบโต้นักวิชาการแล้วมาถือว่าคุณฉลาดกว่าเขา นักวิชาการฉลาดกว่าทหารทุกคน แต่เรายิงปืนเราสู้เขาไม่ได้ เขายิงปืนเก่งกว่าเรา แต่ถ้าเขาไม่ฝึกในกองทัพมา รบกับลาวก็แพ้ เขาไม่ได้ฝึกทางรบครับ เขาฝึกอย่างเดียวเรื่องเซ็งลี้ หากินกัน เล่นกอล์ฟกัน
@ 80 ปีในความเป็น ส.ศิวรักษ์ โดนไปกี่คดี?
(ส่ายหน้ายิ้มๆ) ผมโดนยังไงก็ได้เปรียบ โดนจับค้านท่อก๊าซก็ได้เปรียบ คดีผมได้เปรียบ รุ่น 6 ตุลา ผมถูกเผาหนังสือเท่านั้นเอง ล้มละลาย
ลูกศิษย์ผมถูกฆ่าตายไม่รู้กี่คน ถ้าอยู่ผมก็ถูกฆ่าตาย เผอิญโชคดี รัฐบาลอเมริกาเชิญไปฉลอง 200 ปี เชิญผมไปที่นั่น เลยไม่ตาย
เมื่อโชคดี เอาโชคดีมาช่วยคนที่ร้ายกว่าผมให้ดีขึ้นมา
"80 ปียังไม่เข็ด ยัง
อยู่ ต้องมีคน
อย่างนี้เรื่อยๆ คนไม่เห็นด้วยกับผม ไม่ได้ว่าอะไร อยากด่าก็ด่าไป อยากดังก็ดังไป ดังอะไร มันจะดับอยู่แล้ว สังคมไทยมีแต่นักวิชาการ ไม่มีปัญญาชน"
ปัญญาชนไม่ได้ดีวิเศษอะไร แต่อย่างน้อยมีกึ๋น กล้าพูด ถ้านักวิชาการมีกึ๋นกล้าพูด ก็เป็นปัญญาชนได้ ไอ้สมศักดิ์มันก็เป็นปัญญาชน มีกึ๋น กล้าพูด แม้พูดบ้าๆ บอๆ ก็เรื่องของเขา ผมก็รักมัน มันด่าผม อาจารย์ ส.ศิวรักษ์ Double Standard หน้าเฉยตาเฉย ลอยไปลอยมา แต่มันก็น่ารัก อย่าไปโกรธคนที่ด่าเรา
@ มองว่าบทบาทนักวิชาการเวลานี้เป็นอย่างไร ที่อาจารย์บอกว่านักวิชาการต้องกล้าหาญ?
สิ่งที่เป็นหัวใจของสังคมทุกสังคม หนึ่งสัจจะ สองกล้าหาญทางจริยธรรม ต้องกล้าท้าทายอสัตย์ อธรรม พระพุทธเจ้าตั้งศาสนามาเพราะเหตุอย่างนี้ครับ สังคมอินเดียเวลานี้กดขี่ มีสูงต่ำ วรรณะ ผู้ชายเอาเปรียบผู้หญิง ถ้าตั้งคณะสงฆ์ทุกคนเท่าเทียมกันหมดเลย เป็นภราดรภาพ เป็นพี่น้องกันหมด อยู่เพื่อเอาชนะความโลภ โกรธ หลง
เช่นเดียวกัน มหาตมะ คานธี ออกมาสู้กับอังกฤษ มีอำนาจเต็มฟ้าเลย ทั้งเงิน อำนาจ กองทัพ หมอนี่นุ่งผ้าเตี่ยวผืนเดียว อังกฤษบอกเรือทั้งหมดเป็นของราชินี มหาตมะ คานธี บอกเป็นของพระเจ้า มาเอาคืน ชนะครับ ชนะเมื่อกล้าหาญ มีสัจจะ
เอามาฝากพี่น้องผองเพื่อนผู้ต้องการสร้างปัญญากันครับ
สำหรับท่านที่จะเข้ามาแถเอ๊ยถก กรุณาอ่านให้จบก่อน จะขอบคุณยิ่ง
อย่าไปโกรธคนที่ด่าเรา
วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:50:03 น.
สัปดาห์ก่อน สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า "ปัญญาชนสยาม" นักคิด-นักเขียน ส.ศิวรักษ์ ไปออกรายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" พร้อมกับ "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ "ดีเบต" เรื่อง "สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ" จนเกิดกระแสการแสดงความเห็นอย่างเข้มข้นในสังคมออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้ง "เห็นด้วย" และ "ไม่เห็นด้วย" กับการนำเสนอเรื่องดังกล่าว
อาทิตย์ นี้ แทบลอยด์ ไทยโพสต์ สัมภาษณ์ ส.ศิวลักษณ์ มติชนออนไลน์ นำบางตอนของบทสัมภาษณ์ มานำเสนอ ดังนี้
@ ผบ.ทบ. ฮึ่มไม่พอใจไปอยู่ที่อื่น
ตอนนี้ผู้บัญชาการทหารบกออกมาไล่คนเลย บอกคุณไม่พอใจก็ไปอยู่เมืองอื่น ทำตัวเป็นเจ้าของประเทศ ทหารออกมาไล่คน บอกไม่ได้ออกมาจากหลอดแก้ว หมายความว่าอะไร คุณเป็นเจ้าของประเทศคนเดียวหรือ คุณทำหน้าที่อะไร
แหม! กร่างเลย บอกคุณไม่พอใจก็ไปอยู่ที่อื่น คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง บ้านเมืองต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง มาบอกกฎหมายมีอยู่ถ้าไม่ได้ทำผิด
ก็ไม่เป็นไร ทหารไม่น่าจะปากโป้ง ถือเป็นเจ้าของประเทศ คุณไม่ใช่เจ้าของประเทศ คุณกินเงินเดือน แล้วก็กินเงินเดือนมากเกินไปแล้วด้วย แล้วก็เอาเงินไปใช้ซื้ออาวุธมากเกินไป แล้วอาวุธที่ซื้อคุณจะเอาไปรบกับใคร ซื้อเรือเหาะมาก็ใช้ไม่ได้ ทหารทุกประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ทหารไม่มีสิทธิ์มาออกความเห็นกับสื่อมวลชนเป็นอันขาด ข้าราชการ พลเรือนและทหารไม่สามารถออกความเห็นทางการเมืองได้
คนที่ออกความเห็นได้คือนักการเมืองหรือประชาชนคนธรรมดาสามัญ
พวกนี้น่าจะรู้กฎเกณฑ์ประชาธิปไตยบ้าง ประชาธิปไตยอยู่ได้ ทหารต้องฟังนักการเมืองและคนที่มาออกความเห็นต่างๆ ทหารมีหน้าที่อย่างเดียวคือฟัง ไม่ใช่มาออกความเห็นตอบโต้นักวิชาการแล้วมาถือว่าคุณฉลาดกว่าเขา นักวิชาการฉลาดกว่าทหารทุกคน แต่เรายิงปืนเราสู้เขาไม่ได้ เขายิงปืนเก่งกว่าเรา แต่ถ้าเขาไม่ฝึกในกองทัพมา รบกับลาวก็แพ้ เขาไม่ได้ฝึกทางรบครับ เขาฝึกอย่างเดียวเรื่องเซ็งลี้ หากินกัน เล่นกอล์ฟกัน
@ 80 ปีในความเป็น ส.ศิวรักษ์ โดนไปกี่คดี?
(ส่ายหน้ายิ้มๆ) ผมโดนยังไงก็ได้เปรียบ โดนจับค้านท่อก๊าซก็ได้เปรียบ คดีผมได้เปรียบ รุ่น 6 ตุลา ผมถูกเผาหนังสือเท่านั้นเอง ล้มละลาย
ลูกศิษย์ผมถูกฆ่าตายไม่รู้กี่คน ถ้าอยู่ผมก็ถูกฆ่าตาย เผอิญโชคดี รัฐบาลอเมริกาเชิญไปฉลอง 200 ปี เชิญผมไปที่นั่น เลยไม่ตาย
เมื่อโชคดี เอาโชคดีมาช่วยคนที่ร้ายกว่าผมให้ดีขึ้นมา
"80 ปียังไม่เข็ด ยังอยู่ ต้องมีคนอย่างนี้เรื่อยๆ คนไม่เห็นด้วยกับผม ไม่ได้ว่าอะไร อยากด่าก็ด่าไป อยากดังก็ดังไป ดังอะไร มันจะดับอยู่แล้ว สังคมไทยมีแต่นักวิชาการ ไม่มีปัญญาชน"
ปัญญาชนไม่ได้ดีวิเศษอะไร แต่อย่างน้อยมีกึ๋น กล้าพูด ถ้านักวิชาการมีกึ๋นกล้าพูด ก็เป็นปัญญาชนได้ ไอ้สมศักดิ์มันก็เป็นปัญญาชน มีกึ๋น กล้าพูด แม้พูดบ้าๆ บอๆ ก็เรื่องของเขา ผมก็รักมัน มันด่าผม อาจารย์ ส.ศิวรักษ์ Double Standard หน้าเฉยตาเฉย ลอยไปลอยมา แต่มันก็น่ารัก อย่าไปโกรธคนที่ด่าเรา
@ มองว่าบทบาทนักวิชาการเวลานี้เป็นอย่างไร ที่อาจารย์บอกว่านักวิชาการต้องกล้าหาญ?
สิ่งที่เป็นหัวใจของสังคมทุกสังคม หนึ่งสัจจะ สองกล้าหาญทางจริยธรรม ต้องกล้าท้าทายอสัตย์ อธรรม พระพุทธเจ้าตั้งศาสนามาเพราะเหตุอย่างนี้ครับ สังคมอินเดียเวลานี้กดขี่ มีสูงต่ำ วรรณะ ผู้ชายเอาเปรียบผู้หญิง ถ้าตั้งคณะสงฆ์ทุกคนเท่าเทียมกันหมดเลย เป็นภราดรภาพ เป็นพี่น้องกันหมด อยู่เพื่อเอาชนะความโลภ โกรธ หลง
เช่นเดียวกัน มหาตมะ คานธี ออกมาสู้กับอังกฤษ มีอำนาจเต็มฟ้าเลย ทั้งเงิน อำนาจ กองทัพ หมอนี่นุ่งผ้าเตี่ยวผืนเดียว อังกฤษบอกเรือทั้งหมดเป็นของราชินี มหาตมะ คานธี บอกเป็นของพระเจ้า มาเอาคืน ชนะครับ ชนะเมื่อกล้าหาญ มีสัจจะ
เอามาฝากพี่น้องผองเพื่อนผู้ต้องการสร้างปัญญากันครับ
สำหรับท่านที่จะเข้ามาแถเอ๊ยถก กรุณาอ่านให้จบก่อน จะขอบคุณยิ่ง