เนื่องจากละครเรื่องนี้ลงทุนสูงมาก โปรโมทนาน จึงคาดหวังใจว่าจะมีคุณภาพการผลิตที่สูงมาก จึงขอแสดงความเห็นไว้ดังนี้

น่าจะถ่ายแบบ16:9 hd มากกว่า4:3
ในตอนแรกที่ออกอากาศ ดูราวกับตั้งใจผลิตให้เหมือนละครเก่า สมัยช่อง4 บางขุนพรหม
คล้ายกับอินเดียน่าโจนส์ ภาค4 ที่แม้แต่มุมกล้องยังเก่า จนสปีลเปอร์ยังยอมรับผิด ที่คิดว่าผู้ชมยังคิดแบบเดียวกับผกก.
ทั้งที่คนดูต้องการ มุมกล้องสมัยใหม่ แต่กำกับศิลป์แบบเก่ามากกว่า กลุ่มผู้ชมเปลี่ยนไป ที่เคยดูก็ต้องการสิ่งใหม่ๆ

อย่างฉากบ้านชินกร ที่เดินไปที่โต๊ะน้ำชา บริเวณระเบียงชั้นบน ใช้ดอลลี่ถ่ายดูดีกว่าใช้กล้อง2ตัวตัดไปมาเยอะ


ข้อเสียตอนแรก
เดินเรื่องได้ช้า เนิบนาบ

มุมกล้องโบราณ ใช้กล้องหลายตัว ตัดไปมาดูเวียนหัวในบางฉาก เช่น ตอนวางแผนปลอมตัว

จัดแสงแบบละครเวที โดยเฉพาะฉากห้องโถงใหญ่ แสงที่ผ่านจากกระจกสี แรงไปจนเห็นลวดลายที่กระจกไม่งาม แสงเสริมก็ไม่เต็มที่
คิดว่าคงร้อนน่าดู เพราะในฉากไม่มีแอร์ เปิดพัดลมไม่ได้ ฉากงานเลี้ยงกลางคืนแมลงเยอะ นักแสดงทุกท่านอดทนดี ความตั้งใจสูง  

ฉากย้อนอดีต น่าจะเป็นภาพใส่ฟิลเตอร์ซอฟท์ หรือใส่กรอบ ใส่สีซีเปีย ดีกว่าใช้สีเนกาทีฟ จนผิวคนอมเขียว นึกว่าดูหนังผี

เพลง บีกินบอกรัก
ดนู ฮันตระกูล
อัลบัม ทีเล่นทีจริง
ขับร้องโดย ทวีพร เต็งประทีป
ดนตรี ไหมไทย

ฉากเต้นรำ แข็ง ไม่มีชีวิตชีวา แถมเต้นโยกเยกอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหวไปรอบๆห้อง น่าจะถ่ายแบบฉากมืดส่องไฟเห็นแค่สองคน หรือฉากหลังเบลอไปเลย แถมเวลาเปลี่ยนท่าเต้น ปรกติถ้าเพลงไม่เปลี่ยนก็มักจะไม่เปลี่ยนท่วงท่ามากนัก เข้าใจว่าไม่ใช่วัฒนธรรมไทย แต่ลีลาศเป็นมารยาททางสังคมที่นักเรียนจบจากยุโรป มักทำได้ดี โดยเฉพาะระดับนี้ ฉากนี้อาจมีฉายซ้ำในเรื่องต่อๆไป เพราะปล่อยตัวละครเยอะมาก ดนตรีประกอบดี

ที่ดูในหนังฝรั่งจะชอบวอลซ์ (Waltz) ดูลื่นไหล นุ่มนวลชวนฝัน มีของญี่ปุ่นทำแบบ motion capture ดูลื่นไหล แต่ต้องถ่ายหลายมุม

Final Fantasy VIII - Ballroom Dance Scene

How to Dance the FF8 Waltz (Squall's Part)

รถฮีโน่ที่ออกภาคสนาม คนน้อยไปหน่อย ตอนหลังนศ.มีเพิ่มขึ้นหรือเปล่า แต่ดีแล้วที่ตัดเรื่องเหล้าทิ้งไป เสียมู้ดหมด
ส่วนใหญ่จะมีเรื่องเล่า อาถรรพ์โบราณสถานแบบ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะเขาหวงของ เลยไม่รู้ว่าขโมยมีวิชาดีหรือเปล่า ถึงเอาไปได้
แต่เป็นบ้าก็มี ตอนที่ไปขโมยกรุวัดราชบูรณะ จนเป็นข่าวครึกโครม ที่หนึ่งในขโมยมารำลิเก หน้าสน. และสารภาพจนหมด

กำกับศิลป์
ดีบางฉาก ขาดบางฉาก ในวังจุฑาเทพ แบ่งเป็นสามส่วน สามสถานที่(เดาล้วนๆ)
หนองแขม หน้าวังตั้งทแยงกับประตูใหญ่ สงสัยให้ซินแสมาดูฮวงจุ้ย มากว่าจ้างสถาปนิกยุโรป หรือจ้างสถาปนิกจากฝรั่งเศลที่ศึกษาฮวงจุ้ยมาดู แบบที่ตั้งผังที่dc  หน้าอาคาร ขาดมุข ซุ้มหรือระเบียง มากันฝนเวลารถม้า รถยนต์ มาเทียบหน้าบ้าน ซึ่งจะนิยมสร้างกัน แต่ไม่ทุกหลัง
ผังชั้นสอง ดูคล้ายบ้านพระเอกในหนังเรื่องมนต์รักเพลงสวรรค์ ที่ลูกๆจะอยู่ชั้นสองทั้งสองฝั่งของบ้าน เดินลงมาที่บันไดกลาง

หน้าต่าง ขาดผ้าม่าน ทำให้ดูโล่งเป็นฉาก
แชนเดอเลียร์ หรือ โคมไฟระย้า  สองโคม ที่ห้องโถงเล็กไปหน่อย
เข้าใจว่ายุคนั้นใช้แต่ไฟฟ้าแล้ว หลอดไฟให้แรงเทียนพอ และเพดานจึงไม่ต้องบุด้วยแผ่นดีบุกขัดมัน เพื่อเพิ่มแสงสว่างภายในห้อง

ห้องครัวทั้งที่บ้านเกษรา บ้านมะปราง ห้องครัวว่างมากเครื่องไม้ใช้สอย ดู น้อย แต่ถุงใส่ของเป็นกระดาษ

บ้านมีสะพานเชื่อม ระหว่างกัน ดูกลางๆเป็นบ้านจริงๆ
เรือนเล็ก ของหม่อมป้า บ้านชั้นเดียว หน้าจั่วตะวันฉาย  จัดได้สวยมาก เป็นบ้านคนจริงๆมากกว่าเป็นฉาก น่าอยู่

มุมกล้อง
ปราสาท ถ่ายได้ดีหลายมุม ใช่เครน ดอลลี่เยอะ


ดนตรีประกอบ
ใช้เครื่องวู้ดวิน ไพเราะดี บรรยากาศในละครชุดนี้เข้ากับบทเพลงของดนู ฮันตระกูล มาก


cg
ฉากถ.ราชดำเนิน ,ลานพระบรมรูป ทำได้เนียนดี ฉากย่อยที่เจาะถ่ายหาได้ดี แต่เสียงรั่วเยอะไปหน่อย


เครื่องแต่งกาย
ชาย กลัวหนาวไปหน่อย เสื้อกั๊ก ผูกไทต์ แต่เสื้อกล้ามนิยมจริง ชุดสนามก็ร้อนไป แต่มีสวมแว่นกันแดด สวมหมวก เหมาะสมดี
หญิง ดูไม่โดดจนเกินไป ตัวอิจฉาเปิ๊ดสะก๊าดดี โดยเฉพาะทรงผมแบบท่านเคาท์ ของมารตีในงานเลี้ยง นึกว่ามาดูดเลือด

กระติกน้ำ ผ้าเช็ดหน้า มีติดตัวทุกคนที่ออกสนาม ใส่ใจดี เพราะยุคนั้นยังไม่มี711 และทิชชู่เป็นของหายากมาก
เวลาพระเอกจะเช็ดน้ำตานางเอก ควรใช้ผืนใหม่ที่ไม่ใช่ผืนที่ใช้ประจำ เดี๋ยวได้กลิ่น
แต่โกเต็กก็ไม่แพร่หลาย แสดงว่านางเอก กับเกตุ แข็งแรงดี ไม่มีรอบเดือน รูปก็งาม สุขภาพแข็งแรง จิตใจดี หายากจริงๆ แต่อ่อนโลกไปหน่อย

นักแสดง
พระเอก เลือกมาได้ดี บุคคลิกแบบท่านชายพจน์ วังศิลาขาว สมเป็นพี่ใหญ่ ตั้งใจท่องรายละเอียดโบราณสถานดี น่าจะมีฉากสอน เรื่องรายละเอียดโคปุระ ช่วยเสริมภูมิพระเอก แผนผังปราสาท เป็นฉากหลัง ใกล้โรงอาหาร

นางเอก ยิ้มพิมพ์ใจ แสดงดีกว่าเรื่องแรกมาก พัฒนาขึ้นเยอะ ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง แก่นเกินในบางครั้ง
นางรอง ปลอมเป็นชายได้ดีเสียงเข้ากัน เล่นเป็นทัดดาวได้ ฝีมือรุ่นนี้พัฒนาทุกคน
พระรอง ขโมยซีนได้ไม่ยาก ช่วยทำให้ละครมีเรื่องเล่ามากขึ้น เพราะพระเอกบื้อตามบท
นศ.โบราณคดี ขาดไปจืดแย่ โดยเฉพาะไจแอนด์ ดูสนุกขึ้นเป็นกอง คนที่เหลือบทน้อยไปหน่อย  
รุ่นใหญ่ เลือกได้ดี โดยเฉพาะรับเชิญ แสดงดีทุกท่าน สมบทบาท มีคนจากกรมศิลป์มาร่วมด้วย

จริงๆสองหน่อหน้าจืด วิ่ง เดิน ตุ้งติ้งขนาดนั้น ต้องโดนแกล้งจับแก้ผ้าได้ ไม่งั้นก็แซวไม่เลิก ชายยุคนั้นต้องแกร่ง เท่ ไม่งั้นต้องแอบให้สนิท

ช่วงเวลาในเนื้อเรื่อง
เดาจากที่หม่อมป้าพูดในงานเลี้ยง เหตุการณ์หลังท่านชายพจน์แต่งกับปริศนา สิบกว่าปี ท่านหญิงรัตนาวดี คงไปเจอท่านชายดนัยแล้ว
อานนท์แต่งงานไปแล้ว ถ้าทั้งสามคู่มาปรากฏตัวในละครชุดนี้ได้ก็ดี

หาได้ยากที่นักโบราณคดี จะได้เป็นพระเอก โดยใช้ปราสาทหินเป็นสถานที่เดินเรื่องหลัก ช่วงพ.ศ.2500 สมัยนั้น
อาจารย์สมเด็จ(สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์) สิ้นพระชนม์แล้ว
อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ยังมีชีวิตอยู่ ท่านออกภาคสนามหลายครั้ง
อาจารย์หม่อมเจ้า(หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล) ยังมีชีวิตอยู่
อาจารย์มานิต วัลลิโภดม ยังมีชีวิตอยู่
อาจารย์ประยูร อุลุชาฏะ (พลูหลวง,น. ณ ปากน้ำ) ยังมีชีวิตอยู่

ปราสาทที่ถ่ายทำเป็นปราสาทเมืองต่ำ ศิลปะยุคบาปวน แบบเดียวกับปราสาทพระวิหาร ก่อนยุคนครวัด
เรื่องราวการขโมยตามโบราณสถานมีมาเก่าก่อนแล้ว และยุคนั้นได้มีการถ่ายภาพ เพื่อยืนยันว่าโบราณวัตถุได้อยู่ ณ ที่นั้น เช่น

ภาพถ่ายทับหลัง"นารายณ์บรรทมสินธุ์ - วิษณุอนันตศายินปัทมนาภา"
ที่ปราสาทหินเขาพนมรุ้งในปี 2503 โดยอาจารย์มานิต วัลลิโภดม จนเป็นหลักฐานสำคัญ ในการนำกลับคืนมาจาก ชิคาโก้

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=806218
http://www.lek-prapai.org/watch.php?id=986
http://www.buriram.go.th/tr_phanomrung/Phanomrong3.htm

มีเพื่อสมาชิกแนะนำเกร็ดสนุกๆไปบ้างแล้ว ดูแล้วนึกถึงหนังกลิ่นสีและกาวแป้ง
http://ppantip.com/topic/30259830

สมัยนั้นนักโบราณคดี ต้องวาดรูปเป็น เหมือนหมอ ช่าง เพราะกล้องถ่ายรูปมีราคาแพงมาก
ยิ่งกล้องถ่ายหนัง 8มม. ที่ใช้ในละคร หาดูยังยาก รวยจริงๆ ในละครมีกล้องหลายรุ่นดี แต่ขาดกล้องรางวัด คงสำรวจเสร็จแล้ว

เรื่องราวความรัก กับการอนุรักษ์โบราณสถาน โรแมนติคดี ตอนที่ชายใหญ่ เล่าเรื่อง อโรคศาลา ให้นางเอกฟัง ว่ามีหมอดูไว้ประจำศาลาด้วย(เพราะคนเราต้องการความหวัง หรือสิ่งปลอบประโลม) และตอนที่ครูมืด(พรานนำทาง)เล่าว่า พวกขโมยระเบิดบางปราสาทเพื่อเอา หน้าบรรณไป เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด ไม่แพ้นักอนุรักษ์ชาวกัมพูชา ที่พวกทหารเขมรแดง ยิงรูปสลักนางอัปสรา บางปราสาทจนเสียหาย เพียงเพื่อเป็นเป้าซ้อมมือ สมัยนี้นักท่องเที่ยวก็ช่วยกันลูบ จนหินมันไปหมด

เพลง อัปสรา
อัลบั้ม เทียบเสียง (พ.ศ.2538)
คำร้องภาษาไทย อ.ดนู ฮันตระกูล
คำร้องภาษาเขมร อ.อุไรศรี วรศะริน
ขับร้องโดย ฉัตรศรินทร์ อินทรโยธา

(  อ.ดนู :  ปี2535 ได้ไปชมนครวัด ได้เห็นรูปจำหลัก นางอัปสร และเห็นว่ารูปจำหลักดังกล่าวโดนคนมือบอนลูบไล้ จนบริเวณถันเป็นมันเงาเกิดความคิดทะลึ่งนำมาทำเพลงนี้)   โถ อาจารย์.. ไอเดีย บรรเจิดจริงๆครับ    แต่จริงๆเป็นความเชื่อชาวเขมรว่าถ้าคนไม่มีบุตรไปกระทำดังกล่าวก็จะมีบุตรได้ตามปรารถนา.......เพลงนี้ฟังดูเหมือนเป็นแบบเพลงเปิดม่าน เพลงโหมโรงก่อนการแสดง คล้ายๆ Overture ดนตรีฟังให้บรรยากาศแบบโบราณ เน้นความอลังการของเครื่องเป่า และเครื่องเคาะ จังหวะ ผมว่าเพลงนี้ใช้ทดสอบเครื่องเสียงได้ดีทีเดียว  เพลงนี้ท่านอาจารย์ประพันธ์ทั้งเนื้อร้อง และ ทำนอง.... ประพันธ์ ภาษาเขมรแทรกในท่อนเพลงโดย  อ. อุไรศรี วรศะริน  ขับร้องโดย คุณ ฉัตรศรินทร์ อินทรโยธา ท่านเดียว กับเพลง จม.จาก เพียงจันทร์ ที่ได้นำเสนอท่านผู้ฟังก่อนหน้านี้..เชิญรับฟังครับ)  

อ่าองค์อัปสรา.... ฟ้าหยาดแสงดาว
ดวงตาสุกสกาว วาวไสวใจหวั่น
ร่ายรำสำอางค์ สมดั่งนางฟ้าลาวัณย์
คัจฉะปี่กันตรึมกระชั้น เจรียงรับอัปสรา

โอ้บาปไหนเล่าเอ่ย ให้ต้องสังเวยดวงชะตา
เมื่อเอกองค์อภิบาลผ่านฟ้า มารักลุ่มหลงแทบปลงชีพวาย
ท้าวเทพเฝ้ารอง้อวอนรักเจ้า เจ้าหมางเมินหมาย
จึงสาปเจ้ายามฟ้อนเริงรำร่าย ให้กลายเป็นหิน

โอ้กรรมอัปสรา.....หาหมดหาสิ้น
ต้องโทษตราตรึงหมื่นราคิน คาวมือมนุษย์สามานย์
ลูบโลมชมเล่น เหมือนเช่นสิ่งของสาธารณ์
สุดทรมานสุดช้ำ.... ช่างน่าสงสารอัปสรา

http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=6149.10

ดูไปนึกแปลกใจว่า เหตุใดบุตรีคนสุดท้องของเทวพรหม ถึงชื่อรัมภา เพราะนางต้องผิดหวังในรักแน่
เนื่องจากเป็นหนึ่งในสามอัปสราที่งามที่สุด ได้แก่ รัมภา เมนกา อุรวสี กว่าแต่ละนางจะพบรักแท้ เหนื่อยกว่าวิ่งข้ามเขาจีบกันเยอะ
ฟังท่านอื่นว่าพระเอก ไปเลือกคนบ้านอื่นแทน นึกว่าจะได้เป็นนางเอกเสียอีก แสดงดีดูเป็นคนละคน กับเรื่องบ่วง

หวังว่าทางผู้จัด จะนำไปปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไป เพื่อให้คุณภาพงานดีสมกับที่ทางช่องลงทุน คณะทำงาน นักแสดงทุ่มเทไปมาก
ถ้าตัดต่อได้ดี post productoin ได้ดีก็ช่วยให้ทุกอย่างออกมาได้เต็มที่สมบูรณ์

ท้ายนี้ข้อมูลผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ