สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ผมก็จบป.ตรีมาจากม.เกษตรบางเขน เงินเดือนเริ่มต้นก็หมื่นกว่าบาท ทำงานประจำได้ 2 ปี เงินเดือนขึ้นปีละ 5-7 เปอร์เซนต์ คุณคิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า คุณจะมีรายได้เท่าไหร่ครับ ตอนนั้นผมเลือกที่จะลาออกจากงานประจำ แล้วไปศึกษาการซ่อมรถที่อู่แท็กซี่ (พูดง่ายๆว่าไปเป็นช่างซ่อมแท็กซี่) ได้เงินเดือน 8,000 บาท ตอนนั้นก็มีแต่คนพูดอย่างนี้แหละครับว่าจบตั้งปริญญาตรี แล้วมาเป็นช่างซ่อมแท็กซี่ทำไม แต่ผมมีคำตอบของผมอยู่ในใจแล้วครับ ทุกวันนี้ผมมีอู่แท็กซี่เป็นของตัวเอง มีแท็กซี่ให้เขาเช่า 19 คัน เปิดมา 2 ปีครึ่งแล้วครับ จขกท. ถ้าสนใจว่าผมทำได้ยังไงก็ติดต่อผมมาได้ครับ middleway1981@gmail.com ผมชื่ออนุวัตครับ อย่าให้คำว่าปริญญาตรีมาเป็นกับดักทางความคิดครับ ตอนนี้ผมอายุ 32 ปีครับ ทุกวันนี้ผมจะพูดกะคนรอบข้างผมเสมอๆว่า ผมเสียดายเวลา 4 ปีในมหาวิทยาลัยมาก เพราะผมเสียเวลา 4 ปี เพื่อแลกกะกระดาษ A4 หนึ่งใบ ที่ จขกท. บอกว่ามีความรู้เรื่องการซ่อมรถอยู่บ้างนั้น ยิ่งเข้าทางเลยครับ จาก 1 คันวันนี้ อีกหน่อยก็มีเป็นสิบเป็นร้อยคันได้ครับ เทียบกับเงินเดือนที่ขึ้นปีละ 5-7 เปอร์เซนต์ดูครับ
ความคิดเห็นที่ 18
เราก้เรียนจบปริญญาตรี มาขายของอยู่บ้านเหมือนกัน
ทำงานบริษัท เครือข่ายโทรศัพท์อยู่ประมาน 2 ปี เผอิญเป็นคนไม่ค่อยยอมใคร ถ้าใครทำผิด ทำไม่ดีกะเรา เราสู้ตลอดรับไม่ค่อยได้
ตอนนี้ถามว่าสบายดีไหม??? ค่ะ สบายดี บางทีการกลับคืนสู่้สามัญ มันทำใ้ห้เราเป็นมนุษย์มากขึ้น คิดได้!!!!!! สามัญสำนึกไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คุณจบระดับอะไร ???? ตอนเราทำงาน เราบ้าช้อปปิ้ง ซื้อของไร้สาระไปวันๆ หนี้บัตรเครดิต ตอนนี้ก้ยังต้องตามใช้มันอยู่ พออยู่บ้านคิดได้ มันก้เป็นแค่้วัตถุนิยมเท่านั้น ตัดได้หมดแระ สบายใจค่ะ ไม่ต้องทำท่า "ข้าเงินเดือนเยอะ ข้าต้องโชว์แอคเซคเซอรี่ ข้าต้องแต่งตัวดีตลอด ข้าต้องใช้ของมีราคา ข้าต้องมีรถขับไปทำงาน เด่วอายเพื่อนที่บริษัท" ตอนนี้แต่งตัวธรรมด๊า ธรรมดา ไปนั่งกินข้าว ไปซื้อของ คนก้พากันมอง แบบดูถูก เราชินแล้วค่ะ เพราะเรามีเงินสดในกระเป๋า จะซื้ออะไรที่เราอยากได้ อยากกินก้ได้ ไม่ต้องไปรูดบัตรให้เป็นหนี้ เป็นสิน อย่าดูคนแค่ภายนอกกันเรยค่ะ >>>ชีวิตเ้ป็นของเรา<<<<<
ถามถึงรายได้ แสนนิดๆ หักโน่น นั่น นี่ ก้อยู่ตจว. แบบเหลือกัน เหลือใช้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้ตัวเอง แต่ว่าเหนื่อยหน่อย ปิดร้านไปไหนก้ลำบาก เพราะลูกค้ามีตลอด ถ้าคิดอีกแง่ เราก้ไม่ต้องใช้เงิน ไปไหนมาไหน ก้ต้องใช้เงินอยู่แร้ว ถ้าพูดถึงคิดแค่นี้หรอ???? เราไม่คิดแค่นี้หรอกค่ะ เรามีแผนที่จะขยายออกไปเรื่อยๆค่ะ อย่างว่า ทุกคนต้องมีประสบการณ์เจ็บบ้าง ล้มบ้าง แต่ทำให้เราโตขึ้นมองเห็นอะไรมากขึ้น เราไม่ได้คิดต๊อกต๊อย ก้พอมีกินแค่นี้หรอกค่ะ
ขอแนะนำเจ้าของกระทู้ ลองทำงานบริษัทดูสักปี สองปี ถ้ามันไม่ใช่จิงๆ ก้ค่อยว่ากันค่ะ
พี่ที่เราสนิทก้จบปริญญาตรีมา (ขอบอกก่อนเรยว่า เรากะพี่จบม.รัฐ อันดับต้นๆ ของประเทศ) ตอนนี้แกขับรถตู้อยู่ค่ะ
รายได้แน่ๆ 60,000++ เฉลี่ยก้ วันละ สองพันขึ้น แล้วแต่ว่าเราจะขยันวิ่งแค่ไหน ส่งค่างวดรถตู้ ก้แล้วแต่เงินดาวน์ แค่แก๊สวันละไม่เท่าไหร่ วันไหนได้เหมาไป ตจว. ก้ยิ้มรับ เงินมากกว่าแน่ๆ
เราทุกคนก้ออกจากงานประจำ ไม่เคยคิดแค่พอแค่นี้หรอกค่ะ เราต้องสู้ไปเรื่อยๆ มัวมานั่งคิดไม่มีประกันสังคม รักษาพยาบาลเสียเงิน เราก้ซื้อประกันชีวิต ที่เป็นเงินออม กับค่ารักษาพยาบาลค่ะ เท่านี้เราก้มีเงินเก็บเหมือนกัน มันอยู่ที่คนว่ารู้จักเก็บเงินเป็นรึป่าวแค่นั้นเิอง
..................................ไม่บ้า ไม่กล้า ไม่เสี่ยง ก้ไม่รู้ว่าจะรวยเมื่อไหร่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ทำงานบริษัท เครือข่ายโทรศัพท์อยู่ประมาน 2 ปี เผอิญเป็นคนไม่ค่อยยอมใคร ถ้าใครทำผิด ทำไม่ดีกะเรา เราสู้ตลอดรับไม่ค่อยได้
ตอนนี้ถามว่าสบายดีไหม??? ค่ะ สบายดี บางทีการกลับคืนสู่้สามัญ มันทำใ้ห้เราเป็นมนุษย์มากขึ้น คิดได้!!!!!! สามัญสำนึกไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คุณจบระดับอะไร ???? ตอนเราทำงาน เราบ้าช้อปปิ้ง ซื้อของไร้สาระไปวันๆ หนี้บัตรเครดิต ตอนนี้ก้ยังต้องตามใช้มันอยู่ พออยู่บ้านคิดได้ มันก้เป็นแค่้วัตถุนิยมเท่านั้น ตัดได้หมดแระ สบายใจค่ะ ไม่ต้องทำท่า "ข้าเงินเดือนเยอะ ข้าต้องโชว์แอคเซคเซอรี่ ข้าต้องแต่งตัวดีตลอด ข้าต้องใช้ของมีราคา ข้าต้องมีรถขับไปทำงาน เด่วอายเพื่อนที่บริษัท" ตอนนี้แต่งตัวธรรมด๊า ธรรมดา ไปนั่งกินข้าว ไปซื้อของ คนก้พากันมอง แบบดูถูก เราชินแล้วค่ะ เพราะเรามีเงินสดในกระเป๋า จะซื้ออะไรที่เราอยากได้ อยากกินก้ได้ ไม่ต้องไปรูดบัตรให้เป็นหนี้ เป็นสิน อย่าดูคนแค่ภายนอกกันเรยค่ะ >>>ชีวิตเ้ป็นของเรา<<<<<
ถามถึงรายได้ แสนนิดๆ หักโน่น นั่น นี่ ก้อยู่ตจว. แบบเหลือกัน เหลือใช้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้ตัวเอง แต่ว่าเหนื่อยหน่อย ปิดร้านไปไหนก้ลำบาก เพราะลูกค้ามีตลอด ถ้าคิดอีกแง่ เราก้ไม่ต้องใช้เงิน ไปไหนมาไหน ก้ต้องใช้เงินอยู่แร้ว ถ้าพูดถึงคิดแค่นี้หรอ???? เราไม่คิดแค่นี้หรอกค่ะ เรามีแผนที่จะขยายออกไปเรื่อยๆค่ะ อย่างว่า ทุกคนต้องมีประสบการณ์เจ็บบ้าง ล้มบ้าง แต่ทำให้เราโตขึ้นมองเห็นอะไรมากขึ้น เราไม่ได้คิดต๊อกต๊อย ก้พอมีกินแค่นี้หรอกค่ะ
ขอแนะนำเจ้าของกระทู้ ลองทำงานบริษัทดูสักปี สองปี ถ้ามันไม่ใช่จิงๆ ก้ค่อยว่ากันค่ะ
พี่ที่เราสนิทก้จบปริญญาตรีมา (ขอบอกก่อนเรยว่า เรากะพี่จบม.รัฐ อันดับต้นๆ ของประเทศ) ตอนนี้แกขับรถตู้อยู่ค่ะ
รายได้แน่ๆ 60,000++ เฉลี่ยก้ วันละ สองพันขึ้น แล้วแต่ว่าเราจะขยันวิ่งแค่ไหน ส่งค่างวดรถตู้ ก้แล้วแต่เงินดาวน์ แค่แก๊สวันละไม่เท่าไหร่ วันไหนได้เหมาไป ตจว. ก้ยิ้มรับ เงินมากกว่าแน่ๆ
เราทุกคนก้ออกจากงานประจำ ไม่เคยคิดแค่พอแค่นี้หรอกค่ะ เราต้องสู้ไปเรื่อยๆ มัวมานั่งคิดไม่มีประกันสังคม รักษาพยาบาลเสียเงิน เราก้ซื้อประกันชีวิต ที่เป็นเงินออม กับค่ารักษาพยาบาลค่ะ เท่านี้เราก้มีเงินเก็บเหมือนกัน มันอยู่ที่คนว่ารู้จักเก็บเงินเป็นรึป่าวแค่นั้นเิอง
..................................ไม่บ้า ไม่กล้า ไม่เสี่ยง ก้ไม่รู้ว่าจะรวยเมื่อไหร่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แสดงความคิดเห็น
ปริญญาตรีจบใหม่ แต่อยากขับแท็กซี่เป็นอาชีพหลัก ขอความคิดเห็นหน่อยครับ