ความเดิมตอนที่ 1....
http://ppantip.com/topic/30285702
ความมืดได้เข้าครอบงำ ณ ดินแดนแห่งอาณาจักร GJS เหล่าอัศวิน และนักรบ ล้มตายจำนวนมาก ประชาชนพากันหนีย้ายเมืองไปสู่เมืองอื่น ด้านทิศเหนือ กองทัพ Devil GJ เข้าปล้นสะดม ฉุดฆ่า ข่มขืน แต่ยังมีอีกหนึ่งเหล่านักรบเม่า GJ รวมสมัครพักพวก ออกสุ่มโจมตี แต่ด้วยกำลังอันน้อยนิด ก็ไม่สามารถหยุดหยั่งความชั่วร้ายได้ ในความโหดร้ายมักมีความโหดร้ายกว่า ในความชั่วมักมีความชั่วกว่า เหล่าขุนนางชั่ว นามว่า กลค. ประกาศขูดรีดภาษีสร้างความเดือดร้อน ไปทุกหย่อมหญ้า ออกกฎหมายไร้ซึ่งความยุติธรรม ผู้ใดต่อต้านไม่เห็นด้วยจะถูกขังคุกมืดก่อน เป็นเวลา 5 สัปดาห์ ก่อนนำตัวมาไต่สวน หรือจะถึงคราสิ้นแล้วแผ่นดินนี้
ท่าน เราจะทำอย่างไรกันดี กองทัพ Devil GJ เข้าตีดอยสิบสาม ใกล้แตกแล้ว เสียงนั้นตื่นตระหนก ท่าน พญาเม่า GJ ยืนจับขอบหน้าต่าง หอคอยที่ทำจากเหล็กกล้า สูง 30 เมตร ตั้งอยู่บนกำแพงเมือง สายตาเพ่งมองไปที่ซากปะหลักหักพังของเมืองที่ผ่านการรบมายาวนาน เราจะให้หน่วยองครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก จำนวนร้อยหมื่นเข้าไปช่วยตีต้านที่ดอยสิบสามไว้ให้ได้ สายตาที่มั่นคงบ่งบอกว่าต้องชนะเท่านั้น และในความคิดฉับพลัน ถ้าเราไม่สามารถต้าน กองทัพ Devil GJ ที่ดอยสิบสามได้นั้น ไม่แคล้ว ณ ลุ่มเมืองหลวง พิกัดศูนย์จุดสิบ คงย่อยยับ ในความโชคร้ายยังมีโชคดี...พอลงเหลืออยู่บ้าง ที่โรงงานหลอมเหล็กที่ใช้ในการสร้างอาวุธ เริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หลักจากที่หยุดไปในช่วงการรบครั้งก่อน ทำให้ความสามารถในการต่อกรกับ เหล่ากองทัพ Devil GJ ได้ดียิ่งขึ้น
พญาเม่า GJ ออกเดินตรวจความพร้อมขององครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก ซึ่งอยู่ในชุดเกาะเหล็กกล้า วาววับสะท้อนแสงอาทิตย์ สว่างไสว เต็มพื้นที่จัตุรัสเมือง แต่ด้วยเพราะการรบมายาวนานภายในชุดเกาะเหล็กกล้านั้น เหล่าองครักษ์ นักรบเม่าเหล็กบอบช้ำอย่างหนัก จากสงคราม ณ ทุ่ง สามกา ในการรบครั้งนั้น เลือดแดงนองเต็มพื้น มองไกลสุดลูกหู ลูกตา ต้นหญ้าที่เคยเขียวชอุ่มไม่มีอีกแล้ว ณ ทุ่ง แห่งนี้ ใบหญ้าถูกห่อหุ้มด้วยเลือดสีแดงตั้งแต่โคนต้นถึงยอด มองไม่เห็นแม้จุดสีเขียวเพียงเล็กน้อย แต่กระนั้น องครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก แห่ง กองทัพ พญาเม่า GJ ก็รอดชีวิตกลับมาได้พร้อมบาดแผลทุกผู้ ทุกนาย บางคนเจ็บหนัก บางคนเจ็บน้อย ตามแต่ฝีมือในการรบของแต่ละคน
เสียงประกาศก้องของ พญาเม่า GJ “เหล่าองครักษ์ นักรบเม่าเหล็กทั้งหลาย... ในการรบครั้งนี้ จะเป็นการรบที่สำคัญยิ่ง....เพื่อปกป้องแผ่นดิน ที่พี่น้อง เพื่อนฝูง ลูกเมีย อันเป็นที่รัก ได้อยู่ ได้กิน ได้อาศัย จะไม่ให้ใครมาเหยียบย่ำ...พวกเราจะปกป้องด้วยเลือด ด้วยเนื้อ ด้วยชีวิต.....” เสียงร้องไชโย พร้อม เคาะเกาะเหล็กกล้า ดังกึกก้อง ทั่วจัตุรัสเมือง....
ตอนที่ 2.......
กองทัพองครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก ทยอยออกจากประตูเมืองยาวสุดสายตา ด้วยชุดเกาะเหล็กสีเงินเงาสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ชุดเกาะเหล็กเบาบางเพียง 1 มิลิเมตรเคลือบน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมีโรงงานขนาดใหญ่สุดในภูมิภาค ภายในเมือง GJS เทคโนโลยีที่ทันสมัย นักรบที่เก่งกาจ แต่ก็ไม่อาจเอาชนะขุนนางชั่ว กลค. ที่บ่อนเซาะความก้าวหน้าของเมือง GJS เหมือนกับหนอนที่คอยกัดกินอยู่ในใจกลางต้นไม้ ไม่ให้เติบโต
แม่ทัพขุนศึกหนุ่มนามว่า เมืองจันทร์สวมชุดเกาะเหล็กสีเงินดูทะมัดทะแมง ด้วยคิวที่หนา ดวงตาสีฟ้า ตัดกับใบหน้าที่คม ราวกับเทพบุตร นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาว เดินนำขบวน ในมือถือหอกแหลม ที่ปลายหอกมัดพู่สีเขียวสด สายตาเพ่งไปที่ดอยสิบสาม มองเห็นควันไฟลุกท่วมอยู่ปลายขอบฟ้า พร้อมด้วยใจคอที่ร้อนรน กลัวด้วยว่าดอยสิบสามจะแตกเสียก่อน แต่ด้วยกำลังไพร่พลร้อยหมื่น ที่ดูแลก็มิอาจตีฝ่าเข้าไปที่ ดอยสิบสามได้ เพราะมีกองกำลัง Devil GJ ส่งกองหนุนเข้ามาเนืองๆ ดังนั้นจึงตัดสินใจ ไปตั้งกองทัพที่เนินสิบสอง ขึ้นกำแพงรั้วเหล็กกล้าสูงราว สิบเมตร ตั้งค่ายมั่นคง
แม่ทัพเมืองจันทร์ แม่เมืองจันทร์ มีข่าวมาแจ้งด่วน เสียงหอบเหนื่อยเหมือนกับสิ้นใจ พร้อมใช้แขนเช็ด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดแดงสดผสมเหงื่อไหลปิดดวงตา ว่ามามีอะไรท่าน เหล่าขุนนางชั่ว กลค. ได้ทำการตัดเสบียงส่งอาหารส่งน้ำ เข้ามาที่ ดอยสิบสามแล้ว ขณะนี้ในเมือง เดือดร้อนอย่างหนัก ทางดอยสิบสามคิดว่า ไม่เกินวันจันทร์ นี้โดนตีแตกแน่ จึงเอาข่าวมาแจ้งท่านโดยด่วน....กลับไปแจ้งแม่ทัพ พิชิต ที่ดูแลดอยสิบสามว่า วันจันทร์นี้ข้าจะจัดทัพย่อยเข้าตี กองกำลัง Devil GJ เพื่อให้ กองทัพ Devil GJ พะวงหน้าพะวงหลัง ไม่อาจตีดอยสิบสามได้เต็มที่ เราจะนำทัพเข้าตีเวลา 10.00 น.ให้ทางดอยสิบสาม ตีฆ้อง กองศึก ให้ดังกึกก้อง ประมาณว่าจะออกรบ แต่ไม่ต้องนำทหารออกมาจากเมือง ทางทัพเราจะเข้าตีด้านหลัง ตอนที่กองทัพ Devil GJ ให้ความสนใจที่ดอยสิบสาม คงทำให้ กองทัพ Devil GJ สูญเสียพอสมควร แล้วเราจะนำทัพกลับที่เนินสิบสอง รักษาที่มั่นไว้ ทำอย่างนี้คงรักษา ดอยสิบสามได้นานขึ้น เพื่อรอเวลาต่อไป....จนกว่า เมืองหลวงจะกำจัดอิทธิพลของ เหล่าขุนนางชั่ว กลค.ได้คงใช้เวลาถึง 3 พฤษภาคม หลังจากนั้น พญาเม่า GJ จะส่งทัพหลวงมาเสริม เข้าตีดอยสิบสี่ ถึงดอยสิบเจ็ด ที่เหล่ากองทัพ Devil GJ ยึดครองไว้ เพื่อปลดปล่อย นักรบเม่าเหล็ก ที่ถูกจับเป็นชะเลยศึก ให้จงได้
“ ต้องฆ่ามันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว พวกอ่อนแอไม่สมควรอยู่ บนโลกใบนี้ต่อไป “ Devil GJ ประกาศก้อง ด้วยใบหน้าที่เหี้ยมโหด ดวงตาสีแดงก่ำ ผิวสีทองแดง กล้ามเป็นมัดๆ ไว้ผมทรงเดทร็อค ยาวถึงหลัง สีดำผสมน้ำตาลของผม คงไม่ได้สระมากว่าสิบปี ขณะที่ขี่อยู่บนหลังเสือเขี้ยวดาบสีดำ ตัวใหญ่อย่างกับม้า ฟันของเสือยาวกว่าหนึ่งฟุตสีขาวโพลน แสยะเขี้ยวร้องคำราม ดังลั่น ด้านข้างมีเสือเขี้ยวดาบสีดำอีกหนึ่งตัว มีคนใบหน้าขาวซีด เหมือนกับผีดิบ ใส่เสื้อคลุมหนังสีเลือดสด พร้อมลูกตุ้มหนาม สีแดงผูกติดกลับโซ่ยาวกว่าห้าเมตร มองรวมๆเหมือนกับปีศาจร้ายที่หลุดมาจากขุมนรก บุคคลตนนี้มีนามว่า Devil ต้มกบ พรุ่งนี้แล้วสิน่ะ..เราจะเข้าตีดอยสิบสามให้พังพินาศ...ย่อยยับ 555….
ขอให้มีความสุขทุกท่าน......ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ......
องครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก GJS ตอนที่ 2 ......
http://ppantip.com/topic/30285702
ความมืดได้เข้าครอบงำ ณ ดินแดนแห่งอาณาจักร GJS เหล่าอัศวิน และนักรบ ล้มตายจำนวนมาก ประชาชนพากันหนีย้ายเมืองไปสู่เมืองอื่น ด้านทิศเหนือ กองทัพ Devil GJ เข้าปล้นสะดม ฉุดฆ่า ข่มขืน แต่ยังมีอีกหนึ่งเหล่านักรบเม่า GJ รวมสมัครพักพวก ออกสุ่มโจมตี แต่ด้วยกำลังอันน้อยนิด ก็ไม่สามารถหยุดหยั่งความชั่วร้ายได้ ในความโหดร้ายมักมีความโหดร้ายกว่า ในความชั่วมักมีความชั่วกว่า เหล่าขุนนางชั่ว นามว่า กลค. ประกาศขูดรีดภาษีสร้างความเดือดร้อน ไปทุกหย่อมหญ้า ออกกฎหมายไร้ซึ่งความยุติธรรม ผู้ใดต่อต้านไม่เห็นด้วยจะถูกขังคุกมืดก่อน เป็นเวลา 5 สัปดาห์ ก่อนนำตัวมาไต่สวน หรือจะถึงคราสิ้นแล้วแผ่นดินนี้
ท่าน เราจะทำอย่างไรกันดี กองทัพ Devil GJ เข้าตีดอยสิบสาม ใกล้แตกแล้ว เสียงนั้นตื่นตระหนก ท่าน พญาเม่า GJ ยืนจับขอบหน้าต่าง หอคอยที่ทำจากเหล็กกล้า สูง 30 เมตร ตั้งอยู่บนกำแพงเมือง สายตาเพ่งมองไปที่ซากปะหลักหักพังของเมืองที่ผ่านการรบมายาวนาน เราจะให้หน่วยองครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก จำนวนร้อยหมื่นเข้าไปช่วยตีต้านที่ดอยสิบสามไว้ให้ได้ สายตาที่มั่นคงบ่งบอกว่าต้องชนะเท่านั้น และในความคิดฉับพลัน ถ้าเราไม่สามารถต้าน กองทัพ Devil GJ ที่ดอยสิบสามได้นั้น ไม่แคล้ว ณ ลุ่มเมืองหลวง พิกัดศูนย์จุดสิบ คงย่อยยับ ในความโชคร้ายยังมีโชคดี...พอลงเหลืออยู่บ้าง ที่โรงงานหลอมเหล็กที่ใช้ในการสร้างอาวุธ เริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หลักจากที่หยุดไปในช่วงการรบครั้งก่อน ทำให้ความสามารถในการต่อกรกับ เหล่ากองทัพ Devil GJ ได้ดียิ่งขึ้น
พญาเม่า GJ ออกเดินตรวจความพร้อมขององครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก ซึ่งอยู่ในชุดเกาะเหล็กกล้า วาววับสะท้อนแสงอาทิตย์ สว่างไสว เต็มพื้นที่จัตุรัสเมือง แต่ด้วยเพราะการรบมายาวนานภายในชุดเกาะเหล็กกล้านั้น เหล่าองครักษ์ นักรบเม่าเหล็กบอบช้ำอย่างหนัก จากสงคราม ณ ทุ่ง สามกา ในการรบครั้งนั้น เลือดแดงนองเต็มพื้น มองไกลสุดลูกหู ลูกตา ต้นหญ้าที่เคยเขียวชอุ่มไม่มีอีกแล้ว ณ ทุ่ง แห่งนี้ ใบหญ้าถูกห่อหุ้มด้วยเลือดสีแดงตั้งแต่โคนต้นถึงยอด มองไม่เห็นแม้จุดสีเขียวเพียงเล็กน้อย แต่กระนั้น องครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก แห่ง กองทัพ พญาเม่า GJ ก็รอดชีวิตกลับมาได้พร้อมบาดแผลทุกผู้ ทุกนาย บางคนเจ็บหนัก บางคนเจ็บน้อย ตามแต่ฝีมือในการรบของแต่ละคน
เสียงประกาศก้องของ พญาเม่า GJ “เหล่าองครักษ์ นักรบเม่าเหล็กทั้งหลาย... ในการรบครั้งนี้ จะเป็นการรบที่สำคัญยิ่ง....เพื่อปกป้องแผ่นดิน ที่พี่น้อง เพื่อนฝูง ลูกเมีย อันเป็นที่รัก ได้อยู่ ได้กิน ได้อาศัย จะไม่ให้ใครมาเหยียบย่ำ...พวกเราจะปกป้องด้วยเลือด ด้วยเนื้อ ด้วยชีวิต.....” เสียงร้องไชโย พร้อม เคาะเกาะเหล็กกล้า ดังกึกก้อง ทั่วจัตุรัสเมือง....
ตอนที่ 2.......
กองทัพองครักษ์ นักรบเม่าเหล็ก ทยอยออกจากประตูเมืองยาวสุดสายตา ด้วยชุดเกาะเหล็กสีเงินเงาสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ชุดเกาะเหล็กเบาบางเพียง 1 มิลิเมตรเคลือบน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมีโรงงานขนาดใหญ่สุดในภูมิภาค ภายในเมือง GJS เทคโนโลยีที่ทันสมัย นักรบที่เก่งกาจ แต่ก็ไม่อาจเอาชนะขุนนางชั่ว กลค. ที่บ่อนเซาะความก้าวหน้าของเมือง GJS เหมือนกับหนอนที่คอยกัดกินอยู่ในใจกลางต้นไม้ ไม่ให้เติบโต
แม่ทัพขุนศึกหนุ่มนามว่า เมืองจันทร์สวมชุดเกาะเหล็กสีเงินดูทะมัดทะแมง ด้วยคิวที่หนา ดวงตาสีฟ้า ตัดกับใบหน้าที่คม ราวกับเทพบุตร นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาว เดินนำขบวน ในมือถือหอกแหลม ที่ปลายหอกมัดพู่สีเขียวสด สายตาเพ่งไปที่ดอยสิบสาม มองเห็นควันไฟลุกท่วมอยู่ปลายขอบฟ้า พร้อมด้วยใจคอที่ร้อนรน กลัวด้วยว่าดอยสิบสามจะแตกเสียก่อน แต่ด้วยกำลังไพร่พลร้อยหมื่น ที่ดูแลก็มิอาจตีฝ่าเข้าไปที่ ดอยสิบสามได้ เพราะมีกองกำลัง Devil GJ ส่งกองหนุนเข้ามาเนืองๆ ดังนั้นจึงตัดสินใจ ไปตั้งกองทัพที่เนินสิบสอง ขึ้นกำแพงรั้วเหล็กกล้าสูงราว สิบเมตร ตั้งค่ายมั่นคง
แม่ทัพเมืองจันทร์ แม่เมืองจันทร์ มีข่าวมาแจ้งด่วน เสียงหอบเหนื่อยเหมือนกับสิ้นใจ พร้อมใช้แขนเช็ด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดแดงสดผสมเหงื่อไหลปิดดวงตา ว่ามามีอะไรท่าน เหล่าขุนนางชั่ว กลค. ได้ทำการตัดเสบียงส่งอาหารส่งน้ำ เข้ามาที่ ดอยสิบสามแล้ว ขณะนี้ในเมือง เดือดร้อนอย่างหนัก ทางดอยสิบสามคิดว่า ไม่เกินวันจันทร์ นี้โดนตีแตกแน่ จึงเอาข่าวมาแจ้งท่านโดยด่วน....กลับไปแจ้งแม่ทัพ พิชิต ที่ดูแลดอยสิบสามว่า วันจันทร์นี้ข้าจะจัดทัพย่อยเข้าตี กองกำลัง Devil GJ เพื่อให้ กองทัพ Devil GJ พะวงหน้าพะวงหลัง ไม่อาจตีดอยสิบสามได้เต็มที่ เราจะนำทัพเข้าตีเวลา 10.00 น.ให้ทางดอยสิบสาม ตีฆ้อง กองศึก ให้ดังกึกก้อง ประมาณว่าจะออกรบ แต่ไม่ต้องนำทหารออกมาจากเมือง ทางทัพเราจะเข้าตีด้านหลัง ตอนที่กองทัพ Devil GJ ให้ความสนใจที่ดอยสิบสาม คงทำให้ กองทัพ Devil GJ สูญเสียพอสมควร แล้วเราจะนำทัพกลับที่เนินสิบสอง รักษาที่มั่นไว้ ทำอย่างนี้คงรักษา ดอยสิบสามได้นานขึ้น เพื่อรอเวลาต่อไป....จนกว่า เมืองหลวงจะกำจัดอิทธิพลของ เหล่าขุนนางชั่ว กลค.ได้คงใช้เวลาถึง 3 พฤษภาคม หลังจากนั้น พญาเม่า GJ จะส่งทัพหลวงมาเสริม เข้าตีดอยสิบสี่ ถึงดอยสิบเจ็ด ที่เหล่ากองทัพ Devil GJ ยึดครองไว้ เพื่อปลดปล่อย นักรบเม่าเหล็ก ที่ถูกจับเป็นชะเลยศึก ให้จงได้
“ ต้องฆ่ามันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว พวกอ่อนแอไม่สมควรอยู่ บนโลกใบนี้ต่อไป “ Devil GJ ประกาศก้อง ด้วยใบหน้าที่เหี้ยมโหด ดวงตาสีแดงก่ำ ผิวสีทองแดง กล้ามเป็นมัดๆ ไว้ผมทรงเดทร็อค ยาวถึงหลัง สีดำผสมน้ำตาลของผม คงไม่ได้สระมากว่าสิบปี ขณะที่ขี่อยู่บนหลังเสือเขี้ยวดาบสีดำ ตัวใหญ่อย่างกับม้า ฟันของเสือยาวกว่าหนึ่งฟุตสีขาวโพลน แสยะเขี้ยวร้องคำราม ดังลั่น ด้านข้างมีเสือเขี้ยวดาบสีดำอีกหนึ่งตัว มีคนใบหน้าขาวซีด เหมือนกับผีดิบ ใส่เสื้อคลุมหนังสีเลือดสด พร้อมลูกตุ้มหนาม สีแดงผูกติดกลับโซ่ยาวกว่าห้าเมตร มองรวมๆเหมือนกับปีศาจร้ายที่หลุดมาจากขุมนรก บุคคลตนนี้มีนามว่า Devil ต้มกบ พรุ่งนี้แล้วสิน่ะ..เราจะเข้าตีดอยสิบสามให้พังพินาศ...ย่อยยับ 555….
ขอให้มีความสุขทุกท่าน......ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ......