เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่วัดท้ายน้ำ อำเภอโพทะเลจังหวัดพิจิตร ได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ พุทธโชติ
เดินชมของเก่าไปเรื่อยๆ จนผมได้สะดุดตากับวัสดุชิ้นหนึ่งซึ่งทำมาจากไม้และสังกะสี คล้ายๆบ้านตุ๊กตาเล็กๆ ผมสงสัยมาก ว่ามันคืออะไร เค้าใช้กันยังไง..
แม่ผมเห็นผมสงสัยอยู่นาน จึงบอกว่า ลองทายดิว่ามันคืออะไร ผมบอกศาลพระภูมิ แม่ส่ายหน้า
ที่ตักน้ำ,วิดน้ำ แม่ผมบอก ไม่ใช่ทั้งหมด แม่ผมเฉลยว่า มันคือ ไฟฉายโบราณ ภูมิปัญญาของชาวบ้าน จะใช้แทนไฟฉายสมัยนี้ เวลากลางคืน หรือส่องกบส่องเขียดกลางทุ่งกลางนา
จะมีที่กั้นแสงสว่างด้านข้างทั้ง3ด้าน ด้านบนทำด้วยสังกะสีจะเปิดช่องระบายอากาศเพื่อไม่ให้ไฟด้านในดับ โดยจะเปิดช่องด้านหน้า แล้วเอาตะเกียงน้ำมันไว้ข้างใน เพื่อให้มีแสงสว่างส่องเพียงด้านหน้า เพียงด้านเดียวเท่านั้น
เพราะสมัยก่อน ไม่มีไฟฉาย ไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ใช้เหมือนปัจจุบัน
จนผมมาเห็นในโปสเตอร์ภาพยนต์เรื่อง พ่อมากพระโขนง จึงนึกถึงวันนั้น วันที่ไปเที่ยวกับแม่ได้..
...ความรู้เล็กๆน้อยๆ เอามาฝากครับ...
ไฟฉายโบราณ
เดินชมของเก่าไปเรื่อยๆ จนผมได้สะดุดตากับวัสดุชิ้นหนึ่งซึ่งทำมาจากไม้และสังกะสี คล้ายๆบ้านตุ๊กตาเล็กๆ ผมสงสัยมาก ว่ามันคืออะไร เค้าใช้กันยังไง..
แม่ผมเห็นผมสงสัยอยู่นาน จึงบอกว่า ลองทายดิว่ามันคืออะไร ผมบอกศาลพระภูมิ แม่ส่ายหน้า
ที่ตักน้ำ,วิดน้ำ แม่ผมบอก ไม่ใช่ทั้งหมด แม่ผมเฉลยว่า มันคือ ไฟฉายโบราณ ภูมิปัญญาของชาวบ้าน จะใช้แทนไฟฉายสมัยนี้ เวลากลางคืน หรือส่องกบส่องเขียดกลางทุ่งกลางนา
จะมีที่กั้นแสงสว่างด้านข้างทั้ง3ด้าน ด้านบนทำด้วยสังกะสีจะเปิดช่องระบายอากาศเพื่อไม่ให้ไฟด้านในดับ โดยจะเปิดช่องด้านหน้า แล้วเอาตะเกียงน้ำมันไว้ข้างใน เพื่อให้มีแสงสว่างส่องเพียงด้านหน้า เพียงด้านเดียวเท่านั้น
เพราะสมัยก่อน ไม่มีไฟฉาย ไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ใช้เหมือนปัจจุบัน
จนผมมาเห็นในโปสเตอร์ภาพยนต์เรื่อง พ่อมากพระโขนง จึงนึกถึงวันนั้น วันที่ไปเที่ยวกับแม่ได้..
...ความรู้เล็กๆน้อยๆ เอามาฝากครับ...