วิทยาศาสตร์ เป็นความรู้ที่ได้มาจากการสังเกตุธรรมชาติที่มีอยู่จริง โดยจะใช้เหตุผลในการศึกษา และยังมีการศึกษาอย่างเป็นระบบ รวมทั้งจะเชื่อในทฤษฎีหรือหลักการใดก็ต่อเมื่อได้มีการพิสูจน์จนเห็นผลอย่างแน่ชัดแล้วเท่านั้น ซึ่งวิทยาศาสตร์เป็นหลักวิชาในการค้นหาความจริงของธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของผู้คนในยุคนี้
ไสยศาสตร์ แปลว่า ศาสตร์หรือวิชาของคนหลับ หรือคนที่ยังละเมอๆอยู่(ยังไม่ตื่น) ซึ่งหลักการสำคัญของไสยศาสตร์ ก็คือจะสอนให้เชื่อเอาไว้ก่อน ห้ามถาม ห้ามสงสัย (เพราะตอบไม่ได้) ไสยศาสตร์จึงเป็นแค่ความเชื่อ ที่ไม่มีหลักการแน่นอนและไม่มีเหตุผลมาอธิบาย ซึ่งหลักวิชาใดที่ไม่มีเหตุผล พิสูจน์ไม่ได้ จะจัดว่าเป็นไสยศาสตร์ทั้งสิ้น ซึ่งไสยศาสตร์จะเป็นหลักวิชาในการค้นหาความจริงของธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับมากมาก่อนของผู้คนในยุคโบราณ(แม้ยุคนี้ก็ยังมีหลงเหลืออยู่มากหมือนกัน)
ไสยศาสตร์จะตรงข้ามกับวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาสตตร์ไม่ใช้ความเชื่อ จะใช้เหตุผลที่พิสูจนได้จริงเท่านั้น แต่ไสยศาสตร์จะใช้ความเชื่อที่ไม่ต้องการการพิสูจน์และไม่ต้องมีเหตุผล
ในยุคที่ผู้คนยังไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มากอย่างในปัจจุบัน ไสยศาสตร์ก็ย่อมที่จะเจริญ เพราะเป็นที่พึ่งของผู้คนในยุคนั้นได้ แต่ในสมัยใหม่นี้ที่ผู้คนมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มากแล้ว ไสยศาสตร์ก็ค่อยๆเสื่อมหายไป และวิทยาศาสตร์ก็เข้ามาแทนที่ จะมีก็คนที่ยังติดอยู่ในความเชื่อของยุคเก่าๆเท่านั้นที่ยังเป็นพวกไสยศาสตร์อยู่ ซึ่งก็ยังมีอยู่มากเหมือนกันในปัจจุบัน
วิทยาศาสตร์ - ไสยศาสตร์
ไสยศาสตร์ แปลว่า ศาสตร์หรือวิชาของคนหลับ หรือคนที่ยังละเมอๆอยู่(ยังไม่ตื่น) ซึ่งหลักการสำคัญของไสยศาสตร์ ก็คือจะสอนให้เชื่อเอาไว้ก่อน ห้ามถาม ห้ามสงสัย (เพราะตอบไม่ได้) ไสยศาสตร์จึงเป็นแค่ความเชื่อ ที่ไม่มีหลักการแน่นอนและไม่มีเหตุผลมาอธิบาย ซึ่งหลักวิชาใดที่ไม่มีเหตุผล พิสูจน์ไม่ได้ จะจัดว่าเป็นไสยศาสตร์ทั้งสิ้น ซึ่งไสยศาสตร์จะเป็นหลักวิชาในการค้นหาความจริงของธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับมากมาก่อนของผู้คนในยุคโบราณ(แม้ยุคนี้ก็ยังมีหลงเหลืออยู่มากหมือนกัน)
ไสยศาสตร์จะตรงข้ามกับวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาสตตร์ไม่ใช้ความเชื่อ จะใช้เหตุผลที่พิสูจนได้จริงเท่านั้น แต่ไสยศาสตร์จะใช้ความเชื่อที่ไม่ต้องการการพิสูจน์และไม่ต้องมีเหตุผล
ในยุคที่ผู้คนยังไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มากอย่างในปัจจุบัน ไสยศาสตร์ก็ย่อมที่จะเจริญ เพราะเป็นที่พึ่งของผู้คนในยุคนั้นได้ แต่ในสมัยใหม่นี้ที่ผู้คนมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มากแล้ว ไสยศาสตร์ก็ค่อยๆเสื่อมหายไป และวิทยาศาสตร์ก็เข้ามาแทนที่ จะมีก็คนที่ยังติดอยู่ในความเชื่อของยุคเก่าๆเท่านั้นที่ยังเป็นพวกไสยศาสตร์อยู่ ซึ่งก็ยังมีอยู่มากเหมือนกันในปัจจุบัน