คนที่พูดได้หลายภาษา หรือพวกลูกครึ่ง เขาจะฝันเป็นภาษาอะไร

หรือจะฝันแบบ 2 ภาษา
หรือฝันภาษาที่ตนถนัดที่สุด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เท่....

           คือมันอย่างนี้ครับ ลูกครึ่ง กับคนที่เรียนภาษา มันต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
ลูกครึ่ง มีความสับสนทางภาษามากกว่าครับ เพราะพูดโดยไม่ได้ตั้งใจและคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้น ใช้ภาษาเดียวกับตน ซึ่งเป็นบ่อยมาก
และการนึกคิด เป็นทั้งสองภาษาครับ ทั้งภาษาพ่อและภาษาแม่ เช่น เวลานึกถึงว่าจะพูดอะไรกับคุณตา ก็จะนึกจะคิดเป็นภาษาแม่ ส่วนเวลา
จะพูดกับคุณปู่ ก็จะคิดจะนึกเป็นภาษาพ่อ เวลาฝันก็แยกตามสถานการณ์นั้นๆครับ
สำหรับ ผู้ที่เรียนภาษา มีความสับสนทางภาษาน้อยกว่าครับ ยกเว้น ใครที่ไปอยู่ต่างประเทศและใช้ภาษานั้นเกิน 8 ปีขึ้นไป
สำหรับคนที่ไปอยู่ต่างประเทศต่ำกว่า 8 ปีลงมานั้น การนึกการคิด ยังเป็นภาษาที่ตนถนัดที่สุดอยู่ครับ สังเกตง่ายๆก็คือ การนับเลขครับ
ถ้ายังนับเลขเป็น ภาษาที่ตนถนัดอยู่ นั่นก็หมายความว่า การนึกคิดฝัน ยังเป็นภาษาที่ตนถนัดที่สุดครับ แต่ถ้านับเลขแล้วเป็นภาษาอื่น
แสดงว่าต้องอยู่และใช้ภาษานั้นๆนานกว่า 8 ปีครับ
            การเรียนรู้ทางภาษานั้น ทำไมหลายคนยังต้องเปิดดิชท์ดูเวลาเจอคำที่ยังไม่เคยเจอและก็ต้องท่องจำ ก็เพราะว่า การนึกการคิดยัง
เป็นภาษาแรกของตนอยู่ครับ แต่คนที่ไม่ต้องเปิดดิชท์ดูแล้วนั้นและก็ไม่ต้องท่องจำด้วย ก็เพราะ เวลาเขานึกถึงคนนั้นคนนี้ที่กำลังพูดกับตน
ในความคิดนั้น เขานึกขึ้นเป็นภาษานั้นๆครับ เช่นได้ยินเสียงด่าของเจ้านายเป็นภาษานั้นๆเลยเป็นต้น เวลาเจอคำศัพท์ใหม่ๆ ก็ไม่ต้องท่องจำ
เพราะมันจำได้โดยเป็นอัตโนมัติ แต่ความหมายถึงยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรก็ตาม ก็จะถามใครตรงนั้นเลยเหมือนเด็กๆครับเวลาไม่เข้าใจคำพูด
ก็จะถามว่ามันหมายความอะไร เป็นต้น
          ดังนั้น การฝัน ก็น่าจะเหมือนกันครับ คนที่ไปอยู่ต่างประเทศใหม่ๆ อย่างไรจะฝันเป็นประเทศของตนอยู่ครับ นานเป็นปี กว่าจะเริ่มฝันถึง
ประเทศใหม่ที่ตนไปอยู่  
            สำหรับท่านบนๆที่บอกว่า ฝันเป็นภาษาต่างประเทศได้ อันนี้ไม่ทราบครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ครับ หรือได้ก็น่าจะน้อยมากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่