TRUEVISION พร้อมเปิดทาง ทำธุรกิจร่วม CTH ( ถ้ามีการเจรจา ) ทุกอย่างต้องเดินต่อไป

7 มีนาคม 2556 TRUEVISION พร้อมเปิดทาง ทำธุรกิจร่วม CTH ( ถ้ามีการเจรจา ) ทุกอย่างต้องเดินต่อไป

ประเด็นหลัก



"ทรูวิชั่นส์เปิดโอกาสและ พร้อมที่จะทำธุรกิจร่วมงานกับซีทีเอช ซึ่งต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของการทำธุรกิจที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ถ้าซีทีเอชพร้อม ทรูวิชั่นส์ก็พร้อม แต่ถ้าไม่มีการเจรจาร่วมกัน ทรูวิชั่นส์ก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป"

อย่างไรก็ตามแม้ว่าฤดูกาล แข่งขันหน้า บริษัทจะขาดคอนเทนต์กีฬาหลักอย่างการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไป แต่ชูฟุตบอล "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" มาเป็นพระเอกแทน รวมถึงกีฬาวอลเลย์บอล กอล์ฟ เทนนิส มวยสากล พร้อมกับผสมผสานคอนเทนต์ให้เข้ากับรสนิยมของผู้ชม ซึ่งน่าจะเป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้ทรูวิชั่นส์เดินหน้าต่อไป

"สมาชิก ของทรูวิชั่นส์ไม่ใช่รับชมเฉพาะการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าการถ่ายทอดสดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ลูกค้าเข้า มาสมัครเป็นสมาชิก แต่บริษัทก็ยังมีคอนเทนต์บันเทิงหลากหลายรูปแบบที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการ ของผู้ชมในครอบครัวได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย"


สำนักข่าวที่อ้างอิงในประเด็นนี้
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1362640586&grpid=&catid=11&subcatid=1103




________________________________________





"ทรูวิชั่นส์"พร้อมรบตลาดเพย์ทีวีกินรวบทุกกลุ่ม


ทรูวิชั่นส์ พร้อมรบ ประกาศศึกตลาดเพย์ทีวีเต็มรูปแบบ ชูสารพัดคอนเทนต์ ทั้งบันเทิง ภาพยนตร์ กีฬา หวังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมทุกกลุ่มเป้าหมาย ดันการถ่ายทอดสดฟุตบอล "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" ขึ้นแท่นพระเอก เล็งเจรจาซีทีเอช หวังร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า เตรียมเพิ่มช่องเอชดีสร้างความคุ้มค่าฐานสมาชิก

นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์หลักการรุกตลาดปีนี้คือ การชูคอนเทนต์ที่มีความหลากหลาย ทั้งกีฬา ภาพยนตร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และโลคอลคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค หวังเจาะทุกกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้พร้อมเจรจากับบริษัท เคเบิ้ลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือซีทีเอช ผู้บริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรวม 3 ฤดูกาล (2013-2015) เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน แต่ปัจจุบันซีทีเอชยังไม่พร้อมที่จะเจรจาร่วม เนื่องจากอยู่ในระหว่างการวางแผนธุรกิจ

"ทรูวิชั่นส์เปิดโอกาสและ พร้อมที่จะทำธุรกิจร่วมงานกับซีทีเอช ซึ่งต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของการทำธุรกิจที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ถ้าซีทีเอชพร้อม ทรูวิชั่นส์ก็พร้อม แต่ถ้าไม่มีการเจรจาร่วมกัน ทรูวิชั่นส์ก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป"

อย่างไรก็ตามแม้ว่าฤดูกาล แข่งขันหน้า บริษัทจะขาดคอนเทนต์กีฬาหลักอย่างการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไป แต่ชูฟุตบอล "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" มาเป็นพระเอกแทน รวมถึงกีฬาวอลเลย์บอล กอล์ฟ เทนนิส มวยสากล พร้อมกับผสมผสานคอนเทนต์ให้เข้ากับรสนิยมของผู้ชม ซึ่งน่าจะเป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้ทรูวิชั่นส์เดินหน้าต่อไป

"สมาชิก ของทรูวิชั่นส์ไม่ใช่รับชมเฉพาะการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าการถ่ายทอดสดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ลูกค้าเข้า มาสมัครเป็นสมาชิก แต่บริษัทก็ยังมีคอนเทนต์บันเทิงหลากหลายรูปแบบที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการ ของผู้ชมในครอบครัวได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย"

นายองอาจกล่าวต่อว่า วันนี้ทรูวิชั่นส์มีช่องกีฬาทั้งสิ้น 21 ช่อง อนาคตเตรียมที่จะเสริมช่องเพิ่มอีก ขณะเดียวกันจะมีคอนเทนต์กีฬาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่จุดเด่นด้านกีฬาที่ผ่านมาของทรูวิชั่นส์คือ การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และชูจุดขายและสื่อสารกับผู้บริโภคด้านนี้มาตลอด ทำให้ลิขสิทธิ์การแข่งขันของกีฬารูปแบบอื่น ๆ ไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร แต่ปีนี้จะกลับมาให้ความสำคัญกับกีฬาในหลากหลายประเภทมากขึ้น

"ปัจจุบัน มีช่องทั้งหมด 146 ช่อง แบ่งเป็นช่องเอชดี 17 ช่อง โดยเป็นช่องกีฬา 3 ช่อง จุดเด่นของทรูวิชั่นส์คือมีฐานสมาชิก 2 ล้านราย โดย 5 แสนรายเป็นสมาชิกพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นอาวุธที่สำคัญในการทำตลาดจากนี้ไป"

ขณะเดียวกันยังเร่ง ศึกษาและพัฒนาการบริการทั้งในแง่ของคุณภาพ รายการ เพื่อให้สมาชิกรู้สึกว่าคุ้มค่าผ่านแนวทางการตลาด คาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดประมาณเมษายนนี้

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1362640586&grpid=&catid=11&subcatid=1103
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่