จาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/190413
ดื่มนมเปรี้ยวแทบช็อกเจอถุงมือเน่า
วันพุธที่ 13 มีนาคม 2556 เวลา 19:46 น.
เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (13 มี.ค.) น.ส.แสงภู ม้งหรือน.ส.เพ็ชร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 94/10 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง อาชีพแม่บ้าน ได้นำกล่องนม โยเกิร์ตพร้อมดื่มยูเอชที รสผลไม้รวม ยี่ห้อหนึ่ง บรรจุ 180 มล. ให้ผู้สื่อข่าวดูหลังจากพบว่า ภายในกล่องนมมีสิ่งแปลกปลอม ลักษณะเป็นเหมือนชิ้นหนังไก่ย่นๆ สีเขียว กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากสัตว์เน่า อยู่ภายในกล่องนม และที่ฝากล่องก็มีเหมือนคราบเชื้อราสีเขียวเกาะติดอยู่
โดย น.ส.เพ็ชร กล่าวว่า ตนซื้อนมกล่องยี่ห้อดังกล่าวมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง 2 แพ็ก แพ็กละ 4 กล่อง ตั้งแต่เมื่อยี่สิบวันที่ผ่านมา จากนั้นได้นำแพ็กหนึ่งใส่ตู้เย็น เพื่อเอาไว้กิน ส่วนอีกแพ็กยังไม่เก็บเข้าตู้เย็น แต่เก็บไว้ในตู้เก็บของธรรมดา จนกระทั่งได้หยิบจากในตู้เย็นมาเจาะดื่มไปทีละกล่อง โดยดื่มไปแล้ว 2 กล่อง พอมาถึงวันนี้ได้หยิบกล่องที่ 3 ออกมาจากตู้เย็นเพื่อเจาะดื่มอีก ปรากฏว่าเมื่อดื่มได้ 2 ครั้งติดต่อกัน รู้สึกคล้ายกลิ่นเหม็นเน่าของซากสัตว์จึงบ้วนทิ้ง จากนั้นจึงเทน้ำนมที่เหลือทิ้งพบว่าเป็นสีเขียวขุ่น และได้ใช้มีดกรีดปากกล่องเปิดออกมาดูว่าข้างในว่าเป็นอย่างไร ก็พบสิ่งแปลกปลอมลักษณะดังกล่าวอยู่ในกล่อง และมีกลิ่นเหม็นเน่า จึงเรียกเพื่อนห้องข้างๆมาดู ทุกคนได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนกัน และต่างก็มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนั้นบริเวณฝากล่องที่เปิดดูพบลักษณะเหมือนเชื้อรา สีเขียวๆเช่นกัน แต่ในส่วนของวันเดือนปีที่ระบุข้างกล่องก็พบว่า ยังไม่หมดอายุ เพราะระบุเวลา ควรบริโภคก่อนวันที่ 05 / 07 / 13 และมีเลขหมาย อย.ระบุถูกต้อง
น.ส.เพ็ชร กล่าวต่อว่า เมื่อพบเหตุดังกล่าว จึงโทรศัพท์ไปที่ศูนย์ข้อมูลผู้บริโภค 02 – 8812222 ที่ระบุไว้ข้างกล่อง คนรับสายเสนอให้ 3,000 บาท หรือบอกว่าหากท้องเสีย ปวดท้องให้ไปหาหมอ พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล แต่ขอร้องอย่าไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน แต่ตนเห็นว่า เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดกับผู้บริโภคที่รับประทานนมยี่ห้อนี้มาตลอด และยังมีลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริโภคทั่วไปอีกทั่วประเทศ ที่จะต้องได้รับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และพร้อมจะเข้าร้องต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตรังต่อไป เพื่อเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตมีความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้บริโภคมากกว่านี้ และคงไม่ดื่มนมยี่ห้อนี้อีกต่อไป
ไม่ทราบว่ามีใครอ่านเจอข่าวนี้หรือยัง " ดื่มนมเปรี้ยวแทบช็อกเจอถุงมือเน่า"
ดื่มนมเปรี้ยวแทบช็อกเจอถุงมือเน่า
วันพุธที่ 13 มีนาคม 2556 เวลา 19:46 น.
เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (13 มี.ค.) น.ส.แสงภู ม้งหรือน.ส.เพ็ชร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 94/10 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง อาชีพแม่บ้าน ได้นำกล่องนม โยเกิร์ตพร้อมดื่มยูเอชที รสผลไม้รวม ยี่ห้อหนึ่ง บรรจุ 180 มล. ให้ผู้สื่อข่าวดูหลังจากพบว่า ภายในกล่องนมมีสิ่งแปลกปลอม ลักษณะเป็นเหมือนชิ้นหนังไก่ย่นๆ สีเขียว กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากสัตว์เน่า อยู่ภายในกล่องนม และที่ฝากล่องก็มีเหมือนคราบเชื้อราสีเขียวเกาะติดอยู่
โดย น.ส.เพ็ชร กล่าวว่า ตนซื้อนมกล่องยี่ห้อดังกล่าวมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง 2 แพ็ก แพ็กละ 4 กล่อง ตั้งแต่เมื่อยี่สิบวันที่ผ่านมา จากนั้นได้นำแพ็กหนึ่งใส่ตู้เย็น เพื่อเอาไว้กิน ส่วนอีกแพ็กยังไม่เก็บเข้าตู้เย็น แต่เก็บไว้ในตู้เก็บของธรรมดา จนกระทั่งได้หยิบจากในตู้เย็นมาเจาะดื่มไปทีละกล่อง โดยดื่มไปแล้ว 2 กล่อง พอมาถึงวันนี้ได้หยิบกล่องที่ 3 ออกมาจากตู้เย็นเพื่อเจาะดื่มอีก ปรากฏว่าเมื่อดื่มได้ 2 ครั้งติดต่อกัน รู้สึกคล้ายกลิ่นเหม็นเน่าของซากสัตว์จึงบ้วนทิ้ง จากนั้นจึงเทน้ำนมที่เหลือทิ้งพบว่าเป็นสีเขียวขุ่น และได้ใช้มีดกรีดปากกล่องเปิดออกมาดูว่าข้างในว่าเป็นอย่างไร ก็พบสิ่งแปลกปลอมลักษณะดังกล่าวอยู่ในกล่อง และมีกลิ่นเหม็นเน่า จึงเรียกเพื่อนห้องข้างๆมาดู ทุกคนได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนกัน และต่างก็มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนั้นบริเวณฝากล่องที่เปิดดูพบลักษณะเหมือนเชื้อรา สีเขียวๆเช่นกัน แต่ในส่วนของวันเดือนปีที่ระบุข้างกล่องก็พบว่า ยังไม่หมดอายุ เพราะระบุเวลา ควรบริโภคก่อนวันที่ 05 / 07 / 13 และมีเลขหมาย อย.ระบุถูกต้อง
น.ส.เพ็ชร กล่าวต่อว่า เมื่อพบเหตุดังกล่าว จึงโทรศัพท์ไปที่ศูนย์ข้อมูลผู้บริโภค 02 – 8812222 ที่ระบุไว้ข้างกล่อง คนรับสายเสนอให้ 3,000 บาท หรือบอกว่าหากท้องเสีย ปวดท้องให้ไปหาหมอ พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล แต่ขอร้องอย่าไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน แต่ตนเห็นว่า เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดกับผู้บริโภคที่รับประทานนมยี่ห้อนี้มาตลอด และยังมีลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริโภคทั่วไปอีกทั่วประเทศ ที่จะต้องได้รับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และพร้อมจะเข้าร้องต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตรังต่อไป เพื่อเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตมีความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้บริโภคมากกว่านี้ และคงไม่ดื่มนมยี่ห้อนี้อีกต่อไป