จำได้ว่าเวลาไปจิบน้ำชาที่ไหนต้องเห็นเจ้าแซนวิชแตงกวามาในเซ็ตบ่อยๆ ครั้งแรกที่ได้ลองแซนวิชแตงกวานั้นตอนยังเด็กๆ รู้สึกว่าไม่ชอบเลย แซนวิชอะไรก็ไม่รู้ บางก็บาง แตงกวาก็เปรี้ยวๆ เย็นจืดชืดสิ้นดี ยังงงว่าผู้ใหญ่เค้ากินกันได้ไง
พอโตขึ้น ได้ทำงานเป็นไกด์ ก็ได้ไปที่นั่นที่นี่ ได้ลองเจ้าแซนวิชแตงกวาอยู่เนืองๆ บางที่ก็ใส่ครีมชีสด้วย อร่อยดี เหมือนที่เราทำในวันนี้ แต่คุณป้าของสามีบอกว่าจริงๆแล้วแบบโบราณนั้นขนมปังต้องตัดขอบและบางๆ แตงกวาต้องพรมน้ำส้มสายชูหรือไซเดอร์ แค่นั้นเอง กินกับชายามบ่ายๆ วันที่อากาศร้อนๆนี่สดชื่นดีจริงๆ แต่แบบที่ทำในวันนี้ก็อร่อยมากๆ คุณป้าทานไปตั้งหลายชิ้นแน่ะ คุณพ่อสามีนี่ไม่ต้องพูดถึง แซนวิชแตงกวานี่ของโปรดท่านเลย ทำมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ คนทำก็ยิ้มแก้มแทบปริ มันมีความสุขนะคะพอเห็นคนทานอาหารที่เราทำอย่างเอร็ดอร่อย
พูดถึงคุณป้าเพ็ก ป้าของสามีคนนี้เราจะชอบเข้าไปคลุกคลีด้วย ท่านเป็นแม่ทูนหัว (Godmother) ของสามีค่ะ ท่านน่ารัก อ่อนหวาน ที่สำคัญทำขนมเก่งมาก จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกก็ถูกชะตากับป้าเพ็กแล้ว ทุกคริสต์มาส เราจะตั้งตารอคริสต์มาสพุดดิ้งฝีมือป้าเพ็ก พอจะเสิร์ฟ คุณพ่อสามีจะราดด้วยบรั่นดีและจุดไฟ กลิ่นนี่หอมไปสามบ้านแปดบ้าน รักป้าเพ็กจริงๆ
ส่วนผสมแซนวิชแตงกวา
ขนมปัง จะใช้ขนมปังขาวหรือโฮลมีลก็ได้ค่ะ
ครีมชีส ทิ้งให้นิ่ม
แตงกวา
ใบสะระแหน่
ไรซไวน์วิเนก้าร์ หรือไซเดอร์ หรือถ้าไม่มีก็ใช้น้ำส้มสายชูธรรมดาได้
เกลือ
ใช้พีลเล่อร์ฝานแตงกวาเป็นเส้นบางๆแบบในรูป ไม่เอาใส้ โรยเกลือนิดหน่อยแล้วทิ้งไว้สักครู่ เกลือจะดึงน้ำออกมาจากแตงกวา แล้วพรมวิเนก้าร์ ทิ้งไว้สักพักเพื่อแต่งรสให้แตงกวา
ใช้กระดาษซับแตงกวาไม่ให้เปียกเกินไป
ผสมครีมชีสกับใบสะระแหน่สับนิดหน่อย ถ้าจะใช้สมุนไพรอื่นๆเช่นไชฟ์ก็ได้นะคะ แต่เราว่าสะระแหน่นี่กลิ่นเข้ากันกับแตงกวามากกว่า
เอาครีมชีสที่ผสมแล้วทาบนขนมปัง วางแตงกวาทับ แล้วประกบด้วยขนมปังทาครีมชีสอีกแผ่น ตัดขอบให้เรียบร้อย หั่นเป็นชิ้นตามยาวหรือสามเหลี่ยมก็ได้ค่ะ
ถ้าใครจะเอาแตงกวามาตกแต่งด้านบนให้ดูสวยงามเหมือนที่เราทำก็ได้นะคะ
คุณแม่สามีบอกเหมือนวินเซอร์ไฮทีเลย
ทำไม่ยากนะคะ อร่อยด้วย เป็นมื้อเบาๆกับน้ำชายามบ่าย
สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ
พิม
แซนวิชแตงกวา กับน้ำชายามบ่าย
จำได้ว่าเวลาไปจิบน้ำชาที่ไหนต้องเห็นเจ้าแซนวิชแตงกวามาในเซ็ตบ่อยๆ ครั้งแรกที่ได้ลองแซนวิชแตงกวานั้นตอนยังเด็กๆ รู้สึกว่าไม่ชอบเลย แซนวิชอะไรก็ไม่รู้ บางก็บาง แตงกวาก็เปรี้ยวๆ เย็นจืดชืดสิ้นดี ยังงงว่าผู้ใหญ่เค้ากินกันได้ไง
พอโตขึ้น ได้ทำงานเป็นไกด์ ก็ได้ไปที่นั่นที่นี่ ได้ลองเจ้าแซนวิชแตงกวาอยู่เนืองๆ บางที่ก็ใส่ครีมชีสด้วย อร่อยดี เหมือนที่เราทำในวันนี้ แต่คุณป้าของสามีบอกว่าจริงๆแล้วแบบโบราณนั้นขนมปังต้องตัดขอบและบางๆ แตงกวาต้องพรมน้ำส้มสายชูหรือไซเดอร์ แค่นั้นเอง กินกับชายามบ่ายๆ วันที่อากาศร้อนๆนี่สดชื่นดีจริงๆ แต่แบบที่ทำในวันนี้ก็อร่อยมากๆ คุณป้าทานไปตั้งหลายชิ้นแน่ะ คุณพ่อสามีนี่ไม่ต้องพูดถึง แซนวิชแตงกวานี่ของโปรดท่านเลย ทำมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ คนทำก็ยิ้มแก้มแทบปริ มันมีความสุขนะคะพอเห็นคนทานอาหารที่เราทำอย่างเอร็ดอร่อย
พูดถึงคุณป้าเพ็ก ป้าของสามีคนนี้เราจะชอบเข้าไปคลุกคลีด้วย ท่านเป็นแม่ทูนหัว (Godmother) ของสามีค่ะ ท่านน่ารัก อ่อนหวาน ที่สำคัญทำขนมเก่งมาก จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกก็ถูกชะตากับป้าเพ็กแล้ว ทุกคริสต์มาส เราจะตั้งตารอคริสต์มาสพุดดิ้งฝีมือป้าเพ็ก พอจะเสิร์ฟ คุณพ่อสามีจะราดด้วยบรั่นดีและจุดไฟ กลิ่นนี่หอมไปสามบ้านแปดบ้าน รักป้าเพ็กจริงๆ
ส่วนผสมแซนวิชแตงกวา
ขนมปัง จะใช้ขนมปังขาวหรือโฮลมีลก็ได้ค่ะ
ครีมชีส ทิ้งให้นิ่ม
แตงกวา
ใบสะระแหน่
ไรซไวน์วิเนก้าร์ หรือไซเดอร์ หรือถ้าไม่มีก็ใช้น้ำส้มสายชูธรรมดาได้
เกลือ
ใช้พีลเล่อร์ฝานแตงกวาเป็นเส้นบางๆแบบในรูป ไม่เอาใส้ โรยเกลือนิดหน่อยแล้วทิ้งไว้สักครู่ เกลือจะดึงน้ำออกมาจากแตงกวา แล้วพรมวิเนก้าร์ ทิ้งไว้สักพักเพื่อแต่งรสให้แตงกวา
ใช้กระดาษซับแตงกวาไม่ให้เปียกเกินไป
ผสมครีมชีสกับใบสะระแหน่สับนิดหน่อย ถ้าจะใช้สมุนไพรอื่นๆเช่นไชฟ์ก็ได้นะคะ แต่เราว่าสะระแหน่นี่กลิ่นเข้ากันกับแตงกวามากกว่า
เอาครีมชีสที่ผสมแล้วทาบนขนมปัง วางแตงกวาทับ แล้วประกบด้วยขนมปังทาครีมชีสอีกแผ่น ตัดขอบให้เรียบร้อย หั่นเป็นชิ้นตามยาวหรือสามเหลี่ยมก็ได้ค่ะ
ถ้าใครจะเอาแตงกวามาตกแต่งด้านบนให้ดูสวยงามเหมือนที่เราทำก็ได้นะคะ
คุณแม่สามีบอกเหมือนวินเซอร์ไฮทีเลย
ทำไม่ยากนะคะ อร่อยด้วย เป็นมื้อเบาๆกับน้ำชายามบ่าย
สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ
พิม