ตึกถล่ม รอยัล พลาซ่า ปี 2536 ทำไมสภาพปูนที่

กระทู้คำถาม
เกิดหลังเหตุ การเหมือนปูนที่ถูก ค้อนทุบจนละเอียดครับ

  / ข้อมูลจากวารสารสารคดี  เดิมเป็นตึก 3 ชั้น ก่อนเกิดเหตุต่อเติมเป็น 6 ชั้น ตอนต่อเติมใช้เสาค้ำน้อยไป

พอใช้งานไปสักพัก ตึกก็ถล่ม /

คิดอย่างชาวบ้าน สภาพตึกหลังเหตุการทราก ปูนน่าจะชิ้นใหญ่กว่านี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
หลวงพ่อคูณ ตอนนั้นท่านยังไม่ดัง ผมเองก็ยังไม่รู้จักครับ  วันนั้น หลวงพ่อคูณท่านมาที่ซากตึกถล่ม เพื่อนๆ อาสากู้ภัย ต่างเข้าไปลุมล้อมขอพระ ขอขอดีจากท่าน ผมยังได้รับเหรียญจากมือท่านเลยครับ  ท่านบอก พวกมงเหนื่อยกัน กูให้ของดีให้พวกมงไว้คุ้มครองตัวกันนะ ยังจำคำท่านได้ทุกวันนี้ เหรียญหลวงพ่อคูณ ก็เสมือนเหรียญกล้าหาญของพวกเรา ผมยังเก็บรักษาไว้อย่างดี  
ต้องขอบคุณความพร้อม ของหน่วยงานราชการนครราฃสีมาตอนนั้น พวกผมใช้เวลารวมตัวหลังจากรับแจ้งทางวิทยุจากฮุก 31  รวมกำลังคน อุปกรณ์กู้ภัย ขับรถเดินทางจากพนมสารคาม ฉะเชิงเทรา ถึงที่หมายโรงแรมรอยัล พลาซ่า ประมาณ 5 ชั่วโมง มาถึงก็พบกับการจัดการจราจร ของรถอาสากู้ภัยหลายร้อยคัน อาสากู้ภัยเป็นพัน ไทยมุงเกินหมื่น มีการจัดทำเต้นท์พยาบาล เต้นท์อาหาร เต้นท์เครื่องดืม ผ้าเย็น คืนนั้นกินข้าวกล่องข้างซากตึก จำได้ดีครับ เพราะเป็นข้าวกล่อง อาหารอย่างดี จากโรงแรมสีมาธานี ตอนนี้นกำลังเปิดใหม่ๆ  ยอมรับเลยนะครับว่า  คนที่สั้งการสูงสุดของโคราชตอนนี้น ไม่รู้ว่าใครนะครับ  เก่งมากๆ ผมยังพูดเรื่องนี้เสมอเมื่อมีโอกาส ว่าถ้าบ้านเรามีเหตุ ต้องเก่งและพร้อมเหมือนโคราช ต้องขอชมเชยครับ ประชนคนโคราชก็สุดยอด กู้ภัยขอชะแลงก็ได้ชะแลง ขอบุ้งกี้เพิ่มคนก็ช่วยกันหามาเพิ่ม เครื่องกระแทกคอนกรีตมีใช้กันเป็นร้อยตัวเลยครับ  มีการคาดการจะใช้เครืองจักร์หนัก รถตัก รถแมคโฮ ชาวบ้านและอาสากู้ภัยก็ไม่ยอมกัน เพราะกลัวคนเจ็บที่ยังไม่ตาย จะกระทบกับการทำงานของเครื่องจักร คนเป็นพัน ขนซากคานคอนกรีตออกมา 1-3 วันแรก มีคนรอดตายร่วมร้อยคน...
ความคิดเห็นที่ 26



เป็นโชคดี ในความโชคร้ายของคนโคราชครับ  โชคร้ายที่ตึกถล่มในเมืองโคราช แต่ก็โชคดีครับ ที่เหตุการณ์ เกิดตอนสายๆ ถ้าเช้ากว่านี้ คนคงตายกันอีกมากครับ  ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืน เฉพาะหมอนวดก็จะเกินร้อยแล้วครับ ไม่นับแขกที่ไปเทียว เพื่อนๆจะเห็นแท่งอาคารด้านหน้าที่ไม่ถล่ม เป็น
โครงสร้างที่แข็งแรงมากครับ ก็ยังสงสัยทุกวันนี้ว่าทำมัย มันไม่พังมาพร้อมที่อื่น หลังคาใหญ่ ที่เห็นด้านขวา เป็นบาร์ดิสโก้เธค เชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นสถานที่อาบอบนวด ผมมานอนพักค้างแรมที่รอยัล พลาซ๋าบ่อย ด้วยความที่ชอบเดินเทียว เลยพอรู้เส้นทางภายในพอสมควร ใต้โครงเหล็ก มีบาร์เครื่องดื่ม เหล้าฝรั่งอยู่ในชั้นว่าง ขวดยังไม่แตกเลย  กล้าพูดได้เลยนะครับ ชุดของพวกผมเป็นชุดแรกๆ ที่เจาะอาคารเศษซาก เข้าทางดิสโก้เธค ตอนหลังพี่ร่วม กับปอ เขามีเครื่องมือทันสมัยกว่า เข้ามาช่วย จุดนี่้เป็นช่องทางที่พบผู้รอดชีวิตก่อนจุดอื่นเลยนะครับ ตอนนั้น น่ายินดีครับ กู้ภัยหลายต่อเลยหน่วยงาน ไม่มีใครทะเลาะวิวาทกันเลยครับ ทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่จริงๆ เต็มไปด้วยความรักสามัคคีกันอย่างแท้จริง  และเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นเหตุให้ ร่วมกับปอ เลิกทะเลาะกัน  คนเราเมื่อได้มาร่วมงานยากลำบากด้วยกัน มิตรภาพก็เกิดขึ้นครับ

ความภูมิอย่างหนึ่ง ภูมิใจอย่างสูงสุด ในหลวงท่านทอดพระเตร เห็นการทำงาน ความยากลำบากของอาสากู้ถภัย ทางสำนักพระราชวัง นำ อุปกรณ์กู้ภัยพระราชทานมามอบให้ หมวกนีรภัย เครื่องเจาะกระแทกคอนกรีต ถุงมือหนังอย่างหนา ฯลฯ ยังความปิติ และเป็นพลังให้อาสากู้ภัยทุ่มเททำงานกันหนักยิ่งชึ้น แข่งกับเวลา ที่เดินไปอย่างรวดเร็ว ผู้บาดเจ็บ เขารอการช่วยเหลือจากเรา...........
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเป็นลูกค้าพักประจำที่รอยัล พลาซ่าโคราชครับ เป็นโรงแรมที่สวยและทันสมัยมากๆ ในสมัยนั้น มีสถานบันเทิงหลายต่อเลยอย่าง อาบอบนวด คาเฟ่ โต๊ะสนุ๊ก ดิสโก้บาร์ .. ช่วงนั้นผมมีโอกาส ได้รับเหมางานระบบชลประทาน จากสำนักงานชลประทาน 6  นครราชสีมา เลยได้อาศัยที่รอยัล พลาซ่าโคราช หลายต่อหลายคืน  จนใก้ลกับวันตึกถล่ม  ตอนนั้นจำได้ดี กำลังขับรถอยู่แถวบ้าน พนมสารคาม  ฉะเชิงเทรา ได้ยินเสียงจาก ว. วิทยุ  จากศูนย์วิทยุ กู้ภัยพนม แจ้งว่า ทางศูนย์วิทยุ กู้ภัยฮุก 31 โคราช ร้องเรียก ว.7 ขอความช่วยเหลือ ตึกโรงแรมรอยัส พลาซ่า ถล่ม ! ต้องการกำลังพลอาสากู้ภัยจำนวนมาก  ตอนนั้นเสียงวิทยุจากหน่วยงานต่างๆ ก็เรียกระดมพล กันทุกคลื่นความถี่ของอาสากู้ภัย พวกเราอาสากู้ภัยพนม รวมตัวกันกว่า 300 นาย รถยนต์บรรทุกอาสาและอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องเจาะกระแทกคอนกรีต ชะแลง ฯลฯ ใครนึกอะไรออกก็ช่วยกันคว้าไป   ผมอาสาขับรถนำหน้าขบวนในฐานะที่คิดว่า  เราได้มาทำกินที่โคราช ได้พักโรงแรมรอยัล พลาซ่า  น่าจะรู้จักโคราชและโรงแรมรอยัล พลาซ่า เลยได้นำทางและพาเพื่อนพี่น้องอาสาทุบเข้าช่องทางโรงแรมรอยัล พลาซ๋า
ความคิดเห็นที่ 8
เสียดายครับที่สมัยนั้น กล้องถ่ายรูปยังไม่มีดิจิตอล มีแต่กล้องฟลิม์เก็บภาพไว้นานเสียหายหมด เสียดายรูปเก่าๆจริงๆครับ ตอนนั้น ผมอายุ 20 ต้นๆ กำลังร่างกายแข็งแรง วัยทำงาน หุ หุ  ยังจำและขอบคุณ สำนักงานชลประทานที่ 6 นครราชสีมา โดยคุณจรินทร์ ชูกร ผอ.สนง.ชป6 ได้เปิดบ้านรับรองหลังใหญ่อย่างดี ให้อาสากู้ภัยพนม ได้อาศัยพักหลับนอน และเป็นที่อาบน้ำซักเสื้อผ้า  พวกเราอยู่โคราชกัน 14 วันจำได้ดี  นึกแล้วยังภูมิใจไม่หาย ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์เมืองโคราช ยังจำภาพ คนเป็นร้อยเข้าแถวกันส่งต่อบุ้งกี้เศษปูน คนเป็นร้อยต่อแถวจากยอดซากกองเศษ ต่อแถวกันหลายสิบแถว ส่งต่อ ส่งต่อ บุ้งกี้แล้วบุ้งกี้เล่า มันก็ไม่ยอมยุบออกหมด แต่แปลกมากที่ไม่มีใครบ่นเหนี่อย  พอมีการขุดพบผู้รอดชีวิต เสียงปรกมือก็จะดังสนั่นจากประชาชนที่ถูกกันอยู่นอกเขตห้ามเข้า ฟังแล้ว ยิ้มอย่างภูมิใจ
ความคิดเห็นที่ 20
ช่วงนั้นเรียนอยู่โรงเรียนตำรวจภูธร 3 (จอหอ)ทั้ง 6 กองร้อย รวม 900 คน ได้เข้าไปช่วยเหลืออยู่ 7 วันๆละ 3 กะๆละ 8 ชั่วโมง กิน นอน อาบน้ำ อยู่ที่นั้นเลย ช่วง2-3 วันแรก กินข้าวไม่ได้เลย เพราะกลิ่นแรงมาก หลังจากเริ่มชินกลิ่น ก็อร่อยล่ะครับทีนี้ เห็นตึกที่มีจานดาวเทียมด้านซ้ายมั้ยครับ พวกเราเข้าไปทานข้าวใต้ตึกนั่นแหล่ะ ทานไป ทานมา กลิ่นอะไรว๊ะเนี่ย มองไปข้างบน อ้าว ขาใครมาห้อยไว้ข้างบน กำลังบวมเต็มที่เลย วงแตกสิครับ คราวนี้
ผมรู้จักสาหร่ายญี่ปุ่นครั้งแรกก็ที่นี่ เนื่องจากช่วงที่รื้อค้นซากตึกเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและหลักฐานต่างๆ ก็เห็นกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งแตกอยู่ เปิดดูเห็นซองสาหร่ายญี่ปุ่น หลายซอง ก็ยกมือไหว้ขอเจ้าของเขา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ลองชิมดู ครั้งแรกในชีวิตจริงๆครับ
ช่วงที่รื้อค้นซากตึก ก็ต้องคอยระวังตึกด้านซ้ายมือ เพราะมันเอียงอยู่เนื่องจากมีซากตึกที่ถล่มค้ำไว้ ฝั่งตรงที่ช่างภาพถ่ายภาพตึกที่ถล่มนี้ เป็นที่ตั้งของทหารช่าง ซึ่งตั้งกล้องวัดระดับความเอียงของตึก และเมื่อใดก็ตามที่มีเสียงนกหวีดดังขึ้นและธงแดงสะบัด พวกที่กำลังรื้อค้นอยู่ต้องรีบวิ่งลงมาอย่างตาลีตาเหลือกเลยครับ
เป็นประสบการณ์ที่ไม่ลืมจริงๆ แม้ว่าจะผ่านไป 20 ปี แล้วก็ตาม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่