ซีอีโอ Min-Liang Tan แห่ง Razer ได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายผ่านทางหน้าเฟสบุ๊คเพจของบริษัท ตัดสินใจปิดรับออร์เดอร์เป็นการชั่วคราว หลังยอดสั่งจองสูงเกินกว่าขอบเขตที่สามารถจะจัดหาให้ได้
โดยหลังจากที่เปิดให้สั่งจองแท๊บเล็ตเกม Razer Edge Pro ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็พบว่า มียอดความต้องการซื้อสูงเกินคาดการณ์ ทำให้ทางต้นสังกัดตัดสินใจที่จะปิดรับจองออร์เดอร์เป็นการชั่วคราว เนื่องจากยอดจองที่ได้รับเข้ามา สูงเกินกว่าสต็อกที่มีอยู่ โดย นาย Min-Liang Tan กล่าว "ทางเราได้หยุดรับการจองพรีออร์เดอร์สำหรับแท๊บเล็ต Razer Edge Pro แล้ว หลังยอดจองเกินกว่ากำลังผลิตของเรา (ซึ่งรวมถึงสต็อกที่มีทั้งหมดสำหรับการจำหน่ายในหลายเดือน) ทางเรากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้กระบวนการผลิตของเราสามารถเพิ่มยอดและตอบสนองความต้องการได้ ดังนั้นโปรดอดทนรอ"
อนึ่ง Razer ได้นำเสนอแท๊บเล็ต Razer Edge ออกมา 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน และรุ่น Pro โดยถึงแม้ในรุ่น Pro จะปิดรับการจองเนื่องจากยอดที่สูงเกินโควต้าดังกล่าวไปแล้ว แต่ในรุ่นมาตรฐาน ยังเปิดให้มีการสั่งจองล่วงหน้าได้ตามปกติ (แต่มีจำนวนจำกัด) โดย Razer Edge ในรุ่นมาตรฐาน จะใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5 และมีฮาร์ดไดรฟ์ SSD ขนาด 64GB (ราคา 999เหรียญสหรัฐฯ) ในขณะที่รุ่น Pro จะถูกขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7 และมีฮาร์ดไดรฟ์ SSD ขนาด 128GB (ราคา 1,299เหรียญสหรัฐฯ) และ 256GB (ราคา 1,449เหรียญสหรัฐฯ) โดยจะยังมีการจำหน่ายอุปกรณ์เสริมแยกต่างหากอีกด้วย
ที่มา CNET
ปิดรับจอง Razer Edge Pro หลังยอดสั่งจองสูงเกินโควต้า
โดยหลังจากที่เปิดให้สั่งจองแท๊บเล็ตเกม Razer Edge Pro ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็พบว่า มียอดความต้องการซื้อสูงเกินคาดการณ์ ทำให้ทางต้นสังกัดตัดสินใจที่จะปิดรับจองออร์เดอร์เป็นการชั่วคราว เนื่องจากยอดจองที่ได้รับเข้ามา สูงเกินกว่าสต็อกที่มีอยู่ โดย นาย Min-Liang Tan กล่าว "ทางเราได้หยุดรับการจองพรีออร์เดอร์สำหรับแท๊บเล็ต Razer Edge Pro แล้ว หลังยอดจองเกินกว่ากำลังผลิตของเรา (ซึ่งรวมถึงสต็อกที่มีทั้งหมดสำหรับการจำหน่ายในหลายเดือน) ทางเรากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้กระบวนการผลิตของเราสามารถเพิ่มยอดและตอบสนองความต้องการได้ ดังนั้นโปรดอดทนรอ"
อนึ่ง Razer ได้นำเสนอแท๊บเล็ต Razer Edge ออกมา 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน และรุ่น Pro โดยถึงแม้ในรุ่น Pro จะปิดรับการจองเนื่องจากยอดที่สูงเกินโควต้าดังกล่าวไปแล้ว แต่ในรุ่นมาตรฐาน ยังเปิดให้มีการสั่งจองล่วงหน้าได้ตามปกติ (แต่มีจำนวนจำกัด) โดย Razer Edge ในรุ่นมาตรฐาน จะใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5 และมีฮาร์ดไดรฟ์ SSD ขนาด 64GB (ราคา 999เหรียญสหรัฐฯ) ในขณะที่รุ่น Pro จะถูกขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7 และมีฮาร์ดไดรฟ์ SSD ขนาด 128GB (ราคา 1,299เหรียญสหรัฐฯ) และ 256GB (ราคา 1,449เหรียญสหรัฐฯ) โดยจะยังมีการจำหน่ายอุปกรณ์เสริมแยกต่างหากอีกด้วย
ที่มา CNET