แฟนกับเราเป็นเพื่อนสนิทกันมา 10 ปีแร้วถึงได้มาคบกันเมื่อปีที่แล้ว แฟนเป็นจ่าทหารเรือคะ เงินเดือนหมื่นเดียว
ปัญหามันเกิดตั้งแต่แฟนมาถามเรื่องสินสอดกับแม่นี่แหละคะ แม่เรียก 500,000฿ กับทอง 5 บาท และยังต้องเลื่อนขั้นออกจาก จ่า ให้ได้ก่อนถึงจะให้แต่ง
แฟนเราก็หน้าเจื้อนๆเดินออกมาบอกเรา เราเลยบอกค่อยๆเก็บไปเดือนละ 3,000฿ ไหวมั้ย? แฟนก็ตกลงตามนั้น เก็บเงินทุกเดือน
แต่แม่เรานี่ชอบมาพูดกับเราบ่อยๆว่า
" พอแกเรียนจบมีงานทำ แกจะเจอคนอีกเยอะ"
"แกจะเข้ากันได้จริงๆหรอ แกดูไม่เหมาะกัน"
"ถ้าเกิดแกไปเจอคนที่ดีกว่านี้ รวยกว่านี้ แต่แกแต่งงานไปแร้ว แกจะเสียดาย เชื่อแม่สิ"
"ถ้าแกแต่งกับคนนี้ไปเมื่อไหร่จะรวย"
"แกจะไม่อิจฉาเพื่อนหรอ ถ้าเพื่อนแกมีบ้านหลังใหญ่ มีรถขับอะ"
เราฟังแล้วเรารู้สึกเสียใจยังไงบอกไม่ถูกอะคะ
เราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อ(พ่อแม่หย่ากันแต่อยู่บ้านเดียวกันคะ)
พ่อฟังแล้วก็หัวเราะ บอกแค่ "รักกันจริงมั้ยล้ะ แฟนเป็นคนดีมั้ย เหมือนพ่อรึเปล่า? "
เราบอกพ่อว่า "แฟนเป็นคนดีมาตลอดตั้งแต่รู้จักกันมา เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยว พ่อว่าแค่นี้พอมั้ย?"
พ่อเลยบอกว่า " แค่ดีกว่าพ่อพ่อก็โล่งใจแล้ว พ่อไม่ใช่คนดีอะไร แต่ถ้าลูกเจอคนที่ดีพ่อก็ช่วย ค่าสินสอด ค่าทอง ขาดเหลือเท่าไหร่มาบอก
แต่แฟนต้องหาอาชีพเสริมน้ะ ทำตัวให้จนก่อนแร้วจะรวย "
แล้วพ่อก็บอกจะยกบ้านให้ 1 หลัง เป็นของขวัญที่เราได้แต่งงาน เพราะพ่อเป็นห่วงเรา กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นเราใส่ชุดเจ้าสาว
เพราะเราเคยลั่นปากไว้ว่าจะไม่แต่งงาน (แต่ที่เปลี่ยนความคิดเพราะแฟนคนนี้คะ)
เรื่องเงินทองทุกวันนี้ atm แฟนให้เราเก็บ เราให้รายอาทิตย์ๆละ 500฿ (แฟนจะมาค้างที่บ้านเรา2อาทิตย์ครั้งคะ) ค่าน้ำมัน 100฿ (แฟนขี่มอเตอร์ไซน์ไปทำงานคะ)
สลิปเงินเดือนก็ให้เราดูทุกเดือน บิลค่าโทรศัพท์เราก็จัดการ
พาเราไปหาพ่อแม่ ญาติพี่น้องทุกคนและทุกคนก็รักและเอ็นดูเราเหมือนลูกเลยคะ เพราะที่บ้านแฟนไม่มีลูกหลานผู้หญิงเลย
(บ้านแฟนเป็นบ้านที่ปลูกบ้านอยู่รั้วเดียวกันคะ แล้วยายก็ตกปากว่ายายจะสร้างบ้านอีกหลังให้เป็นของขวัญรับหลานสะใภ้)
แฟนทำให้เราสบายใจที่คบด้วย และ คิดว่าต่อไปก็จะยังเป็นแบบนี้ เราเลยมั่นใจว่าจะได้แต่งกับคนนี้แน่ๆคะ เราไม่ได้กลัวลำบากนะค่ะ เราชอบอยู่ต่างจังหวัดมากกว่า ไม่วุ่นวายดี (แฟนทำงานอยู่สัตหีบ แต่เราเรียนอยู่กทมคะ) ตอนนี้เราก็ขายของด้วย เงินที่ได้ก็ค่าเทอม ค่ากินใช้ส่วนตัว เลิกขอที่บ้านตั้งแต่อายุ21 แล้วคะ
(ซึ้งทะเลาะกับแม่เรื่องนี้ตลอดเช่นกัน แม่บอกว่า ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่มั้ย ชั้นเลี้ยงแกให้แกลำบากหรอ แต่เราเคยทำตัวไม่ดีมาก่อน ไม่อยากเป็นภาระนะคะ )
แต่กับแม่เรา แม่มองเรื่องเงินทองเป็นสำคัญ ใจนึงเราคิดว่า แม่เป็นห่วงกลัวเราลำบากถ้าแต่งกันไป
แต่อีกใจก็คิดอกุศล เพราะแม่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ใช่มั้ย เพราะช่วงนึงพ่อเราเค้ากันเงินส่วนหนึ่งไว้ลงทุน ช่วงที่ยังไม่ออกผล แม่เลยต้องลำบาก
แต่พอหย่ากัน พ่อกลับสบาย แต่แม่ก็ยังต้องลำบากอยู่ (ถ้าจะว่าเราที่คิดแบบนี้ก็ไม่โกรธคะ)
แต่พ่อก็ซื้อทองให้แม่เสมอนะค่ะ แต่ฝากเราเอาไปให้แม่แทน ^^"
ขอโทษที่พิมยืดยาวนะค่ะ แต่เชื่อว่า ทุกๆคนคงอยากให้แฟนเราเข้ากับที่บ้านได้ใช้มั้ยค่ะ ^^
ขอบคุณที่อุส่าอ่านจนจบนะค่ะ
ทำบังไงดีค่ะ แม่ไม่ปลื้มแฟน
ปัญหามันเกิดตั้งแต่แฟนมาถามเรื่องสินสอดกับแม่นี่แหละคะ แม่เรียก 500,000฿ กับทอง 5 บาท และยังต้องเลื่อนขั้นออกจาก จ่า ให้ได้ก่อนถึงจะให้แต่ง
แฟนเราก็หน้าเจื้อนๆเดินออกมาบอกเรา เราเลยบอกค่อยๆเก็บไปเดือนละ 3,000฿ ไหวมั้ย? แฟนก็ตกลงตามนั้น เก็บเงินทุกเดือน
แต่แม่เรานี่ชอบมาพูดกับเราบ่อยๆว่า
" พอแกเรียนจบมีงานทำ แกจะเจอคนอีกเยอะ"
"แกจะเข้ากันได้จริงๆหรอ แกดูไม่เหมาะกัน"
"ถ้าเกิดแกไปเจอคนที่ดีกว่านี้ รวยกว่านี้ แต่แกแต่งงานไปแร้ว แกจะเสียดาย เชื่อแม่สิ"
"ถ้าแกแต่งกับคนนี้ไปเมื่อไหร่จะรวย"
"แกจะไม่อิจฉาเพื่อนหรอ ถ้าเพื่อนแกมีบ้านหลังใหญ่ มีรถขับอะ"
เราฟังแล้วเรารู้สึกเสียใจยังไงบอกไม่ถูกอะคะ
เราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อ(พ่อแม่หย่ากันแต่อยู่บ้านเดียวกันคะ)
พ่อฟังแล้วก็หัวเราะ บอกแค่ "รักกันจริงมั้ยล้ะ แฟนเป็นคนดีมั้ย เหมือนพ่อรึเปล่า? "
เราบอกพ่อว่า "แฟนเป็นคนดีมาตลอดตั้งแต่รู้จักกันมา เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยว พ่อว่าแค่นี้พอมั้ย?"
พ่อเลยบอกว่า " แค่ดีกว่าพ่อพ่อก็โล่งใจแล้ว พ่อไม่ใช่คนดีอะไร แต่ถ้าลูกเจอคนที่ดีพ่อก็ช่วย ค่าสินสอด ค่าทอง ขาดเหลือเท่าไหร่มาบอก
แต่แฟนต้องหาอาชีพเสริมน้ะ ทำตัวให้จนก่อนแร้วจะรวย "
แล้วพ่อก็บอกจะยกบ้านให้ 1 หลัง เป็นของขวัญที่เราได้แต่งงาน เพราะพ่อเป็นห่วงเรา กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นเราใส่ชุดเจ้าสาว
เพราะเราเคยลั่นปากไว้ว่าจะไม่แต่งงาน (แต่ที่เปลี่ยนความคิดเพราะแฟนคนนี้คะ)
เรื่องเงินทองทุกวันนี้ atm แฟนให้เราเก็บ เราให้รายอาทิตย์ๆละ 500฿ (แฟนจะมาค้างที่บ้านเรา2อาทิตย์ครั้งคะ) ค่าน้ำมัน 100฿ (แฟนขี่มอเตอร์ไซน์ไปทำงานคะ)
สลิปเงินเดือนก็ให้เราดูทุกเดือน บิลค่าโทรศัพท์เราก็จัดการ
พาเราไปหาพ่อแม่ ญาติพี่น้องทุกคนและทุกคนก็รักและเอ็นดูเราเหมือนลูกเลยคะ เพราะที่บ้านแฟนไม่มีลูกหลานผู้หญิงเลย
(บ้านแฟนเป็นบ้านที่ปลูกบ้านอยู่รั้วเดียวกันคะ แล้วยายก็ตกปากว่ายายจะสร้างบ้านอีกหลังให้เป็นของขวัญรับหลานสะใภ้)
แฟนทำให้เราสบายใจที่คบด้วย และ คิดว่าต่อไปก็จะยังเป็นแบบนี้ เราเลยมั่นใจว่าจะได้แต่งกับคนนี้แน่ๆคะ เราไม่ได้กลัวลำบากนะค่ะ เราชอบอยู่ต่างจังหวัดมากกว่า ไม่วุ่นวายดี (แฟนทำงานอยู่สัตหีบ แต่เราเรียนอยู่กทมคะ) ตอนนี้เราก็ขายของด้วย เงินที่ได้ก็ค่าเทอม ค่ากินใช้ส่วนตัว เลิกขอที่บ้านตั้งแต่อายุ21 แล้วคะ
(ซึ้งทะเลาะกับแม่เรื่องนี้ตลอดเช่นกัน แม่บอกว่า ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่มั้ย ชั้นเลี้ยงแกให้แกลำบากหรอ แต่เราเคยทำตัวไม่ดีมาก่อน ไม่อยากเป็นภาระนะคะ )
แต่กับแม่เรา แม่มองเรื่องเงินทองเป็นสำคัญ ใจนึงเราคิดว่า แม่เป็นห่วงกลัวเราลำบากถ้าแต่งกันไป
แต่อีกใจก็คิดอกุศล เพราะแม่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ใช่มั้ย เพราะช่วงนึงพ่อเราเค้ากันเงินส่วนหนึ่งไว้ลงทุน ช่วงที่ยังไม่ออกผล แม่เลยต้องลำบาก
แต่พอหย่ากัน พ่อกลับสบาย แต่แม่ก็ยังต้องลำบากอยู่ (ถ้าจะว่าเราที่คิดแบบนี้ก็ไม่โกรธคะ)
แต่พ่อก็ซื้อทองให้แม่เสมอนะค่ะ แต่ฝากเราเอาไปให้แม่แทน ^^"
ขอโทษที่พิมยืดยาวนะค่ะ แต่เชื่อว่า ทุกๆคนคงอยากให้แฟนเราเข้ากับที่บ้านได้ใช้มั้ยค่ะ ^^
ขอบคุณที่อุส่าอ่านจนจบนะค่ะ