ใครดูดีกว่ากันในด้านของความคุ้มค่า
March และ Mirage คือคู่เหมือนที่ทัดเทียมกันมากที่สุดในตลาด Eco car
เมื่อมีการไมเนอร์เชนจ์ปรับปรุง March ให้ดีขึ้น ก็มีการปรับราคาขึ้นตาม option ที่เพิ่มขึ้นด้วย
March เป็นผู้นำด้าน Option เสมอมา จนกระทั่งการมาของ Mirage ที่ใส่หน้าจอ Navi และ Bluetooth จากโรงงาน
ซึ่งเป็น option ราคาแพงมาให้ และยังมีจุดเด่นในด้านการขับขี่สไตล์ Mitsubishi เพียงแต่การพยายามลดน้ำหนักที่
มากเกินไป ทำให้ Mirage ก้าวเข้าไปในเขตของ sub B segment มากกว่าค่ายอื่น ทำให้ขาดความหนักแน่น และมีปัญ
หาเรื่องเสียงที่มากโข
เปรียบเทียบ option ของรุ่นต่อรุ่น ที่ทั้งคู่ตั้งใจจัดมาให้ชนกันตรงๆ ชนิดที่ว่า วัดใจลูกค้ากันเลยทีเดียว
การเพิ่มราคาของ March Minor Change อาจทำให้ดูเสียเปรียบในแง่ของความคุ้มค่าที่ด้อยลง
แต่จะทำให้ Mirage ได้เปรียบขึ้นมาจริงๆ หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้บริโภคในวงกว้าง
ซึ่ง Nissan ซึ่งมีความภาคภูมิใจในความเป็นผู้นำตลาด Eco car ตั้งใจปรับโฉม March ให้หนีจากอนาเขต
sub B segment และแต่งองค์ทรงเครื่องให้มีความเป็น B segment เต็มตัวมากขึ้น ใส่ใจทุกจุดแม้แต่จุดที่ละเอียด
เล็กน้อย
ในด้านการออกแบบ March Minor Change แก้เกมจากการเป็นเพียง ร่างโคลนนิ่ง Mini ที่ดูบ๊องแบ๊วมากเกินไป
(ในขณะที่ Swift เป็นร่างโคลน Mini ที่ดูเฉี่ยวคม) มาสู่ความเฉี่ยวคมมากขึ้น มีหน้าตาที่จิก พุ่งไปข้างหน้ามากกว่าเดิม
จากรุ่นเดิมที่ให้อารมณ์ดูเหมือนไม่อยากจะวิ่ง สังเกตุดูในโฆษณา จะวิ่งช้าๆ ซุกซนอยู่ในเมือง ในขณะที่รุ่นใหม่ มีบุคลิก
ที่บ่งบอกว่าต้องขับให้ไวกว่าเดิม กระจังหน้าบน ตรงโลโก้และโครเมี่ยมรูปตัว U เหมือนจะทำให้รถมี center เป็นจมูกขึ้นมา
ชัดเจน และปากด้านล่าง ที่ยิ้มแฉ่งมากกว่าเดิม เหมือนจะแข่งกับ Mazda 2 ทำให้บุคลิกดูกระฉับกระเฉง
ส่วนโครมเมี่ยมทั้งหลาย ก็ทำมาสำหรับรสนิยมคนเอเซียโดยเฉพาะตลาดจีน และทำให้รถดูแพงขึ้นด้วย (บวกกับไฟท้าย LED)
สำหรับ Mirage ทางด้าน Mitsubishi ยังคงรักษาสไตล์ของรถที่มีทรง sport เอาไว้นิดๆ เสียดายที่รุ่นส่งออกไปยุโรปเท่านั้น
ที่จะได้สวมล้อแม็ก 15 นิ้ว เพราะล้อ 14 นิ้วในรุ่นท๊อป ยังเล็กมากเกินไปสำหรับตัวรถ ทำให้มีปัญหาในด้านการทรงตัวด้วย
ด้วยความที่เป็นหน้าในวัยเด็กของอีโว จึงสามารถแต่งต่อให้ดุดันได้ แต่เสียดายที่รถยังดูขาดเอกลักษณ์มากเกินไป
โคมไฟหน้าและโคมไฟหลังที่ทำกรอบให้พอดีกับเบ้าไฟ มากกว่าจะพยายามออกแบบให้มีลีลา (มีนักวิจารณ์รถญี่ปุ่นคนนึงพูด
เอาไว้ ซึ่งผมก็เห็นด้วย) แต่ก็ยังเชื่อว่า ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ คงจะสามารถปรับหน้าตาจืดๆ ที่ไม่มีบุคลิก ให้ดูดีข้ามขั้นได้ และ
ล้อที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้บอดี้ที่ทรวดทรงดีอยู่แล้ว ดูไร้ที่ติ
ในตารางข้างบน องค์ประกอบภาพรวมของ March ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น ดูเหมือนจะชนะ Mirage
แต่ในด้านความคุ้มค่าล่ะ ลองดูและตัดสินกันได้เลยครับ
มีอะไรคุยกันได้ในเฟสบุคผม
http://www.facebook.com/mewminorchange ได้นะครับ
เปรียบเทียบระหว่าง March Minor Change กับ Mirage คู่ฮ็อตที่ชนกันเต็มๆ
March และ Mirage คือคู่เหมือนที่ทัดเทียมกันมากที่สุดในตลาด Eco car
เมื่อมีการไมเนอร์เชนจ์ปรับปรุง March ให้ดีขึ้น ก็มีการปรับราคาขึ้นตาม option ที่เพิ่มขึ้นด้วย
March เป็นผู้นำด้าน Option เสมอมา จนกระทั่งการมาของ Mirage ที่ใส่หน้าจอ Navi และ Bluetooth จากโรงงาน
ซึ่งเป็น option ราคาแพงมาให้ และยังมีจุดเด่นในด้านการขับขี่สไตล์ Mitsubishi เพียงแต่การพยายามลดน้ำหนักที่
มากเกินไป ทำให้ Mirage ก้าวเข้าไปในเขตของ sub B segment มากกว่าค่ายอื่น ทำให้ขาดความหนักแน่น และมีปัญ
หาเรื่องเสียงที่มากโข
เปรียบเทียบ option ของรุ่นต่อรุ่น ที่ทั้งคู่ตั้งใจจัดมาให้ชนกันตรงๆ ชนิดที่ว่า วัดใจลูกค้ากันเลยทีเดียว
การเพิ่มราคาของ March Minor Change อาจทำให้ดูเสียเปรียบในแง่ของความคุ้มค่าที่ด้อยลง
แต่จะทำให้ Mirage ได้เปรียบขึ้นมาจริงๆ หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้บริโภคในวงกว้าง
ซึ่ง Nissan ซึ่งมีความภาคภูมิใจในความเป็นผู้นำตลาด Eco car ตั้งใจปรับโฉม March ให้หนีจากอนาเขต
sub B segment และแต่งองค์ทรงเครื่องให้มีความเป็น B segment เต็มตัวมากขึ้น ใส่ใจทุกจุดแม้แต่จุดที่ละเอียด
เล็กน้อย
ในด้านการออกแบบ March Minor Change แก้เกมจากการเป็นเพียง ร่างโคลนนิ่ง Mini ที่ดูบ๊องแบ๊วมากเกินไป
(ในขณะที่ Swift เป็นร่างโคลน Mini ที่ดูเฉี่ยวคม) มาสู่ความเฉี่ยวคมมากขึ้น มีหน้าตาที่จิก พุ่งไปข้างหน้ามากกว่าเดิม
จากรุ่นเดิมที่ให้อารมณ์ดูเหมือนไม่อยากจะวิ่ง สังเกตุดูในโฆษณา จะวิ่งช้าๆ ซุกซนอยู่ในเมือง ในขณะที่รุ่นใหม่ มีบุคลิก
ที่บ่งบอกว่าต้องขับให้ไวกว่าเดิม กระจังหน้าบน ตรงโลโก้และโครเมี่ยมรูปตัว U เหมือนจะทำให้รถมี center เป็นจมูกขึ้นมา
ชัดเจน และปากด้านล่าง ที่ยิ้มแฉ่งมากกว่าเดิม เหมือนจะแข่งกับ Mazda 2 ทำให้บุคลิกดูกระฉับกระเฉง
ส่วนโครมเมี่ยมทั้งหลาย ก็ทำมาสำหรับรสนิยมคนเอเซียโดยเฉพาะตลาดจีน และทำให้รถดูแพงขึ้นด้วย (บวกกับไฟท้าย LED)
สำหรับ Mirage ทางด้าน Mitsubishi ยังคงรักษาสไตล์ของรถที่มีทรง sport เอาไว้นิดๆ เสียดายที่รุ่นส่งออกไปยุโรปเท่านั้น
ที่จะได้สวมล้อแม็ก 15 นิ้ว เพราะล้อ 14 นิ้วในรุ่นท๊อป ยังเล็กมากเกินไปสำหรับตัวรถ ทำให้มีปัญหาในด้านการทรงตัวด้วย
ด้วยความที่เป็นหน้าในวัยเด็กของอีโว จึงสามารถแต่งต่อให้ดุดันได้ แต่เสียดายที่รถยังดูขาดเอกลักษณ์มากเกินไป
โคมไฟหน้าและโคมไฟหลังที่ทำกรอบให้พอดีกับเบ้าไฟ มากกว่าจะพยายามออกแบบให้มีลีลา (มีนักวิจารณ์รถญี่ปุ่นคนนึงพูด
เอาไว้ ซึ่งผมก็เห็นด้วย) แต่ก็ยังเชื่อว่า ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ คงจะสามารถปรับหน้าตาจืดๆ ที่ไม่มีบุคลิก ให้ดูดีข้ามขั้นได้ และ
ล้อที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้บอดี้ที่ทรวดทรงดีอยู่แล้ว ดูไร้ที่ติ
ในตารางข้างบน องค์ประกอบภาพรวมของ March ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น ดูเหมือนจะชนะ Mirage
แต่ในด้านความคุ้มค่าล่ะ ลองดูและตัดสินกันได้เลยครับ
มีอะไรคุยกันได้ในเฟสบุคผม http://www.facebook.com/mewminorchange ได้นะครับ