ฉะเชิงเทรา - นักปั่นจักรยานท้องถิ่นถูกรถชนเหยียบเละบนพื้นถนน ซ้ำรอยสองนักปั่นจักรยานชาวอังกฤษ ตอกย้ำความไม่ปลอดภัยบนถนนสาย 304 พนมสาคาม-ฉะเชิงเทรา
วันนี้ (21 มี.ค.) ร.ต.ท.ปัญณธร ชัยชนะสมบัติ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีนักปั่นจักรยานถูกรถหลากหลายชนิดเหยียบทับจนร่างแหลกแบนติดบนพื้นถนนสาย 304 ช่วงเส้นทางระหว่างพนมสาคาม-ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งขาเข้าก่อนถึงหลัก กม.ที่ 23 (69) พื้นที่ ม.5 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จึงรีบเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมทำการประสานงานแพทย์เวรจาก รพ.ราชสาส์น ให้เดินทางไปร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุพบอาสาสมัครมูลนิธิหน่วยกู้ภัยพนมฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา กำลังยืนอำนวยความสะดวกด้านการจราจรพร้อมวางกรวยกั้นเส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อให้รถยนต์ที่ขับผ่านไปขับในเลนซ้ายอย่างช้าๆ โดยในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานขนาดกลางแบบพื้นบ้านทั่วไป หรือแบบที่คนไทยทั่วไปนิยมใช้ คันสีฟ้ามีตะแกรงหน้าสีดำ ล้มตะแคงข้างติดริมไหล่ทางด้านในของร่องน้ำกลางถนนห่างออกมาประมาณ 30 เมตร พบเศษกระจกพร้อมโครงกระจกมองข้างรถเก๋งสีดำตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ตลอดระยะทางประมาณเกือบ 200 เมตร พบเศษชิ้นเนื้อ และเศษกะโหลกศีรษะกระดูกมนุษย์แตกหัก ตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน โดยมีบางชิ้นส่วนถูกล้อรถบรรทุกเหยียบจนแบนราบติดพื้นถนน ขณะเดียวกัน ยังคงมีเศษชิ้นเนื้อจากส่วนของหนังศีรษะ นิ้วมือ และนิ้วเท้าที่พอจะสังเกตได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์พร้อมด้วยเศษกางเกงในสีเทาดำอีกหนึ่งตัวที่ยังคงสวมติดอยู่กับชิ้นส่วนท่อนล่างบริเวณส่วนของสะโพก และไม่พบหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใครมาจากไหน
จากการสอบถาม พญ.ธีรพร ประกอบ แพทย์ผู้ร่วมชันสูตร เปิดเผยว่า ไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิง หรือชาย อายุประมาณเท่าใด หรือเสียชีวิตมาแล้วกี่ชั่วโมงและถูกรถอะไรทับเพราะร่างกาย และชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ นั้นถูกรถทับจนแหลกละเอียด เชื่อว่าน่าจะเป็นเพศชายมากกว่าหากดูจากทรงผมที่ยังเหลือให้เห็นพอที่จะสังเกตได้ จึงเห็นควรให้ส่งต่อไปชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อที่จะได้ทำการตรวจหาหลักฐานโดยละเอียดอีกครั้ง
ด้าน ร.ต.ท.ปัญณธร กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายนั้นเป็นใครมาจากไหน เพราะไม่พบหลักฐานอะไรติดตัว และยังไม่มีญาติ หรือคนรู้จักมาแสดงตนบ่งชี้ หรือเป็นพยาน แต่น่าเชื่อว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีที่ชอบปั่นจักรยาน และมาจอดรถแล้วลงเดินข้ามถนนจนถูกรถเหยียบทับดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว โดยหลังจากนี้จะได้ให้หน่วยกู้ภัยฯ ทำการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนต่างๆ ที่พอจะเก็บไปได้นำส่งไปพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ อีกครั้ง
นักปั่นจักรยานท้องถิ่นถูกรถชนเหยียบเละบนพื้นถนน ซ้ำรอยเดิม
วันนี้ (21 มี.ค.) ร.ต.ท.ปัญณธร ชัยชนะสมบัติ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีนักปั่นจักรยานถูกรถหลากหลายชนิดเหยียบทับจนร่างแหลกแบนติดบนพื้นถนนสาย 304 ช่วงเส้นทางระหว่างพนมสาคาม-ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งขาเข้าก่อนถึงหลัก กม.ที่ 23 (69) พื้นที่ ม.5 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จึงรีบเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมทำการประสานงานแพทย์เวรจาก รพ.ราชสาส์น ให้เดินทางไปร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุพบอาสาสมัครมูลนิธิหน่วยกู้ภัยพนมฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา กำลังยืนอำนวยความสะดวกด้านการจราจรพร้อมวางกรวยกั้นเส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อให้รถยนต์ที่ขับผ่านไปขับในเลนซ้ายอย่างช้าๆ โดยในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานขนาดกลางแบบพื้นบ้านทั่วไป หรือแบบที่คนไทยทั่วไปนิยมใช้ คันสีฟ้ามีตะแกรงหน้าสีดำ ล้มตะแคงข้างติดริมไหล่ทางด้านในของร่องน้ำกลางถนนห่างออกมาประมาณ 30 เมตร พบเศษกระจกพร้อมโครงกระจกมองข้างรถเก๋งสีดำตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ตลอดระยะทางประมาณเกือบ 200 เมตร พบเศษชิ้นเนื้อ และเศษกะโหลกศีรษะกระดูกมนุษย์แตกหัก ตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน โดยมีบางชิ้นส่วนถูกล้อรถบรรทุกเหยียบจนแบนราบติดพื้นถนน ขณะเดียวกัน ยังคงมีเศษชิ้นเนื้อจากส่วนของหนังศีรษะ นิ้วมือ และนิ้วเท้าที่พอจะสังเกตได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์พร้อมด้วยเศษกางเกงในสีเทาดำอีกหนึ่งตัวที่ยังคงสวมติดอยู่กับชิ้นส่วนท่อนล่างบริเวณส่วนของสะโพก และไม่พบหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใครมาจากไหน
จากการสอบถาม พญ.ธีรพร ประกอบ แพทย์ผู้ร่วมชันสูตร เปิดเผยว่า ไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิง หรือชาย อายุประมาณเท่าใด หรือเสียชีวิตมาแล้วกี่ชั่วโมงและถูกรถอะไรทับเพราะร่างกาย และชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ นั้นถูกรถทับจนแหลกละเอียด เชื่อว่าน่าจะเป็นเพศชายมากกว่าหากดูจากทรงผมที่ยังเหลือให้เห็นพอที่จะสังเกตได้ จึงเห็นควรให้ส่งต่อไปชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อที่จะได้ทำการตรวจหาหลักฐานโดยละเอียดอีกครั้ง
ด้าน ร.ต.ท.ปัญณธร กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายนั้นเป็นใครมาจากไหน เพราะไม่พบหลักฐานอะไรติดตัว และยังไม่มีญาติ หรือคนรู้จักมาแสดงตนบ่งชี้ หรือเป็นพยาน แต่น่าเชื่อว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีที่ชอบปั่นจักรยาน และมาจอดรถแล้วลงเดินข้ามถนนจนถูกรถเหยียบทับดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว โดยหลังจากนี้จะได้ให้หน่วยกู้ภัยฯ ทำการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนต่างๆ ที่พอจะเก็บไปได้นำส่งไปพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ อีกครั้ง