จากมติชนออนไลน์

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม   นายกฤษฎา หอมสุด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก (พื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา และสระบุรี) กล่าวว่า    กลุ่มวิจัยอนุสัญญาไซเตสทางด้านพืช กรมวิชาการเกษตร ได้มาประชุมอนุสัญญาไซเตส ด้านพันธุ์ไม้กฤษณาพันธุ์พืชหายาก-สัตว์ป่า ที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีจำนวนกว่า 200 คน   พร้อมกันนี้ ได้บรรยายสรุปในที่ประชุมถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นแหล่งสัตว์ป่าสมบูรณ์และพืชพันธุ์ไม้นานาชนิดจนได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก  มีความพยายามความยากลำบาก  ให้เจ้าหน้าที่ในการปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติโดยต่อเนื่อง    รวมถึงสถานการณ์ไม้กฤษณา หรือไม้หอมบนเขาใหญ่ ปัจจุบันมีมากในขั้นวิกฤติ  เหลืออยู่เพียงในใจกลางพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนพื้นที่โดยรอบใน 4 จังหวัดนั้นกลักลอบตัดไปจำหน่าย เนื่องจากรอบๆ ตีนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้ง จ.ปราจีนบุรี จ.นครนายก มีการตั้งโรงงานในการกลั่นไม้หอมที่ถูกต้องจำนวนมาก

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก กล่าวต่อว่า     ปัจจุบัน ประชากรช้างป่าเพิ่มมากขึ้น  เนื่องจากผู้ล่าในธรรมชาติเสือโคร่งเขาใหญ่ลดลง ไม่สามารถข้ามฝั่งผืนป่าหากินระหว่างอุทยานเขาใหญ่กับผืนป่าทับลานสะดวกแต่การจัดการทุ่งหญ้าแหล่งอาหารน้อยลง มีการคุกคามจากแหล่งพืชไร่โดยรอบ  ให้ช้างป่าออกนอกเขต รวมถึงการท่องเที่ยวที่รบกวนช้างป่ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนมากกว่า 1,000,000 คนที่ผ่านมาและรายได้อุทยานเพิ่มฯคาดว่าจะได้รับสูงสุดถึง80ล้านบาท/ปี

“ล่าสุดด้านทางขึ้นเขาใหญ่ด่านเนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี มีช้างป่าเพศผู้รวม 3 ตัวคอยดักรบกวนรถยนต์โดยเฉพาะรถเก๋งสีบอร์นเงินมักถูกดักทำร้าย ได้ทำป้ายเตือนห้ามผ่านตั้งแต่เวลา18.00-21.00 น.และออกรายการวิทยุชุมชนต่อเนื่องทุกวันเนื่องจากนักท่องเที่ยวไปรบกวนช้างก่อนมันจึงโกรธแค้น”   นายกฤษฎากล่าว