ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556



นายกบอลไทย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ประกาศ เสียงในมือมีแล้ว 25 ชาติ ชนะแน่การเลือกตั้งประธานเอเอฟซี พร้อมมั่นใจไม่โดนหักหลัง และชูนโยบายทุกชาติได้สิทธิ์เล่นเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ฟีฟ่าเดินหน้าประชุมแก้ธรรมนูญเพื่อเป็นแนวทางเดียวกัน และจะขอมติวันที่ 31 พ.ค. นี้

เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิปซอฟเฟอริน มีการประชุมสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เรื่องการแก้ธรรมนูญฟีฟ่าว่าด้วยการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล เพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วโลก โดยใช้เวลาประชุมตลอดทั้งวัน

หลังการประชุม "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟีฟ่าต้องการให้สมาคมฟุตบอลทั่วโลกมีการเลือกตั้งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี ซึ่งจะมีการพูดคุยและลงมติอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 31 พฤษภาคม ที่หมู่เกาะมอริเชียส ซึ่งหากทั่วโลกมีมติเห็นชอบก็จะจดทะเบียนเพื่อใช้การเลือกตั้งนายกสมาคมทั่วโลกต่อไป

"วันที่ 31 มีนาคม จะมีการประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอล ซึ่งผมจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบเพื่อรับรู้ถึงแนวทางของฟีฟ่า และฟีฟ่าจะมีการประชุมทั่วโลกเพื่อใช้แนวทางเดียวกัน ซึ่งผมคิดว่าประเทศไทยก็ควรจะใช้แนวทางนี้ด้วย"

นอกจากนั้น "บังยี" ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี โดยยอมรับว่า มีความหนักใจเล็กน้อย เมื่อรู้ชื่อผู้สมัครอีก 3 คน ประกอบไปด้วย ดร.ฮาเฟซ อิบรัม อัล เมตเลจ (ซาอุดีอาระเบีย), ชาร์ค ซัลมาน บิน อิบราฮิม อัล คาลิฟา (บาห์เรน) และยูซูฟ อัล เซอร์คาล (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) อย่างไรก็ตาม จะใช้เวลาที่เหลือหาเสียงกับชาติต่างๆ พร้อมมั่นใจว่าจะได้เก้าอี้นายใหญ่วงการลูกหนังเอเชียแน่นอน

"นโยบายของผมคือ การให้ทั้ง 46 ชาติในเอเชียเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยเฉพาะชาติจากตะวันออกกลางที่ตอนนี้แบ่งเป็น 2 ก๊ก นอกจากนั้นจะจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก และเอเอฟซีคัพ ให้มีมาตรฐานเหมือนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกของยุโรป และจะเปิดโอกาสให้ทุกชาติที่มีแรงกิ้งไม่สูงได้มีส่วนเข้าร่วมการแข่งขันด้วย"

"บังยี" กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนเองมี 12 เสียงอยู่ในมือ คือ 11 ชาติจากอาเซียนรวมกับออสเตรเลีย และมีอีก 13 เสียงจากเอเชียใต้และเอเชียกลาง ซึ่งรวมกันทั้งหมด 25 เสียง ซึ่งแน่นอนว่าจะชนะการเลือกตั้งที่กำหนดไว้เพียง 24 เสียง อย่างไรก็ตามจะเดินหน้าหาเสียงต่อเพื่อให้ทุกชาติเชื่อมั่นในการทำงาน พร้อมมั่นใจว่าเสียงต่าง จะไม่แตก เพราะมีการเชื่อใจซึ่งกันและกัน