[มือใหม่รีวิวหนังโหด (มั้ง)] Gothic & Lolita Psycho (2010)

Gothic & Lolita Psycho (2010) : งาม โหด แบบไม่ต้องมีคุณค่าและความปราณี



ดูแทบไม่ทันจริงๆ สำหรับหนังแปลกๆ จากญี่ปุ่น โดยเฉพาะหนังตระกูล Gore Splatter Comedy (ตลกโหดเลือดสาด) ที่ต้องบอกว่าเมืองปลาดิบเขาทำกันออกมาเป็นล่ำเป็นสัน เยอะเสียจนคนดูเองก็ชักจะสับสนว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหน เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะมาเป็นฟอร์แม็ตเดียวกันหมด คือ เป็นหนังแอ็คชั่นนองเลือดโหดๆ ในคราบของหนังฮา บ้า เพี้ยนหลุดโลก ที่มีนางเอกเป็นผู้หญิงเซ็กซี่

Gothic & Lolita Psycho เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ตามเว็บหรึือหนังสือที่นำเสนอผลงานประเภทนี้ หนังออกฉายตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน แต่เพิ่งถูกนำมาปัดฝุ่นออกใหม่อีกครั้งในรูปแบบดีวีดี และบลู-เรย์

หนังเล่าเรื่องราวในโลกอนาคตอันใกล้ ผ่านครอบครัวของเด็กสาวชื่อว่า ยูกิ (รินะ อากิยามะ กราเวียไอดอลชื่อดังเจ้าของฉายา 'ราชินีบั้นท้ายงามแห่งญี่ปุ่น') ที่ถูกจู่โจมจากกลุ่มคนลึกลับโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยแม่ของเธอถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ขณะที่ฝ่ายพ่อแม้จะรอดมาได้ แต่ก็กลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต

เหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้ทำให้สาวแบ๊วใสปิ๊งอย่าง ยูกิ กลายเป็นนักฆ่าหฤโหด ผู้มาพร้อมกับแฟชั่นโกธิคโลลิต้า และร่มสังหารในมือที่สามารถกลายเป็นทั้งดาบและปืน กับภาระกิจไล่ล่าเช็คบิล "พวกเลว" ที่เคยทำร้ายครอบครัวของเธอแบบเรียงตัว

แต่ที่น่าประหลาดก็คือ เมื่อยูกิเดินหน้าล่าไปเรื่อยๆ กลับพบว่า พวกเลวที่เธอต้องฆ่าให้ตายนั้น กลับไม่มีท่าทีเหมือนคนเลวซักเท่าไหร่ บางคนเป็นอาจารย์ บางคนก็มีลูกมีครอบครัว บางคนเป็นนักเรียนก๋ากั่น สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนให้กับ ยูกิ (และคนดู) เป็นอย่างมากว่า ตกลงแล้วทำไมตอนแรกคนกลุ่มนี้ถึงได้ทำเรื่องโหดเหี้ยมกับครอบครัวของเธอถึงขนาดนั้น

แน่นอนว่าหนังเดินเรื่องโดยไม่คำนึงถึงความสมจริงเลยแม้แต่น้อย เป็นการขายความบันเทิงจากความเวอร์ตามสไตล์หนัง Gore Splatter Comedy ล้วนๆ ไม่ว่าจะด้านความโหด หรือความฮา ที่อาจจะพบได้ทั้ง การใช้อาวุธปั่นคนทั้งร่างจนแหลกเหลวเป็นเศษเนื้อ, แกงค์นักเลงสุดฮาที่ต้องต่อตัวกันเป็นคำว่ากามิกาเซ่ในทุกครั้งก่อนจะลงมือสู้รบกับใคร หรือแม้แต่ การขอเวลานอกไปรับโทรศัพท์ (บอกเลิกแฟน) ในระหว่างที่ตัวละครกำลังอยู่ในห้วงของความเป็นความตาย

แต่ที่ถือว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของ Gothic & Lolita Psycho เลยก็คือ การหักมุม ที่เฉลยออกมาในตอนท้ายจากเหตุการณ์ที่วางไว้แต่แรกว่า "ทำไมครอบครัวของยูกิถึงต้องโดน" ซึ่งเหตุผลที่หนังบอกออกมา แทบจะทำให้เรื่องราวทั้งหมดถูกหักศอกแบบเลี้ยวกลับ 180 องศาเลยทีเดียว อาจจะไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีหนังฮอลลีวู้ดเรื่องหนึ่งเคยใช้มุกนี้มาแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า "เออ คนทำหนังเรื่องนี้มันคิดได้" และปิดไว้มิดชิดจนเราไม่เฉลียวใจเลยแม้แต่น้อย

ถือเป็นงานที่ "มีของ" อยู่ในตัว ไม่ผิดหวัง (หากชอบแนวนี้) แต่ก็ยังไม่ถึงกับเด็ดดวงเสียทีเดียว หากคิดจะเทียบชั้นกับผลงานแถวหน้าที่ "กล้า" และ "บ้า" ได้สุดขอบอย่าง Tokyo Gore Police (2008) Robo-geisha (2009) หรือ Zombie Ass (2011)

คะแนน : สองดาวจ้า
(หนังดูเพื่อความสนุก โหด มันส์ ฮา เพียงสถานเดียว )



ชอบอ่านรีวิวหนังแปลกบ้าง ไม่แปลกบ้าง สั้นบ้าง ยาวบ้าง ฝากแวะไปกด like แฟนเพจนี้ด้วยจ้า
http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87/112834835539518
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่