อยู่ดีๆ ก็ถูกเปลี่ยนสเตตัสจากคนมีคู่กลายเป็นคนไม่มีคู่แบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว เมื่อ(อดีต)แฟนอยู่ๆ ก็หายหน้าหายตัวไปแบบไม่มีสาเหตุ ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย อยู่ๆ คุณเธอก็เริ่มไม่รับโทรศัพท์ โทรไปก็ไม่เคยรับ ไม่โทรกลับ แย่กว่านั้นคือโดนตัดสายทิ้งและปิดเครื่องหนีซะด้วย แหน๊ แมสเสจสุดท้ายที่ได้มาจากคนเคยรักคือ "ไม่คุย ไม่ต้องมา ไม่อยากเจอ" แล้วคุณเธอก็หายสาบสูญไป ทิ้งเราไว้แบบงงๆ
หลายวันผ่านไป ถามว่าเสียใจมั้ย?...ตอบได้ว่าเสียใจ...แต่ไม่แคร์ !!! ถามว่าเหงามั้ยที่อยู่ๆ ต้องเปลี่ยนจากการเดินสองคนมาเป็นเดินคนเดียว มันก็มีเหงานิดหน่อย แต่มันก็คิดได้ว่า ถึงไม่มีใครเดินข้างๆ แต่เราก็ยังเดินไปข้างหน้าด้วยขาของเราเองได้หนิเนอะ เวลาเห็นคู่รักคู่อื่นเค้าเดินจูงมือ กอดคอกันกระหนุงกระหนิง มันก็มีแอบอิจฉาและคิดถึงอดีตแฟนนิดนึง แต่...พอลองมองดูรอบๆ ตัวจะเห็นว่า คนที่เค้ามาคนเดียวก็ออกจะเยอะแยะ ไม่ใช่เราคนเดียวซะหน่อย มีคนโสดเป็นเพื่อนอีกเป็นล้านนนนน ว่าแล้วก็สบายใจ 555+
อยู่ๆ จากคนมีแฟนต้องกลายเป็นคนโสดโดยไม่มีคำบอกลา ไม่มีอะไรทั้งนั้น ช็อคมั้ย??? ช็อคค่ะ แต่น้ำตาไม่มีจะเสียละ ไม่รู้จะฟูมฟายไปทำไมกับคนที่เค้าไม่รักเรา ถ้าเค้ารักเราจริงเค้าจะเดินจากเราไปทำไมล่ะเนอะ และการกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้งมันก็ทำให้เราได้ระทึก เอ๊ย ระลึกถึงอะไรหลายๆ อย่างที่เราเคยหลงลืมไป
- ก่อนมีแฟน ชีวิตเราออกจะแฮปปี้ มีความสุข มีแต่รอยยิ้ม อยู่กับเพื่อนๆ ไปไหนไปกัน แต่พอมีแฟนก็ต้องมานั่งแคร์แฟน แฟนโกรธก็ต้องมาคอยง้อ ไหนจะเรื่องกิ๊กที่จับได้แต่คุณเธอก็แถไปอย่างเนียนๆ ให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังเหมือนเดิม ร้องไห้ไม่รู้เท่าไหร่ มาดูรูปตัวเองตอนนี้เทียบกับตอนยังไม่มีแฟน หน้าโทรมไปเยอะ ก็เครียดเรื่องแฟนนั่นแหละ ไม่ได้ละ ชั้นต้องกลับมาห่วงความสวยของชั้นบ้าง !!!
- ตอนมีแฟน วันๆ ก็ทุ่มเทให้แต่กับแฟนจนเพื่อนๆ ที่เคยสนิทสนมด้วยเริ่มหายไปทีละคนๆ (ไม่ได้ทะเลาะกันนะ แต่เหมือนเราไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนๆ เพราะมัวแต่คุยกับแฟน นิสัยไม่ดีจริงๆ เหอะๆ) แต่พอโดนทิ้งปุ๊บ พวกเพื่อนๆ พวกนี้แหละไม่รู้ปรี่กันมาจากไหน มาถามไถ่ มาคอยเป็นห่วง ยิ่งกว่านั้นยังเสนอตัวเข้ามาเป็นแม่สื่อจะชักนำชายหนุ่มนิสัยดีเข้ามาให้รู้จักอีกด้วย คริคริ เราเลยรู้สึกเหมือนว่าเราสูญเสียสังคมแคบๆ จากคนๆ นึงที่ไม่เห็นค่าของเราไป แต่เราได้สังคมที่อบอุ่นจากเพื่อนที่แสนดีเหล่านี้กลับคืนมา
- ตอนมีแฟน ติดโทรศัพท์ ไปไหนก็ไปกับแฟนสองคนตลอด บางทีก็ไม่ได้ร่วมกิจกรรมครอบครัวอะไรกับเค้าเลย พอไม่มีแฟนแล้วเราก็เริ่มได้คุยกับคนที่บ้านมากขึ้น ไปไหนกับครอบครัวมากขึ้น และได้รับรู้ถึงความรักความห่วงใยจากคนในครอบครัวมากขึ้น ความรักที่มากกว่าที่เคยได้จากแฟนร้อยเท่าพันเท่า แม้เค้าจะไม่มีคำหวานให้เราเหมือนกับที่แฟนมี แต่การกระทำของเค้าตะหากที่บ่งบอกว่ารักเรามากแค่ไหน ผิดกับแฟนที่ปากบอกว่ารัก แต่การกระทำต่างกันร้อยโยชน์
เราก็แค่อยากมาแชร์และให้กำลังใจกับเพื่อนๆ ในนี้ที่อาจจะไม่สมหวังในความรักหรือกำลังอกหักเหมือนเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะร้องไห้ฟูมฟายเสียใจว่าทำไมเค้าไม่รัก ทำไมเค้าต้องทิ้งเรา แต่ในวันนี้เรากลับคิดว่าถ้าเค้าไม่ได้รักเราแล้ว แล้วเค้าทิ้งเราไปมันก็ถูกแล้ว ดีกว่าฝืนคบกันทั้งที่ไม่ได้รัก อีกอย่างมันก็แสดงว่าเค้าไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเราค่ะ เราเชื่อว่าตามปกติแล้วโลกจะต้องเหวี่ยงคนที่ไม่ใช่มาก่อนคนที่ใช่เสมอ เพราะฉะนั้นคิดในแง่ดีว่าเราคงหมดเวรหมดกรรมกับคนที่ไม่ใช่แล้ว และคนที่ใช่กำลังจะเข้ามา อาจจะเร็วๆ นี้ หรืออาจจะอีกหลายๆ ปี อย่างที่เห็นดาราหลายๆ คน บางคนก็คบกันมานานแต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป ไม่นานก็ไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าจนถึงขั้นลงหลักปักฐานกัน มีความสุข ชีวิตครอบครัวแฮปปี้ บางทีชีวิตของเราๆ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้เนอะ ^^
เมื่ออยู่ๆ ก็กลายเป็นคนโสดไม่รู้ตัว...
หลายวันผ่านไป ถามว่าเสียใจมั้ย?...ตอบได้ว่าเสียใจ...แต่ไม่แคร์ !!! ถามว่าเหงามั้ยที่อยู่ๆ ต้องเปลี่ยนจากการเดินสองคนมาเป็นเดินคนเดียว มันก็มีเหงานิดหน่อย แต่มันก็คิดได้ว่า ถึงไม่มีใครเดินข้างๆ แต่เราก็ยังเดินไปข้างหน้าด้วยขาของเราเองได้หนิเนอะ เวลาเห็นคู่รักคู่อื่นเค้าเดินจูงมือ กอดคอกันกระหนุงกระหนิง มันก็มีแอบอิจฉาและคิดถึงอดีตแฟนนิดนึง แต่...พอลองมองดูรอบๆ ตัวจะเห็นว่า คนที่เค้ามาคนเดียวก็ออกจะเยอะแยะ ไม่ใช่เราคนเดียวซะหน่อย มีคนโสดเป็นเพื่อนอีกเป็นล้านนนนน ว่าแล้วก็สบายใจ 555+
อยู่ๆ จากคนมีแฟนต้องกลายเป็นคนโสดโดยไม่มีคำบอกลา ไม่มีอะไรทั้งนั้น ช็อคมั้ย??? ช็อคค่ะ แต่น้ำตาไม่มีจะเสียละ ไม่รู้จะฟูมฟายไปทำไมกับคนที่เค้าไม่รักเรา ถ้าเค้ารักเราจริงเค้าจะเดินจากเราไปทำไมล่ะเนอะ และการกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้งมันก็ทำให้เราได้ระทึก เอ๊ย ระลึกถึงอะไรหลายๆ อย่างที่เราเคยหลงลืมไป
- ก่อนมีแฟน ชีวิตเราออกจะแฮปปี้ มีความสุข มีแต่รอยยิ้ม อยู่กับเพื่อนๆ ไปไหนไปกัน แต่พอมีแฟนก็ต้องมานั่งแคร์แฟน แฟนโกรธก็ต้องมาคอยง้อ ไหนจะเรื่องกิ๊กที่จับได้แต่คุณเธอก็แถไปอย่างเนียนๆ ให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังเหมือนเดิม ร้องไห้ไม่รู้เท่าไหร่ มาดูรูปตัวเองตอนนี้เทียบกับตอนยังไม่มีแฟน หน้าโทรมไปเยอะ ก็เครียดเรื่องแฟนนั่นแหละ ไม่ได้ละ ชั้นต้องกลับมาห่วงความสวยของชั้นบ้าง !!!
- ตอนมีแฟน วันๆ ก็ทุ่มเทให้แต่กับแฟนจนเพื่อนๆ ที่เคยสนิทสนมด้วยเริ่มหายไปทีละคนๆ (ไม่ได้ทะเลาะกันนะ แต่เหมือนเราไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนๆ เพราะมัวแต่คุยกับแฟน นิสัยไม่ดีจริงๆ เหอะๆ) แต่พอโดนทิ้งปุ๊บ พวกเพื่อนๆ พวกนี้แหละไม่รู้ปรี่กันมาจากไหน มาถามไถ่ มาคอยเป็นห่วง ยิ่งกว่านั้นยังเสนอตัวเข้ามาเป็นแม่สื่อจะชักนำชายหนุ่มนิสัยดีเข้ามาให้รู้จักอีกด้วย คริคริ เราเลยรู้สึกเหมือนว่าเราสูญเสียสังคมแคบๆ จากคนๆ นึงที่ไม่เห็นค่าของเราไป แต่เราได้สังคมที่อบอุ่นจากเพื่อนที่แสนดีเหล่านี้กลับคืนมา
- ตอนมีแฟน ติดโทรศัพท์ ไปไหนก็ไปกับแฟนสองคนตลอด บางทีก็ไม่ได้ร่วมกิจกรรมครอบครัวอะไรกับเค้าเลย พอไม่มีแฟนแล้วเราก็เริ่มได้คุยกับคนที่บ้านมากขึ้น ไปไหนกับครอบครัวมากขึ้น และได้รับรู้ถึงความรักความห่วงใยจากคนในครอบครัวมากขึ้น ความรักที่มากกว่าที่เคยได้จากแฟนร้อยเท่าพันเท่า แม้เค้าจะไม่มีคำหวานให้เราเหมือนกับที่แฟนมี แต่การกระทำของเค้าตะหากที่บ่งบอกว่ารักเรามากแค่ไหน ผิดกับแฟนที่ปากบอกว่ารัก แต่การกระทำต่างกันร้อยโยชน์
เราก็แค่อยากมาแชร์และให้กำลังใจกับเพื่อนๆ ในนี้ที่อาจจะไม่สมหวังในความรักหรือกำลังอกหักเหมือนเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะร้องไห้ฟูมฟายเสียใจว่าทำไมเค้าไม่รัก ทำไมเค้าต้องทิ้งเรา แต่ในวันนี้เรากลับคิดว่าถ้าเค้าไม่ได้รักเราแล้ว แล้วเค้าทิ้งเราไปมันก็ถูกแล้ว ดีกว่าฝืนคบกันทั้งที่ไม่ได้รัก อีกอย่างมันก็แสดงว่าเค้าไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเราค่ะ เราเชื่อว่าตามปกติแล้วโลกจะต้องเหวี่ยงคนที่ไม่ใช่มาก่อนคนที่ใช่เสมอ เพราะฉะนั้นคิดในแง่ดีว่าเราคงหมดเวรหมดกรรมกับคนที่ไม่ใช่แล้ว และคนที่ใช่กำลังจะเข้ามา อาจจะเร็วๆ นี้ หรืออาจจะอีกหลายๆ ปี อย่างที่เห็นดาราหลายๆ คน บางคนก็คบกันมานานแต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป ไม่นานก็ไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าจนถึงขั้นลงหลักปักฐานกัน มีความสุข ชีวิตครอบครัวแฮปปี้ บางทีชีวิตของเราๆ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้เนอะ ^^