The Adventures of Robin Hood (1938)
Genre : Drama, Comedy, Romance, Adventure, Action
Directors : Michael Curtiz, William Keighley
Original Screen Play, Based upon ancient Robin Hood legends : Norman Reilly Raine, Seton I. Miller
Contributor to Treatment : Rowland Leigh
ก่อนหน้าจะดู The Adventures of Robin Hood เนี่ย ผมรับรู้ชื่อของ Robin Hood แค่ในนามของจอมโจรปล้นคนรวยแจกจ่ายคนจน แต่ไม่ได้รู้ที่มาว่ามาจากนิทานพื้นบ้านของอังกฤษ และเหมือนว่าหนัง Robin Hood หลายฉบับจะเล่าเรื่องและตำแหน่งยศตัวละครแตกต่างกันไป ดังนั้นผมขอพูดถึงเฉพาะในฉบับปี 1938 ที่ผมได้ดูนะครับ
The Adventures of Robin Hood เล่าถึงสมัย King Richard the Lion-Heart ที่เรารับรู้กันในนามริชาร์ดใจสิงห์นำทัพออกรบในสงครามครูเสด แล้วได้แต่งตั้งสหายเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ทำให้ Prince John น้องชายโกรธแค้นและจับมือกับขุนนางจากนอร์มันทรยศราชบัลลังก์ เมื่อ Prince John ทราบข่าวว่าพี่ชายตัวเองถูกจับเป็นเชลยจึงเริ่มเก็บภาษีในจำนวนที่สูงและกดขี่ข่มเหงประชาชนทุกทาง แน่นอนว่าผู้คนย่อมไม่พอใจและลุกขึ้นต่อต้าน โดยมี Robin Hood ขุนนางจากแซ็กซอนเป็นหัวหน้ากองโจรต่อต้าน Prince John นำคนออกปล้นคนรวยแจกจ่ายคนจนและเก็บเงินไว้สำหรับเป็นค่าไถ่ King Richard
ต้องขอเกริ่นถึงอารมณ์หนังสักนิดว่า ถึงแม้เนื้อเรื่องมันดูเป็นดราม่าหนัก ๆ มีฉากรบ ฉากปล้น แต่อารมณ์หนังดันเป็นคอเมดี้ซะอย่างนั้น บทจะจริงจังหนังก็มีเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้นมาก ๆ ขณะเดียวกันหลายฉากออกแนวหนังคอเมดี้ ตัวละครนำอย่าง Robin Hood ก็มีอารมณ์ขันสูงแทนที่จะเป็นบุคลิกเท่ ๆ เคร่งขรึม (ในแบบที่ผมติดภาพจากฉบับ 2010) แต่ความเป็นคอเมดี้ของหนังไม่ได้บั่นทอนความยอดเยี่ยมของบทภาพยนตร์ และไม่ได้ทำลายดราม่าอันเข้มข้นแต่อย่างใด มองในอีกแง่ก็ถือว่าใช้รอยยิ้ม อารมณ์ขันกลบเกลื่อนเรื่องราวที่เลวร้ายได้อย่างดี
ปัญหาเล็กน้อยของ The Adventures of Robin Hood คือการแบ่งการถ่ายทำเป็นในสตูและกลางแจ้ง ปัญหาที่ว่าคือเรื่องของ "การจัดแสง" ครับ ขอพูดถึงภาพรวมก่อนนะครับ การออกแบบฉากในวังทั้งหมดยอดเยี่ยมสุดยอดมาก ๆ หนังสมัยใหม่มีอายได้เลยครับ แต่เรื่องแสงเนี่ย หนังไม่สามารถทำให้คนดูรับรู้ว่าเหตุการณ์ในวังเป็นเวลากลางวัน เพราะพื้นหลังที่ควรจะเป็นหน้าต่างก็เป็นสีท้องฟ้ากลางคืน พอมีฉากต่อเนื่องระหว่างในสตูกับนอกสตูเลยเห็นความต่างชัดเจนครับ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมายครับแค่อยากพูดถึงสักหน่อย หะหะ ส่วนการถ่ายทำกลางแจ้งทำได้เยี่ยมมาก ภาพสีสวยนิ้งเชียวครับ สีเขียวของป่า แสงแดดสวย ๆ และสีเครื่องแต่งกายแสนลูกกวาด ปี 1938 งานภาพสวยแบบนี้ผมว่าเยี่ยมมากเลยครับ
บทหนัง Robin Hood ฉบับนี้เข้มข้นทั้งการปกป้องบัลลังก์และเรื่องราวความรักสุดแสนโรแมนติก หนังนำทั้งสองส่วนสำคัญมาผนวกเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ฉากต่อสู้ทำได้โอเคครับ พวกฉากยิงธนู ฉากปล้นขบวนม้าผมชอบมากทีเดียว อย่างกับทาร์ซานเลยครับ ส่วนฉากฟันดาบต่าง ๆ ถ้าเทียบกับสมัยนั้นก็คงบอกว่าเยี่ยม แต่ด้วยความที่ผ่านหนังสมัยใหม่มาเยอะเลยรู้สึกมันดรอปไปสักเล็กน้อย
เครื่องแต่งกายของทุกตัวละครก็เป็นอีกอย่างที่ต้องขอชมเชยครับ ทีมงานคอสตูมยอดเยี่ยมกันจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าสมัยสงครามครูเสดชาวบ้านเขาแต่งกันสีสดใสลูกกวาดแบบในหนังปี 1938 หรืออย่างไร ชุดรบ ชุดขุนนางก็ค่อนข้างมีสีสัน (เพราะหนังสมัยใหม่ที่พูดถึงสมัยครูเสด เครื่องแต่งกายชาวบ้านสีพื้นค่อนข้างเรียบง่าย ส่วนชุดรบสีดำเงินเข้ม ๆ ดูน่าเกรงขาม)
การแสดงของเหล่านักแสดงนำอยู่ในเกณฑ์ดีครับ ทั้งฝั่ง Robin Hood และฝั่ง Prince John กับ Sir Guy of Gisbourne ขุนนางพันธมิตร บทสมทบเรียกเสียงหัวเราะต่างก็ทำหน้าที่กันได้ดี ไม่ได้เป็นส่วนเกินของหนังแต่อย่างใด เรียกว่าถูกแทรกเข้ามาในหนังได้ลงตัวครับ
ตัวหนังได้เข้าชิงออสการ์ปี 1939 ทั้งสิ้น 4 รางวัล และคว้ามาครองได้ 3 รางวัลคือ Best Art Direction, Best Film Editing และ Best Music, Original Score ผมการันตีว่าคู่ควรทุกรางวัลโดยเฉพาะ Art Direction เนี่ย ไม่ได้ไม่รู้จะว่ายังไงละครับ แค่ฉากในวังก็เอาออสการ์ไปกอดละครับ รางวัลที่หนังพลาดไปคือ Best Picture ซึ่งปีนั้นตกเป็นของ You Can't Take It with You ผลงาน Frank Capra (ถ้ามีโอกาสคงต้องหามาดูแน่ ๆ)
หลายท่านคงเคยผ่านตา Robin Hood มากันบ้างแล้ว ถ้ามีโอกาสก็ลองชมฉบับสุดคลาสสิกปี 1938 กันบ้างนะครับ ผมการันตีความยอดเยี่ยมเลยครับ
10/10
ฝากเพจรีวิวหนังไว้ด้วยนะครับ ทั้งหนังใหม่หนังคลาสสิก
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
วันนี้มีหนังคลาสสิกมาแนะนำอีกเรื่องครับ The Adventures of Robin Hood ปี 1938
Genre : Drama, Comedy, Romance, Adventure, Action
Directors : Michael Curtiz, William Keighley
Original Screen Play, Based upon ancient Robin Hood legends : Norman Reilly Raine, Seton I. Miller
Contributor to Treatment : Rowland Leigh
ก่อนหน้าจะดู The Adventures of Robin Hood เนี่ย ผมรับรู้ชื่อของ Robin Hood แค่ในนามของจอมโจรปล้นคนรวยแจกจ่ายคนจน แต่ไม่ได้รู้ที่มาว่ามาจากนิทานพื้นบ้านของอังกฤษ และเหมือนว่าหนัง Robin Hood หลายฉบับจะเล่าเรื่องและตำแหน่งยศตัวละครแตกต่างกันไป ดังนั้นผมขอพูดถึงเฉพาะในฉบับปี 1938 ที่ผมได้ดูนะครับ
The Adventures of Robin Hood เล่าถึงสมัย King Richard the Lion-Heart ที่เรารับรู้กันในนามริชาร์ดใจสิงห์นำทัพออกรบในสงครามครูเสด แล้วได้แต่งตั้งสหายเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ทำให้ Prince John น้องชายโกรธแค้นและจับมือกับขุนนางจากนอร์มันทรยศราชบัลลังก์ เมื่อ Prince John ทราบข่าวว่าพี่ชายตัวเองถูกจับเป็นเชลยจึงเริ่มเก็บภาษีในจำนวนที่สูงและกดขี่ข่มเหงประชาชนทุกทาง แน่นอนว่าผู้คนย่อมไม่พอใจและลุกขึ้นต่อต้าน โดยมี Robin Hood ขุนนางจากแซ็กซอนเป็นหัวหน้ากองโจรต่อต้าน Prince John นำคนออกปล้นคนรวยแจกจ่ายคนจนและเก็บเงินไว้สำหรับเป็นค่าไถ่ King Richard
ต้องขอเกริ่นถึงอารมณ์หนังสักนิดว่า ถึงแม้เนื้อเรื่องมันดูเป็นดราม่าหนัก ๆ มีฉากรบ ฉากปล้น แต่อารมณ์หนังดันเป็นคอเมดี้ซะอย่างนั้น บทจะจริงจังหนังก็มีเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้นมาก ๆ ขณะเดียวกันหลายฉากออกแนวหนังคอเมดี้ ตัวละครนำอย่าง Robin Hood ก็มีอารมณ์ขันสูงแทนที่จะเป็นบุคลิกเท่ ๆ เคร่งขรึม (ในแบบที่ผมติดภาพจากฉบับ 2010) แต่ความเป็นคอเมดี้ของหนังไม่ได้บั่นทอนความยอดเยี่ยมของบทภาพยนตร์ และไม่ได้ทำลายดราม่าอันเข้มข้นแต่อย่างใด มองในอีกแง่ก็ถือว่าใช้รอยยิ้ม อารมณ์ขันกลบเกลื่อนเรื่องราวที่เลวร้ายได้อย่างดี
ปัญหาเล็กน้อยของ The Adventures of Robin Hood คือการแบ่งการถ่ายทำเป็นในสตูและกลางแจ้ง ปัญหาที่ว่าคือเรื่องของ "การจัดแสง" ครับ ขอพูดถึงภาพรวมก่อนนะครับ การออกแบบฉากในวังทั้งหมดยอดเยี่ยมสุดยอดมาก ๆ หนังสมัยใหม่มีอายได้เลยครับ แต่เรื่องแสงเนี่ย หนังไม่สามารถทำให้คนดูรับรู้ว่าเหตุการณ์ในวังเป็นเวลากลางวัน เพราะพื้นหลังที่ควรจะเป็นหน้าต่างก็เป็นสีท้องฟ้ากลางคืน พอมีฉากต่อเนื่องระหว่างในสตูกับนอกสตูเลยเห็นความต่างชัดเจนครับ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมายครับแค่อยากพูดถึงสักหน่อย หะหะ ส่วนการถ่ายทำกลางแจ้งทำได้เยี่ยมมาก ภาพสีสวยนิ้งเชียวครับ สีเขียวของป่า แสงแดดสวย ๆ และสีเครื่องแต่งกายแสนลูกกวาด ปี 1938 งานภาพสวยแบบนี้ผมว่าเยี่ยมมากเลยครับ
บทหนัง Robin Hood ฉบับนี้เข้มข้นทั้งการปกป้องบัลลังก์และเรื่องราวความรักสุดแสนโรแมนติก หนังนำทั้งสองส่วนสำคัญมาผนวกเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ฉากต่อสู้ทำได้โอเคครับ พวกฉากยิงธนู ฉากปล้นขบวนม้าผมชอบมากทีเดียว อย่างกับทาร์ซานเลยครับ ส่วนฉากฟันดาบต่าง ๆ ถ้าเทียบกับสมัยนั้นก็คงบอกว่าเยี่ยม แต่ด้วยความที่ผ่านหนังสมัยใหม่มาเยอะเลยรู้สึกมันดรอปไปสักเล็กน้อย
เครื่องแต่งกายของทุกตัวละครก็เป็นอีกอย่างที่ต้องขอชมเชยครับ ทีมงานคอสตูมยอดเยี่ยมกันจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าสมัยสงครามครูเสดชาวบ้านเขาแต่งกันสีสดใสลูกกวาดแบบในหนังปี 1938 หรืออย่างไร ชุดรบ ชุดขุนนางก็ค่อนข้างมีสีสัน (เพราะหนังสมัยใหม่ที่พูดถึงสมัยครูเสด เครื่องแต่งกายชาวบ้านสีพื้นค่อนข้างเรียบง่าย ส่วนชุดรบสีดำเงินเข้ม ๆ ดูน่าเกรงขาม)
การแสดงของเหล่านักแสดงนำอยู่ในเกณฑ์ดีครับ ทั้งฝั่ง Robin Hood และฝั่ง Prince John กับ Sir Guy of Gisbourne ขุนนางพันธมิตร บทสมทบเรียกเสียงหัวเราะต่างก็ทำหน้าที่กันได้ดี ไม่ได้เป็นส่วนเกินของหนังแต่อย่างใด เรียกว่าถูกแทรกเข้ามาในหนังได้ลงตัวครับ
ตัวหนังได้เข้าชิงออสการ์ปี 1939 ทั้งสิ้น 4 รางวัล และคว้ามาครองได้ 3 รางวัลคือ Best Art Direction, Best Film Editing และ Best Music, Original Score ผมการันตีว่าคู่ควรทุกรางวัลโดยเฉพาะ Art Direction เนี่ย ไม่ได้ไม่รู้จะว่ายังไงละครับ แค่ฉากในวังก็เอาออสการ์ไปกอดละครับ รางวัลที่หนังพลาดไปคือ Best Picture ซึ่งปีนั้นตกเป็นของ You Can't Take It with You ผลงาน Frank Capra (ถ้ามีโอกาสคงต้องหามาดูแน่ ๆ)
หลายท่านคงเคยผ่านตา Robin Hood มากันบ้างแล้ว ถ้ามีโอกาสก็ลองชมฉบับสุดคลาสสิกปี 1938 กันบ้างนะครับ ผมการันตีความยอดเยี่ยมเลยครับ
10/10
ฝากเพจรีวิวหนังไว้ด้วยนะครับ ทั้งหนังใหม่หนังคลาสสิก https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms