สืบเนื่องจากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/30246582/
ตามที่ผมและ อาสาสมัครอีกหนึ่งท่าน ได้อาสาเป็นตัวแทนกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึง และ กลุ่มรักภูกระดึง@Blueplanet และตัวแทนจากกลุ่มรักษ์ป่า คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีก 2 ท่าน ได้ไปร่วมเสวนา กระเช้าภูกระดึง:เพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่จัดโดย อพท. เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าดังนี้
สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555 โดยอนุมัติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง โดยมอบให้ อพท. ไปดำเนินการนั้น หลังจากนั้น ในเดือนเดียวกัน อพท ได้มีหนังสือขอหารือไปยังกรมอุทยานแห่งชาติในเรื่องดังกล่าว.....เพื่อที่จะของบประมาณมาจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ปรากฏว่าจากหนังสือหารือดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ได้มีหนังสือตอบ อพท.เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ให้ อพท ดำเนินการตั้งงบประมาณและแจ้งให้กรมอุทยานพิจารณาต่อไป.....
เห็นได้ว่ามีความล่าช้าในการเสนอของบประมาณเพื่อจัดทำ EIA ไปถึง 1 ปี
ดังนี้ หมายความว่าช่วงที่ผ่านมายังไม่มีการจัดทำ EIA แต่อย่างใด เพราะแม้แต่งบประมาณที่จะจัดทำ EIA ดังกล่าวยังไม่รู้ว่าจะไปเอาจากใครขณะนี้ในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องก็ยังเตะตะกร้อโยนลูกกันไปมาในเรื่องงบประมาณอยู่ สังเกตได้ว่า นายปรีขา เร่งสมบูรณ์ทรัพย์ ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเลย ได้เคยออกปากว่าจะจัดการเรืองงบประมาณดังกล่าวให้ แต่ก็ไม่ได้จัดให้ตามที่กล่าวไว้??? ตอนนี้หอการค้าจังหวัดเลยก็กำลังเมาหมัดว่าจะเอาอย่างไรดี หรือจะต้องใช้งบประมาณของจังหวัดในการจัดทำ(เป็นไปได้ยาก)
ดังนี้ ต่อให้ อพท. ตัดสินใจที่จะตั้งงบประมาณในการจัดทำ EIA และเสนองบประมาณไปยังกรมอุทยานฯ อย่างไวที่สุดตามขั้นตอนแล้ว ก็ไม่ทันปีงบประมาณ 2556 (ต้องเสนอก่อน30 กันยายน 2555) และหากเสนองบก่อน 30 กันยายน 2556 ก็จะได้งบในปีงบประมาณ 2557 ซึ่งหลังจากได้งบก็ควรจะเป็นช่วงเวลาที่จวนเจียนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง พูดง่ายๆงบ EIA ถ้าจะมาจากการจัดสรรของรัฐบาลชุดนี้นั้นเป็นไปได้ยาก และหากเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า กว่าจะตั้งรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯ กว่าจะนู่นนี่นั่นก็อีกเกินครึ่งปี สรุปได้ว่าไม่น่าจะเห็นงบประมาณที่จะมาทำ EIA ตามขั้นตอนปกติจากรัฐบาลภายใน 2 ปีนี้แน่ๆ
ความเป็นไปได้ก็คือนายปรีชาต้องไปจัดงบประมาณมาจากงบกลางของรัฐบาล ซึ่งหากดูจากท่าทีการเตะถ่วงแล้ว...ก็เป็นไปได้ยาก ปากบอกว่าให้งบ 22 ล้านแต่ผ่านมาเป็นปียังไม่เห็นงบที่ว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็เริ่มท้อกันไปบ้าง
ดังนี้ ถ้าสมัยหน้านายปรีชา ซึ่งเป็น สส จังหวัดเลย ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯอีก ก็เป็นไปได้ยากที่จะหาใครมาผลักดันโครงการนี้ เพราะฝ่ายการเมืองน่าจะทราบดีถึงผลสะท้อนกลับจากกระแสต่อต้านในสังคม ซึ่งมีเสียงต้านมากกว่าเสียงสนับสนุน
โดยรวมแล้วถ้าไม่มีเรื่องไม่คาดฝัน เราน่าจะยังไม่เห็นการจัดทำ EIA ในเรื่องนี้ภายในสองปีต่อจากนี้ เว้นแต่เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัยและกลับมาผลักดันเรื่องนี้อีก ซึ่งดูจากท่าทีที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นไปได้ยาก
งานนี้ได้คนในพื้นที่มาช่วยเราคัดค้านอีกสองเสียง คือ ท่าน ส.จ. กะ และ พี่ไฝ (ปริพันธ์ วัฒนขำ) ประธานกลุ่มกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชนหน่อไม้หวาน จังหวัดเลย มาช่วยเราด้วยอีกสองเสียง
ที่ขาดไม่ได้เลย และต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับพันธมิตรที่สำคัญของเราคือมูลนิธิสืบ นาคเสถียร และพี่นพรัตน์ นาคสถิตย์ ที่ร่วมสู้กับเรามาทุกเวที ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย ทั้งๆที่ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบของสืบ ยังเปลืองตัวมาให้ฝ่ายสนับสนุนเขาด่าทุกเวที แต่พี่ก็ยังมาให้ข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์มากเสมอมา ซาบซึ้งจริงๆครับ
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับโครงการกระเช้าลอยฟ้าภูกระดึง จากการเสวนา กระเช้าภูกระดึง : เพียงส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ
สืบเนื่องจากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/30246582/
ตามที่ผมและ อาสาสมัครอีกหนึ่งท่าน ได้อาสาเป็นตัวแทนกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึง และ กลุ่มรักภูกระดึง@Blueplanet และตัวแทนจากกลุ่มรักษ์ป่า คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีก 2 ท่าน ได้ไปร่วมเสวนา กระเช้าภูกระดึง:เพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่จัดโดย อพท. เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าดังนี้
สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555 โดยอนุมัติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง โดยมอบให้ อพท. ไปดำเนินการนั้น หลังจากนั้น ในเดือนเดียวกัน อพท ได้มีหนังสือขอหารือไปยังกรมอุทยานแห่งชาติในเรื่องดังกล่าว.....เพื่อที่จะของบประมาณมาจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ปรากฏว่าจากหนังสือหารือดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ได้มีหนังสือตอบ อพท.เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ให้ อพท ดำเนินการตั้งงบประมาณและแจ้งให้กรมอุทยานพิจารณาต่อไป.....
เห็นได้ว่ามีความล่าช้าในการเสนอของบประมาณเพื่อจัดทำ EIA ไปถึง 1 ปี
ดังนี้ หมายความว่าช่วงที่ผ่านมายังไม่มีการจัดทำ EIA แต่อย่างใด เพราะแม้แต่งบประมาณที่จะจัดทำ EIA ดังกล่าวยังไม่รู้ว่าจะไปเอาจากใครขณะนี้ในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องก็ยังเตะตะกร้อโยนลูกกันไปมาในเรื่องงบประมาณอยู่ สังเกตได้ว่า นายปรีขา เร่งสมบูรณ์ทรัพย์ ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเลย ได้เคยออกปากว่าจะจัดการเรืองงบประมาณดังกล่าวให้ แต่ก็ไม่ได้จัดให้ตามที่กล่าวไว้??? ตอนนี้หอการค้าจังหวัดเลยก็กำลังเมาหมัดว่าจะเอาอย่างไรดี หรือจะต้องใช้งบประมาณของจังหวัดในการจัดทำ(เป็นไปได้ยาก)
ดังนี้ ต่อให้ อพท. ตัดสินใจที่จะตั้งงบประมาณในการจัดทำ EIA และเสนองบประมาณไปยังกรมอุทยานฯ อย่างไวที่สุดตามขั้นตอนแล้ว ก็ไม่ทันปีงบประมาณ 2556 (ต้องเสนอก่อน30 กันยายน 2555) และหากเสนองบก่อน 30 กันยายน 2556 ก็จะได้งบในปีงบประมาณ 2557 ซึ่งหลังจากได้งบก็ควรจะเป็นช่วงเวลาที่จวนเจียนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง พูดง่ายๆงบ EIA ถ้าจะมาจากการจัดสรรของรัฐบาลชุดนี้นั้นเป็นไปได้ยาก และหากเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า กว่าจะตั้งรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯ กว่าจะนู่นนี่นั่นก็อีกเกินครึ่งปี สรุปได้ว่าไม่น่าจะเห็นงบประมาณที่จะมาทำ EIA ตามขั้นตอนปกติจากรัฐบาลภายใน 2 ปีนี้แน่ๆ
ความเป็นไปได้ก็คือนายปรีชาต้องไปจัดงบประมาณมาจากงบกลางของรัฐบาล ซึ่งหากดูจากท่าทีการเตะถ่วงแล้ว...ก็เป็นไปได้ยาก ปากบอกว่าให้งบ 22 ล้านแต่ผ่านมาเป็นปียังไม่เห็นงบที่ว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็เริ่มท้อกันไปบ้าง
ดังนี้ ถ้าสมัยหน้านายปรีชา ซึ่งเป็น สส จังหวัดเลย ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯอีก ก็เป็นไปได้ยากที่จะหาใครมาผลักดันโครงการนี้ เพราะฝ่ายการเมืองน่าจะทราบดีถึงผลสะท้อนกลับจากกระแสต่อต้านในสังคม ซึ่งมีเสียงต้านมากกว่าเสียงสนับสนุน
โดยรวมแล้วถ้าไม่มีเรื่องไม่คาดฝัน เราน่าจะยังไม่เห็นการจัดทำ EIA ในเรื่องนี้ภายในสองปีต่อจากนี้ เว้นแต่เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัยและกลับมาผลักดันเรื่องนี้อีก ซึ่งดูจากท่าทีที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นไปได้ยาก
งานนี้ได้คนในพื้นที่มาช่วยเราคัดค้านอีกสองเสียง คือ ท่าน ส.จ. กะ และ พี่ไฝ (ปริพันธ์ วัฒนขำ) ประธานกลุ่มกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชนหน่อไม้หวาน จังหวัดเลย มาช่วยเราด้วยอีกสองเสียง
ที่ขาดไม่ได้เลย และต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับพันธมิตรที่สำคัญของเราคือมูลนิธิสืบ นาคเสถียร และพี่นพรัตน์ นาคสถิตย์ ที่ร่วมสู้กับเรามาทุกเวที ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย ทั้งๆที่ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบของสืบ ยังเปลืองตัวมาให้ฝ่ายสนับสนุนเขาด่าทุกเวที แต่พี่ก็ยังมาให้ข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์มากเสมอมา ซาบซึ้งจริงๆครับ