ในชีวิตเคยตกอับ หรืออยู่ในสภาพจนตรอกสุดๆไหม

กระทู้คำถาม
เราเคยเป็นน่ะ ตอนนั้นอกหัก งานก็ไม่ดี เงินก็ไม่มี
พอชีวิตเริ่มดี ก็ดีอยู่แค่สักพัก แล้วก็กลับไปวังวนเดิม
ตอนนี้สถานภาพ อกหัก งานไม่แน่ว่าจะได้ และเงินเดือนที่ตกลงกันก็อาจจะไม่ได้เศร้า
สภาพหน้าตอนนี้โทรมสุดๆ เนื่องจากหางานตากแดด ตากลมอมยิ้ม08
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เคยค่ะ สภาพคือต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ม.ต้น ย้ายบ้านเช่าหนีเพราะพ่อเป็นหนี้เค้าไม่มีเงินจ่าย ลูกหนี้พ่อติดเงินเป็นแสนแต่เค้าดันตายซะงั้น หนี้สูญ เราก็ยังเด็ก งานพ่อก็ไม่มั่นคง (พ่อแม่แยกทางแต่เด็กและแม่เสียไปแล้ว) เราต้องออกมาทำงานเต็มเวลาเงินเดือน 3000 บาทไปขออาศัยอยู่กับญาติ เงินแค่นั้นแหละกับที่พ่อเราขายของ(พระเครื่องที่เหลือๆ ติดตัว) อย่าว่าแต่เดือนชนเดือนเลย วันๆ จะให้เช้าจรดเย็นก็ยังยากเลย แต่เราก็สู้ๆๆๆๆๆ สู้จนสามารถเรียน กศน จนจบ ม.6 แล้วก็ได้งานที่ดีขึ้น ก็เลี้ยงพ่อเลี้ยงตัวเองไปเรื่อยๆ มีบ้างอดบ้างตามประสาน่ะนะ โชคดีที่เราภาษาอังกฤษและใช้งานคอมพิวเตอร์ในขั้นดี ประกอบกับอายุงานที่มากขึ้นเรื่อยๆ เราก็ได้รับเงินเดือนระดับเดียวกับคนจบตรีหลายๆ คน แล้ววันนึงโชคมันก็เข้าข้างเรา เราเจอสามีค่ะ เค้ารู้ว่าที่ผ่านมาชีวิตเราเป็นอย่างไร เค้าสัญญาว่าจะไม่ให้ชีวิตเราต้องพบเจอกับสิ่งแย่ๆ อีก(เราย่อแล้วนะชีวิตเราเจอสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนคงจะฆ่าตัวตายไปหลายหนละ จริงๆ ไม่ได้เว่อร์) และเค้าชอบที่เรารักพ่อแม่ เพราะเค้าเป็นคนรักพ่อแม่มากๆ ก็เลยถูกใจกัน ประกอบกับนิสัยหลายอย่างที่เข้ากันได้ดี ก็เลยได้ลงเอยกับคนดีๆ ค่ะ แล้วเค้าไม่ได้รวยอะไรเลยคนทำมาหากินเหมือนกันก็เข้าใจกันดี เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ

ที่เล่ามาแค่อยากให้เห็นว่า ทำดีต่อไปอย่าได้ท้อค่ะ สักวันมันจะตอบแทนเรา ถ้าคุณเชื่อเรื่องผลแห่งกรรมและความกตัญญูต่อพ่อแม่ เราเชื่อว่าสักวันฟ้าต้องเข้าข้างคุณ สู้ๆ นะคะ
ความคิดเห็นที่ 27
เคยครับ ตอนประมาณ ป.4 พ่อกับแม่โดนคดีเกี่ยวกับยาเสพติด รถโดนยึด บ้านที่เช่าอยู่ไม่มีตังจ่าย ผมกับพี่สาวต้องเก็บของออกจากบ้าน ข้าวของมีค่าโดนญาติๆทางฝั่งพ่อขนไปหมด พวกพระ ทอง และพวกไม้สักต่างๆ
และไม่เคยช่วยเหลือเงินเลี้ยงดู ผมกับพี่สาวต้องไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆของเพื่อนแม่ ที่ก็จะไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่ ค่าเช่าเดือนละ1200 ข้า่วมื้อนึงกินมีปลากกระป๋อง แบ่งกินกันสองคนพร้อมหมาอีกหนึ่งตัวที่เอามาด้วย โชคยังดีที่ยังมีป้าคอยช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ป้าก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะป้าทำงานโรงงาน เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย ตอนนั้นพี่สาวอยู่ม.4 ทำงานพิเศษสองที่ เลิกเรียนไปทำพาร์ทไทม์ที่เชสเตอร์กริลวันไหนไก่เหลือก็ขอ ผจก.กลับมาให้ผมกิน สี่ทุ่มไปทำงานต่อที่ 7 ถึงตีสองตีสาม กลับมาห้องได้นอนกันประมาณเกือบๆตีสี่ ตื่นเช้า7โมงไปเรียน ตอนนั้นผมอยู่ห้องคนเดียวก็นอนไม่หลับเป็นห่วงพี่สาว ตอนตีสองตีสามก็ออกไปรอรับพี่สาวที่ป้ายรถเมล์ วันไหนมีตังค่ารถก็นั่งรถเมล์ไปหาพี่สาวที่ร้าน

พี่สาวกับผมก็อยู่อย่างงั้นมาเป็นปี จนตอนผมขึ้นม.2ก็ออกจากห้องเช่าไปขออาศัยบ้านของเพื่อนพี่สาวเขาอยู่ ต้องนอนกางมุ้งอยู่ชั้นล่างของบ้านไม่มีห้อง พอทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึงก็ออกมาเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่กัน โชคดีที่ศาลตัดสินยกฟ้องแม่ แต่ก็ต้องเข้าไปติดคุกมาหลายปีเหมือนกัน ป้าทำงานเท่าไหร่ก็เอามาจ่ายค่าทนายให้
สุดท้ายพี่สาวผมเรียนไม่จบม.ปลาย ทั้งๆที่เป็นคนฉลาดมาก เรียนได้เกรดไม่ต่ำกว่า3.9มาตลอด แต่พอต้องมาเป็นเสาหลักครอบครัวก็ทำให้ต้องทำงานจนต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน มาทำนั่งดริงค์แต่ไม่ได้ขายตัวนะ โชคดีที่ร้านที่ไปทำค่อนข้างมีระดับและเขามีกฏห้ามเด็กขายตัวกันในร้าน ผมก็ต้องไปนั่งรอรับพี่สาวทุกวัน มาม่าที่นั่นก็ใจดีให้ผมเข้าไปนั่งรอในห้องแต่งตัวไม่ต้องนั่งรอหน้าร้าน สงสารพี่สาวที่เขามีความฝันว่าอยากเป็นหมอมาตลอด

ปัจจุบันพี่สาวผมสบายไปละ เหนื่อยก็แต่เลี้ยงลูก ส่วนผมก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวกับแฟนอยู่ พ่อออกจากเรือนจำตอนนี้บวชเป็นพระได้หลายปีแล้ว ส่วนแม่ก็ทำงานขายประกันไปซึ่งแกก้ดูแฮปปี้ดีขายได้บ้างไม่ได้บ้าง

นึกถึงตอนนั้นมองย้อยกลับไป ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แม่จะยังโกรธและยังไม่ให้อภัยพ่อจริงๆซักที แม่บอกว่าพ่อทำให้ลูกๆต้องลำบาก ทำให้ลูกต้องระเหเร่ร่อนออกไปเจอคนกลั่นแกล้งดูถูกต่างๆนาๆ(แต่แม่ก็บอกผมกับพี่สาวนะว่าอย่าไปโกรธพ่อ แม่โกรธคนเดียวพอ) แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่เคยโกรธพ่อเลย ถึงพ่อจะเลือกทางเดินที่ผิด ก็เพราะรักลูกๆ อยากให้ลูกๆได้สบาย อยากมีบ้านให้ลูกๆอยู่ ถึงแม้มันจะเป็นวิธีที่ผิดก็ตาม  ยังไงผมกับพี่สาวก็ไม่เคยโทษพ่อเลย ผมเคยผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาก ต่อจากนี้ไปเจออะไรผมก็ไม่กลัวแล้ว

ปล.กระทู้นี้ทำให้นึกถึงวันเก่าๆ เขียนซะยาวเลย
ความคิดเห็นที่ 14
เป็นอยู่ค่ะ 10 เดือนที่แล้วผ่าตัดเนื้องอกรังไข่ ผลออกมาเป็นมะเร็ง อีก2อาทิตย์ผ่าตัดมะเร็งอีกรอบ.  1เดือนต่อมาเริ่มให้คีโม ระยะเวลา5 เดือน ต้องหัวโล้นทั้งที่พึ่งดัดผมไปแค่2อาทิตย์ ตอนนี้ให้คีโมเสร็จมา 3 เดือนแล้ว อาทิตย์ที่แล้วไปตรวจปรากฏเป็นซีสที่รังไข่อีกข้าง ตอนนี้อายุ28 เอง หวังว่าฟังปัญหาขอเราแล้วทุกคนจะรู้ดีขึ้นะค่ะ เพราะ. สำหรับเราแล้ว การไม่มีโรคถือเป็นลาภอัยเสริฐ์ที่สุดแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
เคยค่ะ ตอนนั้นที่บ้านย่ำแย่เงินสดแทบไม่มี เพราะไปลงกับที่ดินเกือบหมด ต้องออกจากงานเพราะท้องกับแฟนที่ครอบครัวไม่เคยเห็น พ่อแม่เสียใจมากในวันที่ตัดสินใจบอก  ตัวเองไม่มีเงินต้องเอาทองไปขายเป็นค่าใช้จ่าย พี่สาวออกค่าผ่าคลอดให้  คลอดลูกได้สามเดือนขอเลิกกับแฟนเพราะเค้าไม่ค่อยรับผิดชอบ นั่งนอนเลี้ยงลูกอยู่ไม่คิดอะไรมาก

จนวันหนึ่งแม่มาถามตอนที่นอนดูโทรทัศน์ว่า .. คิดจะนอนอยู่มุมนี้ตลอดไปหรือไง แล้วอนาคตเรากับลูกหล่ะ ... ประโยคนี้ทำเอาน้ำตาไหลและคิดว่าเราจะทำยังไงที่จะเปลี่ยนตัวเองได้ อาทิตย์ต่อมาพี่เขยติดต่อว่าเพื่อนมีน้ำหอมมาให้ขาย จำได้ว่าไปนั่งปูเสื่อขายที่ท่าเรือคลองสาน ขายได้ขวดเดียวแต่ก็ดีใจเพิ่งขายของครั้งแรก  ภายในสองอาทิตย์วิ่งเซอร์เวย์ว่าจะทำอะไร เห็นร้านค้าร้านนึงเซ้งกิจการ เลยขอยืมเงินจากญาติของญาติอีกที 50,000 บาท ค่อยทำไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูกกับงานที่ไม่มีพื้นฐานตรงนี้เลย

ตอนนี้ลูกชายอายุใกล้ 15 แล้วค่ะ เดือนสิงหาคมก็ไปเรียนที่อเมริกาแล้ว ปัจจุบันเป็นซิงเกิ้ลมัมเหมือนเดิมมีบ้านของตัวเอง 5 ล้านจ่ายสด รถแวนปลอดหนี้ และต้องขอบคุณคำพูดวันนั้นของแม่ผู้ซึ่งรักและช่วยเหลือทุกอย่างจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่