บางครั้งเวลาเราเห็นเด็กๆวัยอนุบาล ป.1 ป.2 วัยนี้ต้องบอกว่าเขาจะมีความน่ารักของเขาเลยทุกคน บางคนอาจจะดื้อ อาจจะรั้นไปบ้าง หรืออาจจะพูดจาเกินเด็ก แต่ด้วยความเป็นเด็กอ่ะค่ะ มันมีความซื่อความบริสุทธิ์อยุ่ในตัว มีความใสน่ารักๆ ตรงนี้เลยทำให้นีกเลยตัวเองขี้นมา ซี่งจริงๆก็มีอยู่เยอะอ่ะ แต่ขอเอาที่พอจำได้ละกัน
**********************************************************************
ก็คือเราอ่ะ เกิดมาก็เดินไม่ได้เลยตั้งแต่เด็กๆเลย พิการ พ่อกับแม่ก็เอาเราไปไว้ที่ รพ.ศิริราช ทิ้งไว้ที่นั้นเลย ก็หมั่นไปเยี่ยมอะไรแบบนี้ แล้วด้วยความที่เป็นคนเลี้ยงง่ายด้วยค่ะ คืออยู่กับใครก็อยู่ได้ ไม่ร้องไม่งอแง (แม่เล่าให้ฟัง) พยบาลก็ร๊าากก รัก อยากเอากลับไปนอนด้วยที่บ้านก็มี อุ้ยตาย เราน่ารักขนาดนั้นเลย แต่ก็เชื่อนะ 5555 เป็นอีกคนที่กล้าแสดงออก เวลาให้ทำอะไรก็ทำ ให้เต้นก็เต้น จริงๆเต้นไม่ได้นะ ยืนทรงตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ อาศัยเกาะราวแล้วส่ายตูด +555 เดินไม่ได้ เต้นไม่ได้ แต่เอวพริ้ว +5555 รู้สึกว่าเวลามีคนหัวเราะ เรายิ่งชอบ
พอโตขี้นมาหน่อย ก็ไม่ได้อยู่ รพ . กลับมาอยู่ที่บ้าน ก็ยังมีโอกาสได้เรียนหนังสือค่ะ อนุบาล ที่ รร ดวงประทีป ชอบไปโรงเรียนมาก แต่ไม่ใช่เด็กหัวดีเรียนเก่งนะ แต่ชอบอยู่โรงเรียน จำได้วันหนี่งทะเลาะกับแม่เรื่องไปโรงเรียน แม่ไม่ไปส่ง เราก็แบบจะไปโรงเรียน จะไปโรงเรียน แม่บอกไม่ต้องไป วันจันทร์ค่อยไป วันนี้หนูไม่ต้องไปเป็นวันหยุด เราก็แบบ จะไปจะไป อยากไปโรงเรียน me ไม่เชื่อ แต่ไม่รู้คุยอีกท่าไหน แม่ยอมค่ะ พานั่งรถเมล์ไปเลย แต่งตัวพร้อม เสื้อนักเรียน กระเป๋าพร้อมไปเรียน พอไปถึง โรงเรียนเงียบกริ๊บ ....>=<" แม่เลยบอกว่า เห็นไหมแม่บอกแล้ว แนนก็ไม่เชื่อ เขามาที่ไหนกัน เสาร์-อาอาทิตย์ ป๊ะกลับ ==": ............... คือบางครั้งอะไรไม่เห็นกับตาฉันไม่เชื่อจริงๆนะ 5555+
จริงๆเราเป็นเด็กไม่เรียนเก่งหัวไวนะ แต่เวลาพับนกพับกระดาษ พวกประดิษฐ์ประดอย บอกมาเหอะม้วนเดียวจบ แต่คณิตศาสตร์อย่ามาคุยกัน 555 นับเลขได้ หนี่ง ฉอง ฉาม ฉี่ ห้า โห๊ะ เจ๊ด แปด เก๊า สิบ หลังจากนั้นไม่ค่อยรู้ เพราะแม่สอนมาแค่ 1-10 เวลาหวยจะออกมักจะถามแฮะ น้องแนนหวยออกอะไร ลูก เราก็ไล่เลยสิ หนี่ง ฉอง ฉาม ฉี่ ห๊า โห๊ะ เจ๊ะ แปะ เก้า ชิบ มันต้องมีถูกสักตัว me ไม่ผิด แต่แม่คงจะแบบว่า เอ่อ ...........????? &
)+*&$#@
ชั้นจำได้นะตอนอนุบาล ครูสอนบวกเลข
ครู : อ๊ะ 10+10 เท่ากับเท่าไหร่ ดวงใจ
แนนนี่ : หืมม >< ?????????????????? เงียบกริป (เพื่อนกระซิบบอก ยี่สิบๆๆๆ ) กระซิบป่าวเกินไม่รู้เรื่องบวกความตื้นเต้น กลัว
ครู : (พยามสร้างความเข้าใจให้กับเรา) 0+0 ได้เท่าไรค่ะ
แนนนี่ : 0 ค่ะ
ครู : เก่งมาก 1+1 ได้เท่าไหร่ค่ะ
แนนนี่ : ได้ 2 ค่ะ
ครู : เก่งมากกกก 2 กับ 0 รวมเกันเท่าไหร่ค่ะ
แนน สองซูนย์ค่ะ
ครู :: == "
ครูเลิกถามค่ะ และไม่ถามอีกเลยค่ะ +55555
เริยนอนุบาลใช่ว่าจะจบนะ ต้องไปรักษาขา แล้วอยู่ รพ ผ่าตัดขาข้างขวาอีกครั้ง ตอนนั้นก็จะชอบวาดรูประบายสี พ่อแม่ลุงป้าน้าอาไปเยี่ยม ก็จะซื้อสมุดวาดรูแ ซื้อการ์ตูนไปให้ ซื้อของกินไปให้ ใช้ระยะเวลาไม่กี่เดือนก็ออกมา แต่ความรู้สึกของเด็กนีกว่าอยู่เป็นปี เพราะมันน่าบื่อมาก แต่ก็ต้องหาวิธีคลายเครียดด้วยการร้องเพลง สมัยนั้น มนต์รักลูกทุ่งดังมาก ชอบเพลงประกอบละครมาก ที่ โรงพยาลจะมีบุรุษพยาบาลคนหนี่งคุ้นเคยกับเรามาก สนิทมากกก ชื่อคุณวัติ เข้าเวรทีไรก็จะชอบมาเล่นกับเรา มาเป็น ไอ้ค้าวให้เรา +5555 เราก็เป็นทองกวาว +5555 "ก่อนจากกันไปแล้วใตรกันเล่า ที่จะพะเนาพะนอ เมื่อยามที่เราห่างใกล้ " ร้องโต้ตอบกันไปมา สนุกดี +555 ถ้าเป็นสมัยนี้คงอัดคลิดชั้นลง youtube ไปแล้ว +555
ที่นี่พอออกจาก รพ อีกครั้งก็กลับมาเรียน ป. 1 เราก็เริ่มอ่านหนังสือออกละ นิดหน่อย งานวันเด็ก คุณครูให้ประกวดเล่านิทานเรื่องดาวลูกไก่ ตอนนั้นไปเรียนที่สกลนคร รร บ้านตาดภูวง มีแต่เด็กเว้าลาวกันเหมิดเลย +555 เราก็พูดไทยคนเดียว อีสานก็พูดได้ค่ะ ไอโซมาก พูดได้ 2 ภาษา ไทย อีสาน +5555 ตรงนี้แหละครูเลยจับไปประกวด เพราะว่าด้วย Accent ภาษาไทยถือว่าใช้ได้ ครูก็จะมาเล่าให้เล่าฟังก่อนว่า เรื่องเล่าเป็นไง เราก็พยามทำความเข้าใจให้มากที่สุด แต่ก็ไม่เป๊ะน่ะ
พอถึงวันตื่นเต้นมาก แต่ก็สู้อ่ะ +5555 มือสั่นปากสั่นนิดหน่อย คุมได้ ก็เล่าตามความเข้าใจ ของเด็กวัยแค่ 6-7 ขวบ
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อ ดญ.ดวงใจ อยู่ชั่น ป. 1 จะออกมาเล่านิทานเรื่อง ตากับยาย" เอ่อ....... ==" จริงมันชื่อเรื่อง ดาวลูกไก่ ไม่ใช่หรอ ไอ้ข้างล่างเวทีมันนั่งหัวเราะกันใหญ่ อย่าไม่ทันเล่าเลย มันขำแล้ว
"มีตากับตายอยู่ด้วยกันสองคน วันหนี่งตากับยายเห็นพระเดินผ่านไปผ่านมาอยุ่หน้าบ้าน " เอ่อ สงสัยพระท่านจะว่าง +555 จริงๆ เนื้อเรื่องคือ มีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ริมเชิงเขา ไม่ได้เดินผ่านหน้าบ้านตายาย ++55 ก็เล่าไปเรื่อยๆค่ะ ตั้งแต่ตนจนจบ ผลออกมาคือ ได้ที่ 1 คร๊าาาาาาา ด้วยความที่จริตจก้านพอตัวมั่งค่ะ
บางครั้งนีกย้อนกลับไป ก็อดขำตัวเองไม่ได้จริงๆนะ วันนี้เอาเรื่องราวมาปันหวังว่ากระทู้นี้จะทำให้หลายคน ยิ้มได้บ้าง
มีเรื่องราวน่ารักๆสมัยวัยเด็กอยากเล่าให้ฟังค่ะ พักเรื่องปัญหาชีวิตหนักๆ มาฟังเรื่องสบายๆบ้างดีกว่า
**********************************************************************
ก็คือเราอ่ะ เกิดมาก็เดินไม่ได้เลยตั้งแต่เด็กๆเลย พิการ พ่อกับแม่ก็เอาเราไปไว้ที่ รพ.ศิริราช ทิ้งไว้ที่นั้นเลย ก็หมั่นไปเยี่ยมอะไรแบบนี้ แล้วด้วยความที่เป็นคนเลี้ยงง่ายด้วยค่ะ คืออยู่กับใครก็อยู่ได้ ไม่ร้องไม่งอแง (แม่เล่าให้ฟัง) พยบาลก็ร๊าากก รัก อยากเอากลับไปนอนด้วยที่บ้านก็มี อุ้ยตาย เราน่ารักขนาดนั้นเลย แต่ก็เชื่อนะ 5555 เป็นอีกคนที่กล้าแสดงออก เวลาให้ทำอะไรก็ทำ ให้เต้นก็เต้น จริงๆเต้นไม่ได้นะ ยืนทรงตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ อาศัยเกาะราวแล้วส่ายตูด +555 เดินไม่ได้ เต้นไม่ได้ แต่เอวพริ้ว +5555 รู้สึกว่าเวลามีคนหัวเราะ เรายิ่งชอบ
พอโตขี้นมาหน่อย ก็ไม่ได้อยู่ รพ . กลับมาอยู่ที่บ้าน ก็ยังมีโอกาสได้เรียนหนังสือค่ะ อนุบาล ที่ รร ดวงประทีป ชอบไปโรงเรียนมาก แต่ไม่ใช่เด็กหัวดีเรียนเก่งนะ แต่ชอบอยู่โรงเรียน จำได้วันหนี่งทะเลาะกับแม่เรื่องไปโรงเรียน แม่ไม่ไปส่ง เราก็แบบจะไปโรงเรียน จะไปโรงเรียน แม่บอกไม่ต้องไป วันจันทร์ค่อยไป วันนี้หนูไม่ต้องไปเป็นวันหยุด เราก็แบบ จะไปจะไป อยากไปโรงเรียน me ไม่เชื่อ แต่ไม่รู้คุยอีกท่าไหน แม่ยอมค่ะ พานั่งรถเมล์ไปเลย แต่งตัวพร้อม เสื้อนักเรียน กระเป๋าพร้อมไปเรียน พอไปถึง โรงเรียนเงียบกริ๊บ ....>=<" แม่เลยบอกว่า เห็นไหมแม่บอกแล้ว แนนก็ไม่เชื่อ เขามาที่ไหนกัน เสาร์-อาอาทิตย์ ป๊ะกลับ ==": ............... คือบางครั้งอะไรไม่เห็นกับตาฉันไม่เชื่อจริงๆนะ 5555+
จริงๆเราเป็นเด็กไม่เรียนเก่งหัวไวนะ แต่เวลาพับนกพับกระดาษ พวกประดิษฐ์ประดอย บอกมาเหอะม้วนเดียวจบ แต่คณิตศาสตร์อย่ามาคุยกัน 555 นับเลขได้ หนี่ง ฉอง ฉาม ฉี่ ห้า โห๊ะ เจ๊ด แปด เก๊า สิบ หลังจากนั้นไม่ค่อยรู้ เพราะแม่สอนมาแค่ 1-10 เวลาหวยจะออกมักจะถามแฮะ น้องแนนหวยออกอะไร ลูก เราก็ไล่เลยสิ หนี่ง ฉอง ฉาม ฉี่ ห๊า โห๊ะ เจ๊ะ แปะ เก้า ชิบ มันต้องมีถูกสักตัว me ไม่ผิด แต่แม่คงจะแบบว่า เอ่อ ...........????? &)+*&$#@
ชั้นจำได้นะตอนอนุบาล ครูสอนบวกเลข
ครู : อ๊ะ 10+10 เท่ากับเท่าไหร่ ดวงใจ
แนนนี่ : หืมม >< ?????????????????? เงียบกริป (เพื่อนกระซิบบอก ยี่สิบๆๆๆ ) กระซิบป่าวเกินไม่รู้เรื่องบวกความตื้นเต้น กลัว
ครู : (พยามสร้างความเข้าใจให้กับเรา) 0+0 ได้เท่าไรค่ะ
แนนนี่ : 0 ค่ะ
ครู : เก่งมาก 1+1 ได้เท่าไหร่ค่ะ
แนนนี่ : ได้ 2 ค่ะ
ครู : เก่งมากกกก 2 กับ 0 รวมเกันเท่าไหร่ค่ะ
แนน สองซูนย์ค่ะ
ครู :: == "
ครูเลิกถามค่ะ และไม่ถามอีกเลยค่ะ +55555
เริยนอนุบาลใช่ว่าจะจบนะ ต้องไปรักษาขา แล้วอยู่ รพ ผ่าตัดขาข้างขวาอีกครั้ง ตอนนั้นก็จะชอบวาดรูประบายสี พ่อแม่ลุงป้าน้าอาไปเยี่ยม ก็จะซื้อสมุดวาดรูแ ซื้อการ์ตูนไปให้ ซื้อของกินไปให้ ใช้ระยะเวลาไม่กี่เดือนก็ออกมา แต่ความรู้สึกของเด็กนีกว่าอยู่เป็นปี เพราะมันน่าบื่อมาก แต่ก็ต้องหาวิธีคลายเครียดด้วยการร้องเพลง สมัยนั้น มนต์รักลูกทุ่งดังมาก ชอบเพลงประกอบละครมาก ที่ โรงพยาลจะมีบุรุษพยาบาลคนหนี่งคุ้นเคยกับเรามาก สนิทมากกก ชื่อคุณวัติ เข้าเวรทีไรก็จะชอบมาเล่นกับเรา มาเป็น ไอ้ค้าวให้เรา +5555 เราก็เป็นทองกวาว +5555 "ก่อนจากกันไปแล้วใตรกันเล่า ที่จะพะเนาพะนอ เมื่อยามที่เราห่างใกล้ " ร้องโต้ตอบกันไปมา สนุกดี +555 ถ้าเป็นสมัยนี้คงอัดคลิดชั้นลง youtube ไปแล้ว +555
ที่นี่พอออกจาก รพ อีกครั้งก็กลับมาเรียน ป. 1 เราก็เริ่มอ่านหนังสือออกละ นิดหน่อย งานวันเด็ก คุณครูให้ประกวดเล่านิทานเรื่องดาวลูกไก่ ตอนนั้นไปเรียนที่สกลนคร รร บ้านตาดภูวง มีแต่เด็กเว้าลาวกันเหมิดเลย +555 เราก็พูดไทยคนเดียว อีสานก็พูดได้ค่ะ ไอโซมาก พูดได้ 2 ภาษา ไทย อีสาน +5555 ตรงนี้แหละครูเลยจับไปประกวด เพราะว่าด้วย Accent ภาษาไทยถือว่าใช้ได้ ครูก็จะมาเล่าให้เล่าฟังก่อนว่า เรื่องเล่าเป็นไง เราก็พยามทำความเข้าใจให้มากที่สุด แต่ก็ไม่เป๊ะน่ะ
พอถึงวันตื่นเต้นมาก แต่ก็สู้อ่ะ +5555 มือสั่นปากสั่นนิดหน่อย คุมได้ ก็เล่าตามความเข้าใจ ของเด็กวัยแค่ 6-7 ขวบ
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อ ดญ.ดวงใจ อยู่ชั่น ป. 1 จะออกมาเล่านิทานเรื่อง ตากับยาย" เอ่อ....... ==" จริงมันชื่อเรื่อง ดาวลูกไก่ ไม่ใช่หรอ ไอ้ข้างล่างเวทีมันนั่งหัวเราะกันใหญ่ อย่าไม่ทันเล่าเลย มันขำแล้ว
"มีตากับตายอยู่ด้วยกันสองคน วันหนี่งตากับยายเห็นพระเดินผ่านไปผ่านมาอยุ่หน้าบ้าน " เอ่อ สงสัยพระท่านจะว่าง +555 จริงๆ เนื้อเรื่องคือ มีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ริมเชิงเขา ไม่ได้เดินผ่านหน้าบ้านตายาย ++55 ก็เล่าไปเรื่อยๆค่ะ ตั้งแต่ตนจนจบ ผลออกมาคือ ได้ที่ 1 คร๊าาาาาาา ด้วยความที่จริตจก้านพอตัวมั่งค่ะ
บางครั้งนีกย้อนกลับไป ก็อดขำตัวเองไม่ได้จริงๆนะ วันนี้เอาเรื่องราวมาปันหวังว่ากระทู้นี้จะทำให้หลายคน ยิ้มได้บ้าง