การพูดลับหลังคนอ่ืน
ใม่ได้ทำให้คุณดูรู้เร่ืองคนอ่ืนเยอะ
แต่มันทำให้คุณดู
เป็นคนหักหลังคนอ่ืนมากกว่า
เครดิต โปร่งใส
และตัวเองก็เพิ่งจะรู้ว่า การเป็นซุปตาร์คนดังมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง หึหึ!!!!!
ใช้ชีวิตมานาน..เจอะ เจออะไรมาก็มากมายแต่ไม่เคยเจ็บปวดแสบถึงทรวงได้เท่าครั้งนี้..
นอกจาก..ต้นปีที่แล้ว ต้องย้ายออกมาจากบ้านผู้ชายที่มีแพลนว่าจะแต่งงานกันในปลายปี..
เพราะผู้ชายคนนั้นกลับไปกินของเก่า ของเน่าๆ..
คือดิฉันจับได้ว่าเค้ายังแอบติดต่อกับสาวนั่งดริ้งค์ นั่งบาร์ คลับไฮโซ.. แถมไม่ใช่แค่คนเดียว
แล้วดันมารู้อีกว่า..ผู้ยิ๋งคนนึงมีเสี่ยคนนึงเลี้ยง..แถมเคยให้เงินผู้ชายคนนี้ของดิฉันด้วย (เอ..มันเป็นแมงปีกแข็งป่าว)
เวลาพูดถึงผู้หญิง มันก็โกรธ หาว่าไปดูถูกเค้า เธอรู้มั๊ย ว่าผู้หญิงเหล่านี้ เดือนนึงชีมีรายได้คนละเท่าไร
เอิ่ม..ตรูไม่อยากรู้และไม่คิดว่าจะรู้ไปเพื่ออะไร.....และไม่สนใจด้วยว่าแหล่งที่มาของรายได้
เหล่านั้นมันมาจากไหน...
โอ๊ย..อยากจะบอกว่า จากความรักมันกลายมาเป็นความโกรธ. สุดท้ายคือเคียดแค้น
วันสุดท้ายที่ย้ายออกมา มองบ้านไปรอบๆ.....แล้วขออำลา แต่ก็อดใจหายไม่ได้
บ้านที่คิดเสมอว่า..เราจะใช้ชีวิตด้วยกัน สร้างครอบครัว เป็นที่พบปะสังสรรญาติพี่น้อง-
เพื่อนฝูง..จะทำ Built-in ตรงนั้น ตรงนี้..ร่วมสร้างด้วยกันมา...
มันจบลงแล้วจริงๆ..
วันนั้นให้คนงาน 7 คนมาขนของ-เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นชื่อตัวเอง(คือจ่ายเอง รูดบัตรเอง)..
แม้กระทั่ง จาน-ชาม เมลานีน ดิฉันยังขนกลับเลย..ได้ไง เซตนึงมีไม่ต่ำกว่า 3-4 พัน --"
และแค่ระยะเวลาไม่นานที่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ดิฉันก็ได้รู้ว่า ตัวเองได้จ่ายเงินออกจากบัตร ออกจากบัญขี
ร่วมๆ 3 แสน (โถ..นังโง่เอ๊ย) --"
และรู้สึกตาสว่างเลยว่า..
ตรู..เหมือนคนโง่ เหมือนโดนหักหลัง..มันเจ็บจริงๆ....
แต่เชื่อมั๊ยคะ ดิฉันใช้เวลาเพียงอาทิตย์กว่าๆ..ตัดใจจากผู้ชายเลวๆคนนั้นได้สนิท. แทบไม่หลงเหลือรอยแผล
เพื่อนสนิท (ที่ยังเห็นใจกัน)...ถามว่า ทำไมแกเก่งวะ ? ไหนบอกว่ารักมากจะแต่งงานกันไง ?
บลาๆ....อีกมากมายคำถาม
ดิฉันได้ตอบไปว่า..ก่อนที่จะย้ายของออกมา ได้ตั้งคำถาม ถามตัวเองหลายครั้งว่า..
วันนี้ต้องการอะไร ?..อีก 10 ปี 20 ปีเล่า ?
ยังต้องการคนรู้ใจ คนข้างกายมั๊ย?ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นแบบไหน ?
บอกเลยค่ะ ดิฉันไม่มีสเป็ค..ขอแค่ รักกัน ดูแลกัน เสมอต้นเสมอปลาย. และที่สำคัญมากๆคือ...
ขอให้ซื่อสัตย์ต่อกัน..แค่นี้พอ ได้มั๊ย? มันคงจะดูยากเกินไป ใช่มั๊ย ?
พอดิฉันถามตัวเอง แล้วก็ลองตอบตัวเอง (มิได้เป็นบร้านะคะ) เช่น..
ถ้าคุณแฟนกลับบ้าน ตี 3 ตี 4 หรือเช้า...บ่อยๆ
แถมเป็นวันที่เรากลับมาอยู่บ้านซะด้วย (อาชีพดิฉันเดินทางบ่อย บางเดือนงานมากๆ
กลับมานอนบ้านแค่อาทิตย์ละ คืน 2 คืนด้วยซ้ำ)....แต่ก็แทบไม่ได้คุยกัน..
เอ..พร่ำมาเยอะ เด๋วจะเข้าเรื่องนะคะ (บางท่านอาจงงว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคำนินทา เกี่ยวแน่ค่ะ อิอิ)
ขอตัวไปทำงานแป๊ป เด๋วมาเล่าต่อค่าา
อยากจะบอกว่า..ที่มีวันนี้เพราะคำนินทา
ใม่ได้ทำให้คุณดูรู้เร่ืองคนอ่ืนเยอะ
แต่มันทำให้คุณดู
เป็นคนหักหลังคนอ่ืนมากกว่า
เครดิต โปร่งใส
และตัวเองก็เพิ่งจะรู้ว่า การเป็นซุปตาร์คนดังมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง หึหึ!!!!!
ใช้ชีวิตมานาน..เจอะ เจออะไรมาก็มากมายแต่ไม่เคยเจ็บปวดแสบถึงทรวงได้เท่าครั้งนี้..
นอกจาก..ต้นปีที่แล้ว ต้องย้ายออกมาจากบ้านผู้ชายที่มีแพลนว่าจะแต่งงานกันในปลายปี..
เพราะผู้ชายคนนั้นกลับไปกินของเก่า ของเน่าๆ..
คือดิฉันจับได้ว่าเค้ายังแอบติดต่อกับสาวนั่งดริ้งค์ นั่งบาร์ คลับไฮโซ.. แถมไม่ใช่แค่คนเดียว
แล้วดันมารู้อีกว่า..ผู้ยิ๋งคนนึงมีเสี่ยคนนึงเลี้ยง..แถมเคยให้เงินผู้ชายคนนี้ของดิฉันด้วย (เอ..มันเป็นแมงปีกแข็งป่าว)
เวลาพูดถึงผู้หญิง มันก็โกรธ หาว่าไปดูถูกเค้า เธอรู้มั๊ย ว่าผู้หญิงเหล่านี้ เดือนนึงชีมีรายได้คนละเท่าไร
เอิ่ม..ตรูไม่อยากรู้และไม่คิดว่าจะรู้ไปเพื่ออะไร.....และไม่สนใจด้วยว่าแหล่งที่มาของรายได้
เหล่านั้นมันมาจากไหน...
โอ๊ย..อยากจะบอกว่า จากความรักมันกลายมาเป็นความโกรธ. สุดท้ายคือเคียดแค้น
วันสุดท้ายที่ย้ายออกมา มองบ้านไปรอบๆ.....แล้วขออำลา แต่ก็อดใจหายไม่ได้
บ้านที่คิดเสมอว่า..เราจะใช้ชีวิตด้วยกัน สร้างครอบครัว เป็นที่พบปะสังสรรญาติพี่น้อง-
เพื่อนฝูง..จะทำ Built-in ตรงนั้น ตรงนี้..ร่วมสร้างด้วยกันมา...
มันจบลงแล้วจริงๆ..
วันนั้นให้คนงาน 7 คนมาขนของ-เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นชื่อตัวเอง(คือจ่ายเอง รูดบัตรเอง)..
แม้กระทั่ง จาน-ชาม เมลานีน ดิฉันยังขนกลับเลย..ได้ไง เซตนึงมีไม่ต่ำกว่า 3-4 พัน --"
และแค่ระยะเวลาไม่นานที่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ดิฉันก็ได้รู้ว่า ตัวเองได้จ่ายเงินออกจากบัตร ออกจากบัญขี
ร่วมๆ 3 แสน (โถ..นังโง่เอ๊ย) --"
และรู้สึกตาสว่างเลยว่า..
ตรู..เหมือนคนโง่ เหมือนโดนหักหลัง..มันเจ็บจริงๆ....
แต่เชื่อมั๊ยคะ ดิฉันใช้เวลาเพียงอาทิตย์กว่าๆ..ตัดใจจากผู้ชายเลวๆคนนั้นได้สนิท. แทบไม่หลงเหลือรอยแผล
เพื่อนสนิท (ที่ยังเห็นใจกัน)...ถามว่า ทำไมแกเก่งวะ ? ไหนบอกว่ารักมากจะแต่งงานกันไง ?
บลาๆ....อีกมากมายคำถาม
ดิฉันได้ตอบไปว่า..ก่อนที่จะย้ายของออกมา ได้ตั้งคำถาม ถามตัวเองหลายครั้งว่า..
วันนี้ต้องการอะไร ?..อีก 10 ปี 20 ปีเล่า ?
ยังต้องการคนรู้ใจ คนข้างกายมั๊ย?ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นแบบไหน ?
บอกเลยค่ะ ดิฉันไม่มีสเป็ค..ขอแค่ รักกัน ดูแลกัน เสมอต้นเสมอปลาย. และที่สำคัญมากๆคือ...
ขอให้ซื่อสัตย์ต่อกัน..แค่นี้พอ ได้มั๊ย? มันคงจะดูยากเกินไป ใช่มั๊ย ?
พอดิฉันถามตัวเอง แล้วก็ลองตอบตัวเอง (มิได้เป็นบร้านะคะ) เช่น..
ถ้าคุณแฟนกลับบ้าน ตี 3 ตี 4 หรือเช้า...บ่อยๆ
แถมเป็นวันที่เรากลับมาอยู่บ้านซะด้วย (อาชีพดิฉันเดินทางบ่อย บางเดือนงานมากๆ
กลับมานอนบ้านแค่อาทิตย์ละ คืน 2 คืนด้วยซ้ำ)....แต่ก็แทบไม่ได้คุยกัน..
เอ..พร่ำมาเยอะ เด๋วจะเข้าเรื่องนะคะ (บางท่านอาจงงว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคำนินทา เกี่ยวแน่ค่ะ อิอิ)
ขอตัวไปทำงานแป๊ป เด๋วมาเล่าต่อค่าา