พอดีไปเจอคลิ๊ปฟุตบอลซีเกมส์รอบรองชนะเลิศ ครั้งที่ 15 ปี 1989 ในยูทูป ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติมาเลเซีย
ในปีนั้นทีมชาติไทยเป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ โดยมีคู่แข่งอย่างมาเลเซียเจ้าภาพที่นำทีมโดยไซนัล อบีดีน ฮัดซัน ดอลล่า ซาเล่ย์ ลิมตองคิม รวมถึงสิงคโปร์ที่นำทีมโดยฟานดี้ อาหมัด มาเล็ก อาวับ อาหมัด ยูโซ๊ป และ เดวิด ลี ผู้รักษาประตูจอมหนึบ นอกจากนี้ยังมีทีมอินโดนิเซียที่นำทีมโดยดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างริกกี้ จาค๊อป เป็นคู่แข่งที่สำคัญ ทีมชาติไทยมีผลงานชนะ 1 เสมอ 1 ในรอบแรก โดยชนะพม่า 3-0 เสมอ สิงคโปรค์ 1-1 พบกับทีมชาติมาเลเซียในรอบรองชนะเลิศ เกมการแข่งขันเป็นอย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับ ซึ่งทีมไทยเองก็มีโอกาสยิงประตูแต่ก็พลาดไปหมด จนใกล้ช่วงหมดเวลา ทางมาเลเซียได้บอลทางปีกซ้ายแล้วพยายามจะเปิดบอลมาหน้าประตู แต่นที ทองสุกแก้วพุ่งสไลด์สกัดออกด้านหลังแต่ปรากฎว่าตัวของนทีก็บาดเจ็บจากการสไลด์บอลลูกนี้ทำให้กองหลังไทยขาดผู้เล่น 1 คนที่จะไปยืนคุมกองหน้ามาเลเซียเมื่อไทยเสียลูกเตะมุม (คลิ๊ปด้านล่างจะเห็น) มาเลเซียฉวยโอกาสที่ผู้เล่นตัวเองได้เปรียบเปิดลูกเตะมุมไปหน้าประตู ไซนัล อบีดีน ฮัดซัน ศูนย์หน้าจอมเก๋า ซึ่งตลอดเกมส์ที่ผ่านมานที ทองสุกแก้วจะเป็นผู้ตามประกบตลอด แต่เมื่อนทีบาดเจ็บไม่มีผู้ตามประกบแทน จึงโหม่งเสยผ่านมือวิลาศ น้อมเจริญเข้าประตูไป ไทยพยายามบุกยิงประตูคืนแต่ก็โดนมาเลเซียสวนกลับตลอดอย่างที่เห็นในคลิ๊ป เมื่อหมดเวลาการแข่งขันมาเลเซียจึงชนะไป 1-0 หลังจบการแข่งขันแฟนบอลชาวไทยในยุคนั้นต่างรู้สึกผิดหวังอย่างแรง เพราะมีความคาดหวังในทีมชาติไทยในยุคนั้นสูงมากเนื่องจากมีสุดยอดผู้เล่นในทีมมากมาย และทัศนคติของแฟนบอลไทยสมัยนั้นก็มักจะคิดว่าเมื่อไหร่ที่ทีมไทยมีปิยะพงษ์ เป็นศูนย์หน้าทีมไทยจะต้องชนะและยิงประตูได้เสมอ แต่วันนั้นเดอะตุ๊กเจอกองหลังของมาเลเซียตามประกบถึงสองคนทำให้เล่นไม่ออก ต้องหนีลงมาเป็นตัวจ่ายริมเส้น ซึ่งจากในคลิ๊ปจะเห็นว่ามีอยู่ลูกนึงที่เปิดจากริมเส้นไปให้ประเสริฐ ช้างมูลยิงแต่ประเสริฐยิงไปเข้ามือผู้รักษาประตูอย่างน่าเสียดาย วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์หลายฉบับเขียนข่าวโจมตีเดอะตุ๊กหาว่าเล่นไม่เต็มที่เนื่องจากช่วงเวลานั้นเดอะตุ๊กเล่นให้สโมสรปาหังในมาเลเซียซึ่งมีเจ้าชายมาเลเซียเป็นประธานสโมสร ทำให้แฟนบอลทั่วประเทศเข้าใจผิดหาว่าปิยะพงษ์ล้มบอล ต่างพากันด่าทอปิยะพงษ์กันอย่างดุเดือดโดยลืมคิดไปว่าฟุตบอลเล่นกัน 11 คนและมาเลเซียในยุคนั้นก็มีนักเตะเก่งๆไม่น้อยไปกว่าไทย ปิยะพงษ์ก็โดนประกบสองคนจนเล่นไม่ออก จากในคลิ๊ปจะเห็นว่าต้องหนีมาเล่นด้านริมเส้นเพื่อดึงผู้เล่นมาเลเซียออกมาและจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูแทน อีกทั้งวันนั้นมาเลเซียก็เล่นดีด้วย จากในคลิ๊ปก็โต้กลับได้หลายครั้งจนเกือบยิงประตูไทยได้หลายประตู ปิยะพงษ์โดนโจมตีอย่างหนักจนทนไม่ไหว จนต้องกลับเมืองไทยมาแถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปสาบานที่วัดพระแก้ว จนต้องประกาศเลิกเล่นทีมชาติเกือบ 3 ปีและกลับมาเล่นอีกครั้งในปี 2535 ในฟุตบอลคิงส์คัพส์ซึ่งทำให้ไทยกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง การแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ครั้งนี้มาเลเซียคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะสิงคโปร์ที่มีฟานดี อาหมัดเป็นศูนย์หน้าไปขาดลอย 3-1 ในรอบชิงชนะเลิศแต่แฟนบอลสิงคโปรค์ไม่ได้ต่อว่าฟานดี อาหมัดเลยแม้ว่าสิงคโปรค์จะแพ้มาเลเซียขาดลอยมากกว่าไทยเสียอีก
http://www.youtube.com/watch?v=eP7uvOGI81c
คลิ๊ปฟุตบอลซีเกมส์รอบรองชนะเลิศ ครั้งที่ 15 ปี 1989 ฝันร้ายของปิยะพงษ์ ผิวอ่อน
ในปีนั้นทีมชาติไทยเป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ โดยมีคู่แข่งอย่างมาเลเซียเจ้าภาพที่นำทีมโดยไซนัล อบีดีน ฮัดซัน ดอลล่า ซาเล่ย์ ลิมตองคิม รวมถึงสิงคโปร์ที่นำทีมโดยฟานดี้ อาหมัด มาเล็ก อาวับ อาหมัด ยูโซ๊ป และ เดวิด ลี ผู้รักษาประตูจอมหนึบ นอกจากนี้ยังมีทีมอินโดนิเซียที่นำทีมโดยดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างริกกี้ จาค๊อป เป็นคู่แข่งที่สำคัญ ทีมชาติไทยมีผลงานชนะ 1 เสมอ 1 ในรอบแรก โดยชนะพม่า 3-0 เสมอ สิงคโปรค์ 1-1 พบกับทีมชาติมาเลเซียในรอบรองชนะเลิศ เกมการแข่งขันเป็นอย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับ ซึ่งทีมไทยเองก็มีโอกาสยิงประตูแต่ก็พลาดไปหมด จนใกล้ช่วงหมดเวลา ทางมาเลเซียได้บอลทางปีกซ้ายแล้วพยายามจะเปิดบอลมาหน้าประตู แต่นที ทองสุกแก้วพุ่งสไลด์สกัดออกด้านหลังแต่ปรากฎว่าตัวของนทีก็บาดเจ็บจากการสไลด์บอลลูกนี้ทำให้กองหลังไทยขาดผู้เล่น 1 คนที่จะไปยืนคุมกองหน้ามาเลเซียเมื่อไทยเสียลูกเตะมุม (คลิ๊ปด้านล่างจะเห็น) มาเลเซียฉวยโอกาสที่ผู้เล่นตัวเองได้เปรียบเปิดลูกเตะมุมไปหน้าประตู ไซนัล อบีดีน ฮัดซัน ศูนย์หน้าจอมเก๋า ซึ่งตลอดเกมส์ที่ผ่านมานที ทองสุกแก้วจะเป็นผู้ตามประกบตลอด แต่เมื่อนทีบาดเจ็บไม่มีผู้ตามประกบแทน จึงโหม่งเสยผ่านมือวิลาศ น้อมเจริญเข้าประตูไป ไทยพยายามบุกยิงประตูคืนแต่ก็โดนมาเลเซียสวนกลับตลอดอย่างที่เห็นในคลิ๊ป เมื่อหมดเวลาการแข่งขันมาเลเซียจึงชนะไป 1-0 หลังจบการแข่งขันแฟนบอลชาวไทยในยุคนั้นต่างรู้สึกผิดหวังอย่างแรง เพราะมีความคาดหวังในทีมชาติไทยในยุคนั้นสูงมากเนื่องจากมีสุดยอดผู้เล่นในทีมมากมาย และทัศนคติของแฟนบอลไทยสมัยนั้นก็มักจะคิดว่าเมื่อไหร่ที่ทีมไทยมีปิยะพงษ์ เป็นศูนย์หน้าทีมไทยจะต้องชนะและยิงประตูได้เสมอ แต่วันนั้นเดอะตุ๊กเจอกองหลังของมาเลเซียตามประกบถึงสองคนทำให้เล่นไม่ออก ต้องหนีลงมาเป็นตัวจ่ายริมเส้น ซึ่งจากในคลิ๊ปจะเห็นว่ามีอยู่ลูกนึงที่เปิดจากริมเส้นไปให้ประเสริฐ ช้างมูลยิงแต่ประเสริฐยิงไปเข้ามือผู้รักษาประตูอย่างน่าเสียดาย วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์หลายฉบับเขียนข่าวโจมตีเดอะตุ๊กหาว่าเล่นไม่เต็มที่เนื่องจากช่วงเวลานั้นเดอะตุ๊กเล่นให้สโมสรปาหังในมาเลเซียซึ่งมีเจ้าชายมาเลเซียเป็นประธานสโมสร ทำให้แฟนบอลทั่วประเทศเข้าใจผิดหาว่าปิยะพงษ์ล้มบอล ต่างพากันด่าทอปิยะพงษ์กันอย่างดุเดือดโดยลืมคิดไปว่าฟุตบอลเล่นกัน 11 คนและมาเลเซียในยุคนั้นก็มีนักเตะเก่งๆไม่น้อยไปกว่าไทย ปิยะพงษ์ก็โดนประกบสองคนจนเล่นไม่ออก จากในคลิ๊ปจะเห็นว่าต้องหนีมาเล่นด้านริมเส้นเพื่อดึงผู้เล่นมาเลเซียออกมาและจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูแทน อีกทั้งวันนั้นมาเลเซียก็เล่นดีด้วย จากในคลิ๊ปก็โต้กลับได้หลายครั้งจนเกือบยิงประตูไทยได้หลายประตู ปิยะพงษ์โดนโจมตีอย่างหนักจนทนไม่ไหว จนต้องกลับเมืองไทยมาแถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปสาบานที่วัดพระแก้ว จนต้องประกาศเลิกเล่นทีมชาติเกือบ 3 ปีและกลับมาเล่นอีกครั้งในปี 2535 ในฟุตบอลคิงส์คัพส์ซึ่งทำให้ไทยกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง การแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ครั้งนี้มาเลเซียคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะสิงคโปร์ที่มีฟานดี อาหมัดเป็นศูนย์หน้าไปขาดลอย 3-1 ในรอบชิงชนะเลิศแต่แฟนบอลสิงคโปรค์ไม่ได้ต่อว่าฟานดี อาหมัดเลยแม้ว่าสิงคโปรค์จะแพ้มาเลเซียขาดลอยมากกว่าไทยเสียอีก
http://www.youtube.com/watch?v=eP7uvOGI81c