เริ่มต้นจากเราได้หาที่พัก ที่รับน้องหมา ติดทะเล เงียบๆ ไม่พลุกพล่าน จนได้มาเจอกระทู้นี้ค่ะ
http://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2011/04/J10497606/J10497606.html
ได้อ่านกระทู้นี้ ก็ได้ชื่นชมพี่เค้าอยู่ในใจ ถ้าเป็นรีสอร์ทหรือที่พักอื่น คงริบเงินมัดจำไปแล้ว แม้แต่ค่าโอนพี่เค้าก็ไม่หักซักกะบาท
เลยหา website ของ the beach จนมาเจอ
http://www.thebeachresort.net/
ใครต่อใครที่ได้ไปพักมาแล้วก็ comment ชื่นชมกันซะส่วนใหญ่ อ่านไปยังไม่เจอคำตำหนิ
ที่สำคัญยินดีต้อนรับ ครอบครัวน้องหมา อย่างเราด้วย
ปัจจุบันเรื่องการรับครอบครัวน้องหมา พี่โก้ขอรับเป็นกรณีไปนะคะ เพราะพี่เค้าแจ้งว่า
บางทีน้องหมาไปแทะเฟอร์นิเจอร์ห้อง แทะเตียง เละเทะ ตุ้มเป๊ะ เห้อ กลุ้มใจค่ะ
ขอความร่วมมือเพื่อนๆ ที่มีครอบครัวน้องหมาร่วมด้วยช่วยกันหน่อยนะคะ
จะรออะไรอยู่เล่า เราตัดสินใจโทรไปจองทันที ห้องพักที่เราเลือกคือหลังใหญ่ ติดหน้าหาด หลังละ 1500 บาท จำนวน 2 หลัง ซึ่งพี่เจ้าของรีสอร์ท คือ พี่โก้ เป็นคนรับเรื่องในการจองเองทั้งหมด
เราจองที่พักทั้ง 3วัน 2คืน ตั้งแต่วันที่ 10-12 กุมภา และได้วางเงินมัดจำไว้ 2000 บาท
สมาชิกการเดินทางของเรามี แฟน เรา พ่อ-แม่ของแฟนซึ่งอายุค่อนข้างมาก และ น้องหมา 2 หน่อ คณะเราได้ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ แวะกิน ไหว้พระ ซื้ออาหารไปฝากน้องหมาที่ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ขับมาเรื่อยๆจนเกือบๆถึงอ่าวมะนาว
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รถของเราเกิดมีปัญหาที่ระบบเกียร์ จึงค่อยๆขับมาจอดพักที่อ่าวมะนาว และโทรปรึกษาเพื่อนๆที่พอมีความรู้เรื่องรถ ก็ได้แนะนำให้จอดพักไว้สักแป๊บ อาจจะหาย หลังทำตามคำแนะนำ ก็ไม่หายค่ะ แผนเที่ยวที่วางไว้เป็นอันจบ รถไม่สามารรถเคลื่อนที่ได้เลย รถไม่ใช่รถตลาด หาศูนย์serviceเข้าก็ไม่มี ทางแฟนจึงติดต่อพรรคพวก เพื่อให้หาช่างท้องถิ่นมาดูรถให้หน่อย ซึ่งจะเข้ามาดูภายใน 1-2 วัน เราจึงแจ้งทางทหารภายในอ่าวมะนาว เพื่อขอลงบันทึกฝากรถไว้ ทหารที่นี่น่ารักทุกท่านเลยค่ะ
ตายละวา.....แล้วเราจะไปอยู่ไหนกัน??? รถก็ไม่มี?? ไปไหนก็ลำบากมีผู้สูงอายุ 2 คน น้องหมา 2 หน่อ
แฟนเราจึงลองติดต่อทางรีสอร์ท ก็เป็นทางพี่โก้ เจ้าของรีสอร์ท รับสาย แล้วเล่าเหตุการณ์ให้พี่โก้ฟัง พี่โก้มีน้ำใจมากๆ อาสาขับรถมารับพวกเราและน้องหมา ทางพี่โก้ไม่มีรังเกียจที่จะให้น้องหมาของเราขึ้นรถพี่เค้าด้วยค่ะ และได้พาไปพักที่เดอะบีช รีสอร์ท ของทางพี่โก้ ตามที่ได้จองไว้ ระยะทางจากเดอะบีช รีสอร์ทของพี่โก้มาอ่าวมะนาว 50 กิโลฯ ค่ะ
คิดว่าถ้าเป็นรีสอร์ทอื่นๆ จะมีใครบ้างไหมที่มีน้ำใจแบบพี่โก้ คงยึดเงินมัดจำที่เราได้จองไว้เป็นแน่แท้ รถเมิงเสีย เกี่ยวไรกับตรู... เสียก็เสียไป....เรื่องของเมิง แต่สำหรับ เดอะบีช รีสอร์ท เจ้าของรีสอร์ทอุตส่าห์ขับรถมารับพวกเราระยะทาง 50 กิโล
พี่โก้ขับไป-กลับ 100 กิโล ซึ้งในน้ำใจพี่เค้ามากๆค่ะ
พอไปถึงที่พัก ซึ่งก็มืดแล้ว พี่โก้เอ่ยปากบอกเองเลยค่ะว่า
พี่โก้ “พรุ่งนี้อยากไปเที่ยวไหน เดี๋ยวผมพาไปครับ”
เรา “ไม่ไปไหนดีกว่าค่ะพี่ เกรงใจค่ะ”
พี่โก้ “ไม่เป็นไรครับ ผมว่าง พาไปได้”
ได้ยินแบบนี้ อึ้งเลยค่ะ
วันรุ่งขึ้น เราก็แฟน ตัดสินใจว่าจะหารถเช่า เพื่อที่ว่าจะได้ขับไปดูรถที่จอดไว้ที่อ่าวมะนาวได้ เผื่อช่างจะมาซ่อมรถ จะได้ขับไปดูเองไรงี้ จึงลองสอบถามกับทางพี่โก้ว่า แถวนี้พอจะมีรถเช่าท้องถิ่นบ้างไหม
พี่โก้ “ไม่มีหรอกครับ จะไปไหน เดี๋ยวผมพาไปได้ครับ”
เรา “โอ้ยแค่นี้ก็เกรงใจพี่จะแย่แล้วค่ะ รบกวนพี่ด้วย“
พี่โก้ “ไม่เป็นไรครับ ผมพาไปได้ ผมไม่ได้ไปไหน”
คนดีๆแบบนี้ยังมีอยู่จริงคะ
ถัดมาอีกวัน ช่างนัดมาดูรถให้ 9.30 เราก็ต้องรบกวนพี่โก้ ขับรถออกมาจากเดอะบีช รีสอร์ท เพื่อพา เรากับแฟน ไปที่อ่าวมะนาว ตามที่ช่างนัดไว้ สรุป....ดูแล้วซ่อมไม่ได้ ต้องเรียกรถยกมายกรถไปซ่อม กรุงเทพฯ ถอยทัพกลับที่ เดอะบีช รีสอร์ท เพื่อรอรถยก ตอนกลับเวลาประมาณเที่ยงๆนะคะ
ระหว่างทางขับรถกลับรีสอร์ท ได้โทรไปที่ ศูนย์ยกรถ จะนัดหมากกับทางรถยก เพื่อที่จะยกรถกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้ แต่ทางศูนย์แจ้งว่าไม่มีคิวว่างเลย ว่างแค่วันนี้ จะมายกวันนี้เลย มาถึงประมาณ 6 โมงเย็น วันอื่นคิวเต็มและจะต้องรออีกหลายวัน ทางเราก็ต้องรบกวนพี่โก้อีก วานพี่โก้ขับมาที่รถที่จอดเสียอยู่อ่าวมะนาว ในช่วง 6 โมงเย็นอีกรอบ เพื่อมาเจอรถยก ที่จะมายกรถไปซ่อมที่กรุงเทพฯค่ะ
สรุปวันนี้พี่โก้ขับรถ ไป-กลับ 2 รอบ ระยะทางรวม 200 กิโลเมตร
พี่โก้ก็พูดตลอดว่า “ผมขับได้ ผมว่าง ช่วงนี้ไม่ยุ่งเท่าไร ไม่ต้องเกรงใจครับ”
สรุปรวมแล้วพี่โก้ขับรถให้ก็ 300 กิโลฯ ค่ะ
พอถึงวันCheck out เราต้องจ่ายค่าห้องที่เหลือ และเรานอนค้างเกินมา 1 คืนจากที่จองไว้ คิดเงินมาแล้ว พี่โก้ไม่คิดค่าน้ำมันรถ ค่าเสียเวลาสักกะนิด หรือ แม้แต้จะคิดอะไรเพิ่ม ไม่มีเลยค่ะ คิดแต่ค่าที่พักของรีสอร์ทเท่านั้น และบอกแต่ว่า
“พี่ก็ช่วยผมแล้วเนี้ยครับ มาพักที่รีสอร์ทผม”
พยายามขอร้องให้พี่โก้รับค่าน้ำมันสักนิด ระยะทาง 300 กิโลเมตร ค่าน้ำมันรถน่าจะเอาเรื่องอยู่ จริงๆแค่พี่อาสาขับรถให้ ทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย เราก็รู้สึกตื้นตันมากๆ แต่พี่โก้ก็ปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว และพูดมาประโยคนึงว่า
“ ไม่เอาหรอกครับ ช่วยกัน พวกพี่ลำบากกว่าผมอีก”
(ต่างคน ต่างเรียกพี่ค่ะ พี่โก้ก็เรียกเรากับแฟน “พี่” เรากับแฟนก็เรียกพี่โก้ว่า “พี่” )
พูดไม่ออกค่ะ จุก ตื้นตัน น้ำตาซึมค่ะ พี่โก้ ใช้ใจซื้อลูกค้าจริงๆ ถ้าเราไม่ได้พี่โก้ พวกเราและน้องหมา ยังมีพ่อ-แม่ ที่อายุค่อนข้างเยอะอีก จะทำยังไงกัน ต้องลำบากแน่ๆๆๆ
โฉมหน้าลูกผู้ชายตัวจริงค่ะ ได้ขออนุญาตพี่เค้าแล้วนะคะ พี่โก้ยังพูดว่า "ถ่ายให้ผอมๆหน่อยนะครับ"
พิกัด gps (11.449634, 99.611428)
[CR] น้ำใจที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าของ The Beach Resort @ทับสะแก คุณใช้ใจซื้อลูกค้าจริงๆ (Pets Welcome)
http://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2011/04/J10497606/J10497606.html
ได้อ่านกระทู้นี้ ก็ได้ชื่นชมพี่เค้าอยู่ในใจ ถ้าเป็นรีสอร์ทหรือที่พักอื่น คงริบเงินมัดจำไปแล้ว แม้แต่ค่าโอนพี่เค้าก็ไม่หักซักกะบาท
เลยหา website ของ the beach จนมาเจอ
http://www.thebeachresort.net/
ใครต่อใครที่ได้ไปพักมาแล้วก็ comment ชื่นชมกันซะส่วนใหญ่ อ่านไปยังไม่เจอคำตำหนิ
ที่สำคัญยินดีต้อนรับ ครอบครัวน้องหมา อย่างเราด้วย
ปัจจุบันเรื่องการรับครอบครัวน้องหมา พี่โก้ขอรับเป็นกรณีไปนะคะ เพราะพี่เค้าแจ้งว่า
บางทีน้องหมาไปแทะเฟอร์นิเจอร์ห้อง แทะเตียง เละเทะ ตุ้มเป๊ะ เห้อ กลุ้มใจค่ะ
ขอความร่วมมือเพื่อนๆ ที่มีครอบครัวน้องหมาร่วมด้วยช่วยกันหน่อยนะคะ
จะรออะไรอยู่เล่า เราตัดสินใจโทรไปจองทันที ห้องพักที่เราเลือกคือหลังใหญ่ ติดหน้าหาด หลังละ 1500 บาท จำนวน 2 หลัง ซึ่งพี่เจ้าของรีสอร์ท คือ พี่โก้ เป็นคนรับเรื่องในการจองเองทั้งหมด
เราจองที่พักทั้ง 3วัน 2คืน ตั้งแต่วันที่ 10-12 กุมภา และได้วางเงินมัดจำไว้ 2000 บาท
สมาชิกการเดินทางของเรามี แฟน เรา พ่อ-แม่ของแฟนซึ่งอายุค่อนข้างมาก และ น้องหมา 2 หน่อ คณะเราได้ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ แวะกิน ไหว้พระ ซื้ออาหารไปฝากน้องหมาที่ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ขับมาเรื่อยๆจนเกือบๆถึงอ่าวมะนาว
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รถของเราเกิดมีปัญหาที่ระบบเกียร์ จึงค่อยๆขับมาจอดพักที่อ่าวมะนาว และโทรปรึกษาเพื่อนๆที่พอมีความรู้เรื่องรถ ก็ได้แนะนำให้จอดพักไว้สักแป๊บ อาจจะหาย หลังทำตามคำแนะนำ ก็ไม่หายค่ะ แผนเที่ยวที่วางไว้เป็นอันจบ รถไม่สามารรถเคลื่อนที่ได้เลย รถไม่ใช่รถตลาด หาศูนย์serviceเข้าก็ไม่มี ทางแฟนจึงติดต่อพรรคพวก เพื่อให้หาช่างท้องถิ่นมาดูรถให้หน่อย ซึ่งจะเข้ามาดูภายใน 1-2 วัน เราจึงแจ้งทางทหารภายในอ่าวมะนาว เพื่อขอลงบันทึกฝากรถไว้ ทหารที่นี่น่ารักทุกท่านเลยค่ะ
ตายละวา.....แล้วเราจะไปอยู่ไหนกัน??? รถก็ไม่มี?? ไปไหนก็ลำบากมีผู้สูงอายุ 2 คน น้องหมา 2 หน่อ
แฟนเราจึงลองติดต่อทางรีสอร์ท ก็เป็นทางพี่โก้ เจ้าของรีสอร์ท รับสาย แล้วเล่าเหตุการณ์ให้พี่โก้ฟัง พี่โก้มีน้ำใจมากๆ อาสาขับรถมารับพวกเราและน้องหมา ทางพี่โก้ไม่มีรังเกียจที่จะให้น้องหมาของเราขึ้นรถพี่เค้าด้วยค่ะ และได้พาไปพักที่เดอะบีช รีสอร์ท ของทางพี่โก้ ตามที่ได้จองไว้ ระยะทางจากเดอะบีช รีสอร์ทของพี่โก้มาอ่าวมะนาว 50 กิโลฯ ค่ะ
คิดว่าถ้าเป็นรีสอร์ทอื่นๆ จะมีใครบ้างไหมที่มีน้ำใจแบบพี่โก้ คงยึดเงินมัดจำที่เราได้จองไว้เป็นแน่แท้ รถเมิงเสีย เกี่ยวไรกับตรู... เสียก็เสียไป....เรื่องของเมิง แต่สำหรับ เดอะบีช รีสอร์ท เจ้าของรีสอร์ทอุตส่าห์ขับรถมารับพวกเราระยะทาง 50 กิโล พี่โก้ขับไป-กลับ 100 กิโล ซึ้งในน้ำใจพี่เค้ามากๆค่ะ
พอไปถึงที่พัก ซึ่งก็มืดแล้ว พี่โก้เอ่ยปากบอกเองเลยค่ะว่า
พี่โก้ “พรุ่งนี้อยากไปเที่ยวไหน เดี๋ยวผมพาไปครับ”
เรา “ไม่ไปไหนดีกว่าค่ะพี่ เกรงใจค่ะ”
พี่โก้ “ไม่เป็นไรครับ ผมว่าง พาไปได้”
ได้ยินแบบนี้ อึ้งเลยค่ะ
วันรุ่งขึ้น เราก็แฟน ตัดสินใจว่าจะหารถเช่า เพื่อที่ว่าจะได้ขับไปดูรถที่จอดไว้ที่อ่าวมะนาวได้ เผื่อช่างจะมาซ่อมรถ จะได้ขับไปดูเองไรงี้ จึงลองสอบถามกับทางพี่โก้ว่า แถวนี้พอจะมีรถเช่าท้องถิ่นบ้างไหม
พี่โก้ “ไม่มีหรอกครับ จะไปไหน เดี๋ยวผมพาไปได้ครับ”
เรา “โอ้ยแค่นี้ก็เกรงใจพี่จะแย่แล้วค่ะ รบกวนพี่ด้วย“
พี่โก้ “ไม่เป็นไรครับ ผมพาไปได้ ผมไม่ได้ไปไหน”
คนดีๆแบบนี้ยังมีอยู่จริงคะ
ถัดมาอีกวัน ช่างนัดมาดูรถให้ 9.30 เราก็ต้องรบกวนพี่โก้ ขับรถออกมาจากเดอะบีช รีสอร์ท เพื่อพา เรากับแฟน ไปที่อ่าวมะนาว ตามที่ช่างนัดไว้ สรุป....ดูแล้วซ่อมไม่ได้ ต้องเรียกรถยกมายกรถไปซ่อม กรุงเทพฯ ถอยทัพกลับที่ เดอะบีช รีสอร์ท เพื่อรอรถยก ตอนกลับเวลาประมาณเที่ยงๆนะคะ
ระหว่างทางขับรถกลับรีสอร์ท ได้โทรไปที่ ศูนย์ยกรถ จะนัดหมากกับทางรถยก เพื่อที่จะยกรถกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้ แต่ทางศูนย์แจ้งว่าไม่มีคิวว่างเลย ว่างแค่วันนี้ จะมายกวันนี้เลย มาถึงประมาณ 6 โมงเย็น วันอื่นคิวเต็มและจะต้องรออีกหลายวัน ทางเราก็ต้องรบกวนพี่โก้อีก วานพี่โก้ขับมาที่รถที่จอดเสียอยู่อ่าวมะนาว ในช่วง 6 โมงเย็นอีกรอบ เพื่อมาเจอรถยก ที่จะมายกรถไปซ่อมที่กรุงเทพฯค่ะ
สรุปวันนี้พี่โก้ขับรถ ไป-กลับ 2 รอบ ระยะทางรวม 200 กิโลเมตร
พี่โก้ก็พูดตลอดว่า “ผมขับได้ ผมว่าง ช่วงนี้ไม่ยุ่งเท่าไร ไม่ต้องเกรงใจครับ”
สรุปรวมแล้วพี่โก้ขับรถให้ก็ 300 กิโลฯ ค่ะ
พอถึงวันCheck out เราต้องจ่ายค่าห้องที่เหลือ และเรานอนค้างเกินมา 1 คืนจากที่จองไว้ คิดเงินมาแล้ว พี่โก้ไม่คิดค่าน้ำมันรถ ค่าเสียเวลาสักกะนิด หรือ แม้แต้จะคิดอะไรเพิ่ม ไม่มีเลยค่ะ คิดแต่ค่าที่พักของรีสอร์ทเท่านั้น และบอกแต่ว่า
“พี่ก็ช่วยผมแล้วเนี้ยครับ มาพักที่รีสอร์ทผม”
พยายามขอร้องให้พี่โก้รับค่าน้ำมันสักนิด ระยะทาง 300 กิโลเมตร ค่าน้ำมันรถน่าจะเอาเรื่องอยู่ จริงๆแค่พี่อาสาขับรถให้ ทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย เราก็รู้สึกตื้นตันมากๆ แต่พี่โก้ก็ปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว และพูดมาประโยคนึงว่า
“ ไม่เอาหรอกครับ ช่วยกัน พวกพี่ลำบากกว่าผมอีก”
(ต่างคน ต่างเรียกพี่ค่ะ พี่โก้ก็เรียกเรากับแฟน “พี่” เรากับแฟนก็เรียกพี่โก้ว่า “พี่” )
พูดไม่ออกค่ะ จุก ตื้นตัน น้ำตาซึมค่ะ พี่โก้ ใช้ใจซื้อลูกค้าจริงๆ ถ้าเราไม่ได้พี่โก้ พวกเราและน้องหมา ยังมีพ่อ-แม่ ที่อายุค่อนข้างเยอะอีก จะทำยังไงกัน ต้องลำบากแน่ๆๆๆ
โฉมหน้าลูกผู้ชายตัวจริงค่ะ ได้ขออนุญาตพี่เค้าแล้วนะคะ พี่โก้ยังพูดว่า "ถ่ายให้ผอมๆหน่อยนะครับ"
พิกัด gps (11.449634, 99.611428)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น