สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ให้ข้อเสนอดังนี้นะครับ
นิสัยผู้ชายชอบความท้าทาย เขาเป็นนักล่า เขาจึงเป็นประเภท ยิ่งหนี ยิ่งไล่ แต่ถ้าเขาถูกไล่ เขาจะวิ่งหนี
เมื่อเป็นแบบนี้ มันจึงไม่เกี่ยวกับ promotion หรอกครับ มันเกี่ยวว่า จขกท.ได้เปลี่ยนจากผู้หนี มาเป็นผู้ไล่ มันเป็นธรรมดาของผู้ชายทุกคน ดังนั้นถ้าคิดมีแฟน อย่าไปวิตกเรื่องนี้มาก แค่เขาดีกับเราก็พอแล้ว
ส่วนเรื่องคุยโทรศัพท์น้อยลง ผมก็ว่าเป็นเรื่องปกติอีก คนเราคบกันใหม่ๆ ก็อยากรู้ของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็มีเรื่องคุยกันเยอะ คบกันนาน มันยังมีเรื่องอะไรคุยกันอีก ยกเว้นมีเรื่องใหม่ๆ เรื่องแปลก เล่าสู่กันฟังไป คุยก็น้อยลง เป็นเรื่องธรรมดา
เรื่องพวกนี้จึงไม่น่าจะใช้ปัญหาเท่าไร ความรักคือเรื่องอารมณ์ล้วนๆ จึงไม่ควรหาเหตุผลว่าทำไมเป็นอย่างงั่นอย่างงี้ เพราะถ้า จขกท.ถามหาเหตุผลเมื่อไร นั่นแสดงว่าความรักกำลังมีปัญหา แล้วสิ่งที่ตามมาคือ การแตกแยก เพราะคุณจะหาเหตุผลว่ามันเหมาะหรือไม่ เราควรคบกับเขาหรือไม่ เราควรทำแบบไหนให้เขากลับมาดีไหม เขาควร...... แล้วอีกหลายๆ คำถาม เชื่อเถิดครับ เมื่อใดที่คุณหาคำตอบเจอทั้งหมด คุณจะพบว่า คุณกับเขาไม่เหมาะสมกันเลย
ดังนั้นจึงไม่ควรถามหาเหตุผลใดๆ ลองนึกย้อนดู ในช่วงเวลาที่บอกว่าเป็น promotion นะ จขกท. คิดว่าตัวเองยังเหมือนเดิมกับเขาทั้งหมดหรือเปล่า เป็นแบบสมัยก่อนทั้งหมดหรือเปล่า คำตอบที่ว่าคงไม่ อย่างน้อยจากสิ่งที่คุณไม่เคยตั้งคำถามวันนี้คุณก็ตั้งมันแล้ว แล้วถามต่อว่าอารมณ์ของผู้ชายที่คุณว่าเปลี่ยนไป ตอนนั้นกับตอนนี้สถานการณ์เขาเปลี่ยนไปหรือเปล่า คำตอบก็ว่าคงไม่อีก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในช่วงหนึ่งเขาอาจคิดถึงแต่คุณ แต่มาวันนี้สถานการณ์บางอย่างทำให้เขาต้องมีเรื่องคิดถึงมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นที่ตัวคุณด้วยก็ได้ เช่น เขาทุ่มคิดถึงคุณมากจนไม่ทำงาน เสียงานเสียการ หรือไม่ก็อาจไปยืมเงินเพื่อนมาเที่ยวกับคุณ หรืออื่นๆ อีกหลายเหตุผล ซึ่งคุณอาจไม่ทราบ ปัญหาเรื่องเงิน ปัญหาหนี้สิน เพราะความรักไม่มีเหตุผล ตอนคบกันใหม่มันจึงทำได้ทุกอย่าง ให้ยืมเงินใครก็ยอม ให้ซื้ออะไรให้ก็ยอม ความสุขมันล้น แต่พอเขากลับมาพบความจริง ปัญหาของเขาก็มีมากขึ้น ของพวกนี้มันมีเวลาของมัน เมื่อโดนปัญหารุมเร้ามากขึ้น มันก็แน่นอนเขาก็ต้องใช้เวลาแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจทำให้คิดถึง จขกท. น้อยลง แต่ไม่ใช่เพราะความรักลดลง แต่สถานการณ์ทำให้เขาต้องคิดถึงมันน้อยลงต่างหาก
ตามที่หัวข้อคุณตั้งกระทู้ ซึ่งคุณอยู่ในช่วงกำลังคิดมาก น้อยใจ จึงพยายามหาคำตอบ ผมจึงแนะนำอย่าไปหาเลยครับ เพราะผมกลัวว่าอีกไม่นานคุณคงหาเหตุผลเจอ เมื่อนั้นคุณกับเขาก็คงไม่เข้าใจกัน อยากให้คุณลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ หาเรื่องดี ลองเปลี่ยนโจทย์จากความน้อยใจมาเป็นความห่วงใยดูบ้าง ผมว่านั่นแหละคืออารมณ์ล้วนๆ ซึ่งก็คือความรักและความห่วงใยที่คุณมีต่อเขา อีกอย่างจงพร้อมที่จะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา ถ้ายังคิดว่าทำไม่ได้อยากให้ จขกท.มองหาผู้ชายสักคน ที่วันๆ คุยแต่โทรศัพท์กับแฟน แฟนโทรมาเมื่อไรก็ทิ้งงานคุย งานการไม่สนใจ พอเขามีงานด่วนบอกให้ช่วยกันทำ ก็ไม่ทำ วันๆ คิดแต่จะเที่ยว ใช้เงินไม่อั้น ใช้เงินแบบไม่มีเหตุผล เงินทองไม่ยอมเก็บ มีเท่าไรใช้หมด พ่อแม่ไม่สนใจ ใครจะเป็นจะตายอย่างไรไม่สนใจ ชีวิตมีแต่แฟน ตามแฟนทุกวัน แฟนจะทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องมากินข้าวกันทุกเที่ยง ทุกเย็น ตกงานไม่ว่าขอให้ได้เจอแฟน ผู้ชายแบบนี้คือยอดปรารถนาของ จขกท.หรือเปล่า ซึ่งก็ไม่แน่ว่าแล้วถ้า จขกท.เจอผู้ชายแบบนี้จริง อาจจะเบื่อมากๆๆๆๆๆๆๆ จนอาจต้องมาตั้งกระทู้ใหม่ว่า ผู้ชายที่วันๆ ไม่คิดทำอะไรเลย นอกจากแกะเมียกินไปวันๆ จะสะบัดเขาอย่างไร ก็ได้นะ จะบอกให้
นิสัยผู้ชายชอบความท้าทาย เขาเป็นนักล่า เขาจึงเป็นประเภท ยิ่งหนี ยิ่งไล่ แต่ถ้าเขาถูกไล่ เขาจะวิ่งหนี
เมื่อเป็นแบบนี้ มันจึงไม่เกี่ยวกับ promotion หรอกครับ มันเกี่ยวว่า จขกท.ได้เปลี่ยนจากผู้หนี มาเป็นผู้ไล่ มันเป็นธรรมดาของผู้ชายทุกคน ดังนั้นถ้าคิดมีแฟน อย่าไปวิตกเรื่องนี้มาก แค่เขาดีกับเราก็พอแล้ว
ส่วนเรื่องคุยโทรศัพท์น้อยลง ผมก็ว่าเป็นเรื่องปกติอีก คนเราคบกันใหม่ๆ ก็อยากรู้ของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็มีเรื่องคุยกันเยอะ คบกันนาน มันยังมีเรื่องอะไรคุยกันอีก ยกเว้นมีเรื่องใหม่ๆ เรื่องแปลก เล่าสู่กันฟังไป คุยก็น้อยลง เป็นเรื่องธรรมดา
เรื่องพวกนี้จึงไม่น่าจะใช้ปัญหาเท่าไร ความรักคือเรื่องอารมณ์ล้วนๆ จึงไม่ควรหาเหตุผลว่าทำไมเป็นอย่างงั่นอย่างงี้ เพราะถ้า จขกท.ถามหาเหตุผลเมื่อไร นั่นแสดงว่าความรักกำลังมีปัญหา แล้วสิ่งที่ตามมาคือ การแตกแยก เพราะคุณจะหาเหตุผลว่ามันเหมาะหรือไม่ เราควรคบกับเขาหรือไม่ เราควรทำแบบไหนให้เขากลับมาดีไหม เขาควร...... แล้วอีกหลายๆ คำถาม เชื่อเถิดครับ เมื่อใดที่คุณหาคำตอบเจอทั้งหมด คุณจะพบว่า คุณกับเขาไม่เหมาะสมกันเลย
ดังนั้นจึงไม่ควรถามหาเหตุผลใดๆ ลองนึกย้อนดู ในช่วงเวลาที่บอกว่าเป็น promotion นะ จขกท. คิดว่าตัวเองยังเหมือนเดิมกับเขาทั้งหมดหรือเปล่า เป็นแบบสมัยก่อนทั้งหมดหรือเปล่า คำตอบที่ว่าคงไม่ อย่างน้อยจากสิ่งที่คุณไม่เคยตั้งคำถามวันนี้คุณก็ตั้งมันแล้ว แล้วถามต่อว่าอารมณ์ของผู้ชายที่คุณว่าเปลี่ยนไป ตอนนั้นกับตอนนี้สถานการณ์เขาเปลี่ยนไปหรือเปล่า คำตอบก็ว่าคงไม่อีก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในช่วงหนึ่งเขาอาจคิดถึงแต่คุณ แต่มาวันนี้สถานการณ์บางอย่างทำให้เขาต้องมีเรื่องคิดถึงมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นที่ตัวคุณด้วยก็ได้ เช่น เขาทุ่มคิดถึงคุณมากจนไม่ทำงาน เสียงานเสียการ หรือไม่ก็อาจไปยืมเงินเพื่อนมาเที่ยวกับคุณ หรืออื่นๆ อีกหลายเหตุผล ซึ่งคุณอาจไม่ทราบ ปัญหาเรื่องเงิน ปัญหาหนี้สิน เพราะความรักไม่มีเหตุผล ตอนคบกันใหม่มันจึงทำได้ทุกอย่าง ให้ยืมเงินใครก็ยอม ให้ซื้ออะไรให้ก็ยอม ความสุขมันล้น แต่พอเขากลับมาพบความจริง ปัญหาของเขาก็มีมากขึ้น ของพวกนี้มันมีเวลาของมัน เมื่อโดนปัญหารุมเร้ามากขึ้น มันก็แน่นอนเขาก็ต้องใช้เวลาแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจทำให้คิดถึง จขกท. น้อยลง แต่ไม่ใช่เพราะความรักลดลง แต่สถานการณ์ทำให้เขาต้องคิดถึงมันน้อยลงต่างหาก
ตามที่หัวข้อคุณตั้งกระทู้ ซึ่งคุณอยู่ในช่วงกำลังคิดมาก น้อยใจ จึงพยายามหาคำตอบ ผมจึงแนะนำอย่าไปหาเลยครับ เพราะผมกลัวว่าอีกไม่นานคุณคงหาเหตุผลเจอ เมื่อนั้นคุณกับเขาก็คงไม่เข้าใจกัน อยากให้คุณลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ หาเรื่องดี ลองเปลี่ยนโจทย์จากความน้อยใจมาเป็นความห่วงใยดูบ้าง ผมว่านั่นแหละคืออารมณ์ล้วนๆ ซึ่งก็คือความรักและความห่วงใยที่คุณมีต่อเขา อีกอย่างจงพร้อมที่จะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา ถ้ายังคิดว่าทำไม่ได้อยากให้ จขกท.มองหาผู้ชายสักคน ที่วันๆ คุยแต่โทรศัพท์กับแฟน แฟนโทรมาเมื่อไรก็ทิ้งงานคุย งานการไม่สนใจ พอเขามีงานด่วนบอกให้ช่วยกันทำ ก็ไม่ทำ วันๆ คิดแต่จะเที่ยว ใช้เงินไม่อั้น ใช้เงินแบบไม่มีเหตุผล เงินทองไม่ยอมเก็บ มีเท่าไรใช้หมด พ่อแม่ไม่สนใจ ใครจะเป็นจะตายอย่างไรไม่สนใจ ชีวิตมีแต่แฟน ตามแฟนทุกวัน แฟนจะทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องมากินข้าวกันทุกเที่ยง ทุกเย็น ตกงานไม่ว่าขอให้ได้เจอแฟน ผู้ชายแบบนี้คือยอดปรารถนาของ จขกท.หรือเปล่า ซึ่งก็ไม่แน่ว่าแล้วถ้า จขกท.เจอผู้ชายแบบนี้จริง อาจจะเบื่อมากๆๆๆๆๆๆๆ จนอาจต้องมาตั้งกระทู้ใหม่ว่า ผู้ชายที่วันๆ ไม่คิดทำอะไรเลย นอกจากแกะเมียกินไปวันๆ จะสะบัดเขาอย่างไร ก็ได้นะ จะบอกให้
แสดงความคิดเห็น
พอหมด promotion แล้วต้องทำยังไงคะ