ก่อนไปซีอาน ผมลองหาข้อมูลในเวปไซต์ ยังมีอยู่ไม่มากเนื่องจากการเที่ยวซีอานแบบ backpack ราคาถูกพึ่งมีขึ้นในเดือน พย. 55 ของโปรแอร์เอเชีย เลยจะมาแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นจาก รีวิวก่อนหน้านี้ครับ แบบย่อๆ
1. ซีอานตามความเห็นส่วนตัว ช่วงที่น่าเที่ยวคือ เดือน มีนา-พค ครับ เพราะเป็นช่วงใบไม้ผลิ เมืองนี้สถานที่หลายแห่งมีดอกซากุระ อยู่เยอะพอสมควรครับ กับอีกช่วงคือ ตค-พย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หน้าหนาวผมว่าโหดมากครับถ้าแพ้อากาศหนาวเพราะลมที่นี่แรงมาก คนซีอานที่สัมผัสมานิสัยดีครับ ชอบช่วยเหลือ พวกคาก
น้ำลายก็มีน้อยกว่าเมืองอื่นมาก ในตัวเมืองหนุ่ม-สาว แต่งตัวดี หน้าตาดี เหมือนเกาหลีใต้เลย , ภาษาอังกฤษเก็บใส่ลิ้นชักไว้ได้เลยครับ ยกเว้นพวกเด็กๆ นักเรียนนักศึกษาพอพูดได้บ้าง , การเข้าสถานที่แต่ล่ะแห่ง ถ้ามีบัตรนักศึกษาราคาลดเหลือครึ่งหนึ่ง แต่บัตรจะต้องมีภาษาอังกฤษ พวกคำว่า university อะไรเถือกเนี่ยอยู่ด้วยน่ะครับ
ตัวเมืองพัฒนาไปไกลมากแต่ เหมือนคนตามไม่ทันครับ เช่น information ที่สนามบินพูดอังกฤษไม่ได้ , เวลาข้ามถนนต้องระวังมากกว่าไทย(ที่ไทยก็อันตรายแล้วจีนยิ่งกว่า) เนื่องจากไฟแดงคนก็ข้าม ไฟเขี้ยวคนก็ข้าม รถนึกจะกลับรถก็กลับเอาดื้อๆเลย สะพานลอยไม่เห็นคนข้ามกันจะข้ามถนนตรงๆ , ไม่สวมหมวกกันน็อค
2. การจองโรงแรม โรงแรมในหลายๆรีวิวทีเลือกคือ citadines xian central hotel ถือว่า เป็นโรงแรมคุ้มเกินเงินที่จ่ายครับ ผมจองไปจาก expedia ราคาห้องประมาณ 1500 บาท เป็นห้อง twin เตียงใหญ่มากและมี ฉากกั้นที่นอนแยกกันด้วย ในห้องนอน มีครัว เครื่องครัว จาน ชาม ไมโครเวฟ สวยทันสมัยครับ ใช้ระบบ heater พ่นจากในห้องน้ำ เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำเลย การเดินทางมาง่ายมาก จากหน้าโรงแรม melody hotel โดยหันหน้าเข้าโรงแรม จะอยู่ขวามือ เดินไปเจอซอยแรก เลี้ยวเข้าไปประมาณ 100 เมตรครับ
ส่วนที่พักใกล้ในหลายรีวิวที่เลือกกัน คือ home inn อยู่ติดกับ citadines เลยครับ ห้องถูกประมาณ 700 กว่าบาท เป็นอีกตัวเลือกนึง
3. เรื่องที่ทุกคนกลัวเวลามาเที่ยวจีนคือ ห้องน้ำ ที่ซีอาน ห้องน้ำมีเยอะพอสมควร ตามที่สาธารณะ สะอาดแต่มีกลิ่นแรงครับ ที่สะอาดเพราะระบบห้องน้ำใช้เซ็นเซอร์น้ำไหลเอง ฉะนั้น อึ จะไม่มีให้เห็นครับ หุ หุ , รถเมล์ที่ซีอานในช่วงเวลาทำงาน แน่มากๆ ผมว่าแน่นกว่าไทยเยอะมากๆเป็นแบบปลากระป๋องเลย หลีกเลี่ยงได้ พยายามนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินดีกว่าครับ รถเมล์ส่วนใหญ่ ราคาอยู่ 2 หยวนใช้ระบบ ขึ้นด้านหน้า ลงประตูกลางรถ ขึ้นไปหยอดตังค์ ไม่มีทอนต้องเตรียมเงินให้พอดี
รถไฟฟ้าใต้ดินคล้ายๆ MRT บ้านเราครับ คือไปหยอดที่ตู้จะไปสถานีไหนก็เลือกแล้วหยอดเงิน ราคาแพงสุดอยู่ 3 หยวนครับ สถานีตรงหอระฆังเรียกว่า โจวโหลว (zhong lou)
4. ในตัวเมือง หอระฆังหรือโจวโหลว จะเต็มไปด้วยห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร (หนุ่มๆ สาวๆ หน้าตาดี อิอิ)เดินได้จนดึกๆครับ ผมเดินถึง 5 ทุ่มหลายๆร้านก็ยังไม่ปิดเลยครับ ฝั่งตรงข้าม โรงแรม melody ลอดใต้อุโมงค์แล้วเดินเข้าไปในซอย จะเจอกับตลาดมุสลิม ในระแวกนี้มี วัดอยู่วัดหนึ่งสวยดีครับไม่รู้ชื่อวัดอะไร และมี great mosque (สุเหราแต่เป็นแบบจีน)
หอกลอง กับ หอระฆัง จะปิด ห้าโมงเย็นหลังจากนั้นจะปิดและเปิดไฟ ไม่ให้ใครขึ้นครับ ราคาซื้อแบบ สองที่ อัพเดทแล้วอยู่ที่ 50 หยวน ตรงนี้ผมว่าถ่ายด้านล่างก็ได้ครับไม่ต้องขึ้นไปหรอกครับ
5. อาหารการกิน แถวๆโรงแรมมี ร้านอาหาร ชื่อ star ferry ในหลายๆรีวิวระบุไว้ ร้านนี้อาหารโอเคครับราคาไม่แรง และอีกร้านคือ ใต้โรงแรม citadines เรื่องอาหารการกิน ร้านไหนอร่อยผมว่า ก็ไม่ค่อยถูกปากเหมือนบ้านเราครับ บ้านเราอาหารการกินสุดยอดมากๆ
6. กำแพงเมืองทิศใต้ สามารถไปได้โดย รถไฟฟ้าใต้ดิน จากหอระฆัง(โจวโหลว)ไปหนึ่งสถานี ทางทิศใต้ (yongningmen) ออกทางออก D เดินไปทางกำแพงเมือง ค่าเข้า 40 หยวน จุดนี้ปิดมืดครับ ผมไปตอน 6 โมงเย็นซื้อตั๋วเข้าไปได้ครับ ตรงนี้สามารถเช่าจักรยานปั่นรอบกำแพงเมือง ประมาณ 14 กิโลได้ครับ (เห็นคนไทยอีกกรุ๊ปหนึ่ง เขาว่ามันมาก ทิวทัศน์สวยเห็นได้รอบเมือง ) ราคาเช่าจักรยาน 80 หยวน , ยามค่ำคืน พอเห็น หนุ่ม-สาว ชาวจีน ขึ้นไปบนกำแพงเมือง จู่จี้กัน บ้างคู่จูบปากกันผมก็เห็นครับ หุ หุ ที่ใกล้ๆกำแพงเมืองเกือบติดกัน จะมีวัดห่านป่าเล็กอยู่ครับ จะเห็นเจดีย์ห่านป่าเล็กใกล้ๆกับกำแพงเมือง
7. การไปเที่ยว สุสานจิ๋นซี สะดวกและประหยัดสุดคือ การไปนั่งรถสาย 306 ที่ xian railway station และจุดนี้สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง ไปหัวซาน หรือจะไปลั่วหยาง ได้ครับ พอลงจากรถเมล์(นั่งรถเมล์สาย 201 จากหอระฆัง)ก็เดินทะลุเข้าไปผ่านกำแพงเมือง จะเจอสถานีรถไฟ xian railway station รถบัสจะอยู่ทางด้านขวามือ ที่จำหน่ายตั๋วรถไฟฟ้าความเร็วสูง ก็อยู่ช่องจำหน่ายขวามือเช่นกัน (ไม่ต้องต่อแถวเข้าไปยังตัวสถานีรถไฟน่ะครับ) ซื้อตั๋วล่วงหน้าในรีวิว บอกว่า ช่อง 25 พูดอังกฤษได้ วันที่ผมไปช่องที่พูดได้คือช่องที่ 10 ลองถามๆดูครับ ช่องไหนพูดอังกฤษได้บ้าง ไม่งั้นสื่อสารกันไม่รู้เรื่องครับ (ลองคุยพยายามแล้ว สุดท้ายยอมแพ้ หุ หุ) อ้อซื้อตั๋วล่วงหน้าต้องใช้ passport ด้วยน่ะครับ
ขึ้นรถสาย 306 ไปเที่ยว บ่อน้ำพุหย่างกุ้ยเฟยก่อน (หัวชิงซือ) ค่าเข้า 110 หยวน เฉยๆครับที่นี่สำหรับผมไม่ค่อยมีอะไรเลย แล้วค่อยไปสุสาน ขากลับจากสุสานจะได้นั่งยาวถึง สถานีรถไฟ
ที่สุสานจิ๋นซี ลานจอดรถสาย 306 จะอยู่ข้างรั้ว ทางขวามือของรูปปั่นจิ๋นซียักษ์ ในหลายๆรีวิวจะเข้าตรงทางออก จริงๆแล้วทางเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือของรูปปั่นจิ๋นซียักษ์ โดยเสียค่าเข้า 150 หยวน และค่ารถไฟฟ้าคล้ายๆรถกอร์ฟ อีก 5 หยวน (แนะนำให้นั่งเก็บแรงไว้) ส่วนทางออกจะผ่านร้านค้าของที่ระลึกตามทางเดินตลอดทาง
8. การนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงมา ลั่วหยาง หรือ หัวซาน จากโจวโหลวหรือหอระฆัง นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสะดวกที่สุด ใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณ ไปลงสุดสายที่สถานี bei kezhan แล้วเดินขึ้นมาด้านบน จะเป็นทางเข้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง หากซื้อตั๋วล่วงหน้าให้ไปต่อแถวพิเศษ เพราะจะใช้คนในการตรวจดูตั๋ว (ตั๋วปกติจะเป็นแบบสอดเข้าเครื่องเหมือนรถไฟฟ้าใต้ดิน) โดยในตั๋วจะระบุ ว่าเป็นโบกี้ที่เท่าไหร่ ที่นั่งอะไร
ขอรีวิว เขาหัวซานครับ ลั่วหยางผมไม่ได้ไป ไปเขาหัวซานจะนั่งแค่ 1 ป้ายสถานี (ลองเช็คดูอีกที เพราะขากลับ มีจอดสถานีเล็กๆเพิ่มอีก 1 สถานี) ใช้เวลา 30 นาที ถึงหัวซาน ราคาตั๋วไปหัวซาน 54 หยวนซื้อแบบล่วงหน้า พอถึงหัวซาน สามารถนั่งรถเมล์เขียวไปได้ครับ แต่ต้องสื่อสารกลับคนรถให้ได้น่ะครับว่าลงที่ไหน ถ้านั่งแท็กซี่ ผมจ่ายไป 40 หยวน ไม่ควรเกินนี้และควรน้อยกว่านี้ เพราะระยะทางใกล้ๆไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ค่าเข้าเขาหัวซาน (ค่าเข้าอุทยาน) 220 หยวน รวมรถบัสไปกลับ (มีรถบัสขึ้นเขาหัวซานเพื่อไปยัง cable car ตรงเคเบิ้ลคาร์ จะมีบันไดเดินขึ้นไปได้ เห็นในรีวิวบอกว่าใช้เวลาเดินขึ้น 6 ชั่วโมง ความยากน่าจะพอๆกับภูกระดึง แต่ทางขึ้นสะดวกกว่า เนื่องจากมีบันได) เคเบิ้ลคาร์ ไปกลับ ราคา 150 หยวน
9. เจดีย์ห่านป่าใหญ่ วิธีเดินทาง นั่งรถเมล์ครับ (จำไม่ได้ว่านั่งสายไหน) มารถไฟฟ้าก็ต้องต่อรถเมล์อีกทีหนึงเพราะเดินไกลจากรถไฟฟ้ามาเจดีย์ ประมาณ 1 กิโลได้ ข้อแนะนำ ด้านหลังรั่วกำแพงวัด มีคนจีนมารำไทเก๊ก กับ เต้นรีลาส ดูสบายตามากๆครับ และรอบๆกำแพงวัด เป็น walking street มีรูปปั่น สวนสาธารณะ ตลอดทาง ค่าเข้าเจดีย์ห่านป่าใหญ่ 50 หยวน ค่าขึ้นเจดีย์อีกต่างหาก 30 หยวน (ผมไม่ได้ขึ้นครับ)
ขากลับผมนั่งแท็กซี่กลับ ไปโรงแรม citadines ค่าแท็กซี่ แค่ 15 หยวนเอง ถูกมาก แต่ผมเปิด iphone ดู GPS ตลอดว่าแท็กซี่พาอ้อมหรือเปล่า คนขับรถก็หันมามอง GPS ผมตลอดเหมือนกันครับ ไม่มีอ้อม ยิงตรงถึงที่พักเลยครับ
10. เรื่องสุดท้ายเรื่องโทรศัพท์ internet ผมเปิด roaming ของ truemove H ไปโปร ราคา 333 บาท เล่นเน็ตไม่จำกัด 1 วัน ยืนยันครับ ที่จีน เล่น facebook google map , google search , รับ mail ได้หมดครับ แต่เพื่อนผมใช้ Samsung galaxy ของ ais เล่น facebook ไม่ได้ ตรงนี้ไม่รู้ว่าทำไม ของผมใช้ iphone 4g เล่นได้ เครือข่ายที่ใช้ china Unicom สัญญาณ 3G มีตลอดครับ สัญญาณแรงครับ เพราะผมใช้ VOIP ผ่านเน็ต 3G โทรกลับมาที่ไทย สัญญาณดีมากครับ
ไปซีอานใช้ google map สะดวกมากมายครับ (แผนที่ ของ apple จะละเอียดน้อยกว่า google โหลด app google map ไป ถ้าจะใช้ gps)
หวังว่าเป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้บ้างครับ ผมว่าหลังจากนี้อีกไม่เกิน 1 ปีข้อมูล มีเต็มบอร์ดแน่ๆครับ
พึ่งกลับจากซีอานมาเมื่อวานนี้ อยากแชร์ข้อมูล ในการเที่ยวเพิ่มเติมครับ
1. ซีอานตามความเห็นส่วนตัว ช่วงที่น่าเที่ยวคือ เดือน มีนา-พค ครับ เพราะเป็นช่วงใบไม้ผลิ เมืองนี้สถานที่หลายแห่งมีดอกซากุระ อยู่เยอะพอสมควรครับ กับอีกช่วงคือ ตค-พย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หน้าหนาวผมว่าโหดมากครับถ้าแพ้อากาศหนาวเพราะลมที่นี่แรงมาก คนซีอานที่สัมผัสมานิสัยดีครับ ชอบช่วยเหลือ พวกคากน้ำลายก็มีน้อยกว่าเมืองอื่นมาก ในตัวเมืองหนุ่ม-สาว แต่งตัวดี หน้าตาดี เหมือนเกาหลีใต้เลย , ภาษาอังกฤษเก็บใส่ลิ้นชักไว้ได้เลยครับ ยกเว้นพวกเด็กๆ นักเรียนนักศึกษาพอพูดได้บ้าง , การเข้าสถานที่แต่ล่ะแห่ง ถ้ามีบัตรนักศึกษาราคาลดเหลือครึ่งหนึ่ง แต่บัตรจะต้องมีภาษาอังกฤษ พวกคำว่า university อะไรเถือกเนี่ยอยู่ด้วยน่ะครับ
ตัวเมืองพัฒนาไปไกลมากแต่ เหมือนคนตามไม่ทันครับ เช่น information ที่สนามบินพูดอังกฤษไม่ได้ , เวลาข้ามถนนต้องระวังมากกว่าไทย(ที่ไทยก็อันตรายแล้วจีนยิ่งกว่า) เนื่องจากไฟแดงคนก็ข้าม ไฟเขี้ยวคนก็ข้าม รถนึกจะกลับรถก็กลับเอาดื้อๆเลย สะพานลอยไม่เห็นคนข้ามกันจะข้ามถนนตรงๆ , ไม่สวมหมวกกันน็อค
2. การจองโรงแรม โรงแรมในหลายๆรีวิวทีเลือกคือ citadines xian central hotel ถือว่า เป็นโรงแรมคุ้มเกินเงินที่จ่ายครับ ผมจองไปจาก expedia ราคาห้องประมาณ 1500 บาท เป็นห้อง twin เตียงใหญ่มากและมี ฉากกั้นที่นอนแยกกันด้วย ในห้องนอน มีครัว เครื่องครัว จาน ชาม ไมโครเวฟ สวยทันสมัยครับ ใช้ระบบ heater พ่นจากในห้องน้ำ เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำเลย การเดินทางมาง่ายมาก จากหน้าโรงแรม melody hotel โดยหันหน้าเข้าโรงแรม จะอยู่ขวามือ เดินไปเจอซอยแรก เลี้ยวเข้าไปประมาณ 100 เมตรครับ
ส่วนที่พักใกล้ในหลายรีวิวที่เลือกกัน คือ home inn อยู่ติดกับ citadines เลยครับ ห้องถูกประมาณ 700 กว่าบาท เป็นอีกตัวเลือกนึง
3. เรื่องที่ทุกคนกลัวเวลามาเที่ยวจีนคือ ห้องน้ำ ที่ซีอาน ห้องน้ำมีเยอะพอสมควร ตามที่สาธารณะ สะอาดแต่มีกลิ่นแรงครับ ที่สะอาดเพราะระบบห้องน้ำใช้เซ็นเซอร์น้ำไหลเอง ฉะนั้น อึ จะไม่มีให้เห็นครับ หุ หุ , รถเมล์ที่ซีอานในช่วงเวลาทำงาน แน่มากๆ ผมว่าแน่นกว่าไทยเยอะมากๆเป็นแบบปลากระป๋องเลย หลีกเลี่ยงได้ พยายามนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินดีกว่าครับ รถเมล์ส่วนใหญ่ ราคาอยู่ 2 หยวนใช้ระบบ ขึ้นด้านหน้า ลงประตูกลางรถ ขึ้นไปหยอดตังค์ ไม่มีทอนต้องเตรียมเงินให้พอดี
รถไฟฟ้าใต้ดินคล้ายๆ MRT บ้านเราครับ คือไปหยอดที่ตู้จะไปสถานีไหนก็เลือกแล้วหยอดเงิน ราคาแพงสุดอยู่ 3 หยวนครับ สถานีตรงหอระฆังเรียกว่า โจวโหลว (zhong lou)
4. ในตัวเมือง หอระฆังหรือโจวโหลว จะเต็มไปด้วยห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร (หนุ่มๆ สาวๆ หน้าตาดี อิอิ)เดินได้จนดึกๆครับ ผมเดินถึง 5 ทุ่มหลายๆร้านก็ยังไม่ปิดเลยครับ ฝั่งตรงข้าม โรงแรม melody ลอดใต้อุโมงค์แล้วเดินเข้าไปในซอย จะเจอกับตลาดมุสลิม ในระแวกนี้มี วัดอยู่วัดหนึ่งสวยดีครับไม่รู้ชื่อวัดอะไร และมี great mosque (สุเหราแต่เป็นแบบจีน)
หอกลอง กับ หอระฆัง จะปิด ห้าโมงเย็นหลังจากนั้นจะปิดและเปิดไฟ ไม่ให้ใครขึ้นครับ ราคาซื้อแบบ สองที่ อัพเดทแล้วอยู่ที่ 50 หยวน ตรงนี้ผมว่าถ่ายด้านล่างก็ได้ครับไม่ต้องขึ้นไปหรอกครับ
5. อาหารการกิน แถวๆโรงแรมมี ร้านอาหาร ชื่อ star ferry ในหลายๆรีวิวระบุไว้ ร้านนี้อาหารโอเคครับราคาไม่แรง และอีกร้านคือ ใต้โรงแรม citadines เรื่องอาหารการกิน ร้านไหนอร่อยผมว่า ก็ไม่ค่อยถูกปากเหมือนบ้านเราครับ บ้านเราอาหารการกินสุดยอดมากๆ
6. กำแพงเมืองทิศใต้ สามารถไปได้โดย รถไฟฟ้าใต้ดิน จากหอระฆัง(โจวโหลว)ไปหนึ่งสถานี ทางทิศใต้ (yongningmen) ออกทางออก D เดินไปทางกำแพงเมือง ค่าเข้า 40 หยวน จุดนี้ปิดมืดครับ ผมไปตอน 6 โมงเย็นซื้อตั๋วเข้าไปได้ครับ ตรงนี้สามารถเช่าจักรยานปั่นรอบกำแพงเมือง ประมาณ 14 กิโลได้ครับ (เห็นคนไทยอีกกรุ๊ปหนึ่ง เขาว่ามันมาก ทิวทัศน์สวยเห็นได้รอบเมือง ) ราคาเช่าจักรยาน 80 หยวน , ยามค่ำคืน พอเห็น หนุ่ม-สาว ชาวจีน ขึ้นไปบนกำแพงเมือง จู่จี้กัน บ้างคู่จูบปากกันผมก็เห็นครับ หุ หุ ที่ใกล้ๆกำแพงเมืองเกือบติดกัน จะมีวัดห่านป่าเล็กอยู่ครับ จะเห็นเจดีย์ห่านป่าเล็กใกล้ๆกับกำแพงเมือง
7. การไปเที่ยว สุสานจิ๋นซี สะดวกและประหยัดสุดคือ การไปนั่งรถสาย 306 ที่ xian railway station และจุดนี้สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง ไปหัวซาน หรือจะไปลั่วหยาง ได้ครับ พอลงจากรถเมล์(นั่งรถเมล์สาย 201 จากหอระฆัง)ก็เดินทะลุเข้าไปผ่านกำแพงเมือง จะเจอสถานีรถไฟ xian railway station รถบัสจะอยู่ทางด้านขวามือ ที่จำหน่ายตั๋วรถไฟฟ้าความเร็วสูง ก็อยู่ช่องจำหน่ายขวามือเช่นกัน (ไม่ต้องต่อแถวเข้าไปยังตัวสถานีรถไฟน่ะครับ) ซื้อตั๋วล่วงหน้าในรีวิว บอกว่า ช่อง 25 พูดอังกฤษได้ วันที่ผมไปช่องที่พูดได้คือช่องที่ 10 ลองถามๆดูครับ ช่องไหนพูดอังกฤษได้บ้าง ไม่งั้นสื่อสารกันไม่รู้เรื่องครับ (ลองคุยพยายามแล้ว สุดท้ายยอมแพ้ หุ หุ) อ้อซื้อตั๋วล่วงหน้าต้องใช้ passport ด้วยน่ะครับ
ขึ้นรถสาย 306 ไปเที่ยว บ่อน้ำพุหย่างกุ้ยเฟยก่อน (หัวชิงซือ) ค่าเข้า 110 หยวน เฉยๆครับที่นี่สำหรับผมไม่ค่อยมีอะไรเลย แล้วค่อยไปสุสาน ขากลับจากสุสานจะได้นั่งยาวถึง สถานีรถไฟ
ที่สุสานจิ๋นซี ลานจอดรถสาย 306 จะอยู่ข้างรั้ว ทางขวามือของรูปปั่นจิ๋นซียักษ์ ในหลายๆรีวิวจะเข้าตรงทางออก จริงๆแล้วทางเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือของรูปปั่นจิ๋นซียักษ์ โดยเสียค่าเข้า 150 หยวน และค่ารถไฟฟ้าคล้ายๆรถกอร์ฟ อีก 5 หยวน (แนะนำให้นั่งเก็บแรงไว้) ส่วนทางออกจะผ่านร้านค้าของที่ระลึกตามทางเดินตลอดทาง
8. การนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงมา ลั่วหยาง หรือ หัวซาน จากโจวโหลวหรือหอระฆัง นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสะดวกที่สุด ใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณ ไปลงสุดสายที่สถานี bei kezhan แล้วเดินขึ้นมาด้านบน จะเป็นทางเข้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง หากซื้อตั๋วล่วงหน้าให้ไปต่อแถวพิเศษ เพราะจะใช้คนในการตรวจดูตั๋ว (ตั๋วปกติจะเป็นแบบสอดเข้าเครื่องเหมือนรถไฟฟ้าใต้ดิน) โดยในตั๋วจะระบุ ว่าเป็นโบกี้ที่เท่าไหร่ ที่นั่งอะไร
ขอรีวิว เขาหัวซานครับ ลั่วหยางผมไม่ได้ไป ไปเขาหัวซานจะนั่งแค่ 1 ป้ายสถานี (ลองเช็คดูอีกที เพราะขากลับ มีจอดสถานีเล็กๆเพิ่มอีก 1 สถานี) ใช้เวลา 30 นาที ถึงหัวซาน ราคาตั๋วไปหัวซาน 54 หยวนซื้อแบบล่วงหน้า พอถึงหัวซาน สามารถนั่งรถเมล์เขียวไปได้ครับ แต่ต้องสื่อสารกลับคนรถให้ได้น่ะครับว่าลงที่ไหน ถ้านั่งแท็กซี่ ผมจ่ายไป 40 หยวน ไม่ควรเกินนี้และควรน้อยกว่านี้ เพราะระยะทางใกล้ๆไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ค่าเข้าเขาหัวซาน (ค่าเข้าอุทยาน) 220 หยวน รวมรถบัสไปกลับ (มีรถบัสขึ้นเขาหัวซานเพื่อไปยัง cable car ตรงเคเบิ้ลคาร์ จะมีบันไดเดินขึ้นไปได้ เห็นในรีวิวบอกว่าใช้เวลาเดินขึ้น 6 ชั่วโมง ความยากน่าจะพอๆกับภูกระดึง แต่ทางขึ้นสะดวกกว่า เนื่องจากมีบันได) เคเบิ้ลคาร์ ไปกลับ ราคา 150 หยวน
9. เจดีย์ห่านป่าใหญ่ วิธีเดินทาง นั่งรถเมล์ครับ (จำไม่ได้ว่านั่งสายไหน) มารถไฟฟ้าก็ต้องต่อรถเมล์อีกทีหนึงเพราะเดินไกลจากรถไฟฟ้ามาเจดีย์ ประมาณ 1 กิโลได้ ข้อแนะนำ ด้านหลังรั่วกำแพงวัด มีคนจีนมารำไทเก๊ก กับ เต้นรีลาส ดูสบายตามากๆครับ และรอบๆกำแพงวัด เป็น walking street มีรูปปั่น สวนสาธารณะ ตลอดทาง ค่าเข้าเจดีย์ห่านป่าใหญ่ 50 หยวน ค่าขึ้นเจดีย์อีกต่างหาก 30 หยวน (ผมไม่ได้ขึ้นครับ)
ขากลับผมนั่งแท็กซี่กลับ ไปโรงแรม citadines ค่าแท็กซี่ แค่ 15 หยวนเอง ถูกมาก แต่ผมเปิด iphone ดู GPS ตลอดว่าแท็กซี่พาอ้อมหรือเปล่า คนขับรถก็หันมามอง GPS ผมตลอดเหมือนกันครับ ไม่มีอ้อม ยิงตรงถึงที่พักเลยครับ
10. เรื่องสุดท้ายเรื่องโทรศัพท์ internet ผมเปิด roaming ของ truemove H ไปโปร ราคา 333 บาท เล่นเน็ตไม่จำกัด 1 วัน ยืนยันครับ ที่จีน เล่น facebook google map , google search , รับ mail ได้หมดครับ แต่เพื่อนผมใช้ Samsung galaxy ของ ais เล่น facebook ไม่ได้ ตรงนี้ไม่รู้ว่าทำไม ของผมใช้ iphone 4g เล่นได้ เครือข่ายที่ใช้ china Unicom สัญญาณ 3G มีตลอดครับ สัญญาณแรงครับ เพราะผมใช้ VOIP ผ่านเน็ต 3G โทรกลับมาที่ไทย สัญญาณดีมากครับ
ไปซีอานใช้ google map สะดวกมากมายครับ (แผนที่ ของ apple จะละเอียดน้อยกว่า google โหลด app google map ไป ถ้าจะใช้ gps)
หวังว่าเป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้บ้างครับ ผมว่าหลังจากนี้อีกไม่เกิน 1 ปีข้อมูล มีเต็มบอร์ดแน่ๆครับ