ขอชมก่อนเลยอันดับแรกเลยสำหรับงานทางด้านภาพของหนังเรื่องนี้ที่ทำได้ดีมาก สวยจนอัศจรรย์และประทับใจมากๆกับฉากสวยๆของหนังเรื่องนี้
บอกก่อนว่าไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อน จึงไม่ขอเขียนและออกความเห็นเกี่ยวกับหนังสือเพื่อเปรียบเทียบกับหนังนะครับ
ผู้กำกับทำได้ดีในการทำให้คนดูสนุกและตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องที่มีแค่"เสือ"กับคนบนเรือซึ่งเป็นฉากส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้ การแสดงของพระเอกก็ทำได้ดีมากเพราะต้องเล่นคนเดียว ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อมากนัก(แต่ก็ไม่ตื้นเต้นมากแบบหนังบู๊ ออกแนวเนิบๆแต่สนุก)ทั้งๆที่เป็นหนังที่พูดเรื่องศาสนา ถ้าไม่มีฉากที่อลังการเอาแต่เนื้อเรื่องหนังเรื่องนี้คงเป็นหนังอินดี้ แต่การมีภาพที่สวยงามของหนังทำให้กลายเป็นหนังใหญ่และเป็นจุดดึงดูดผู้ชมได้ดีทีเดียว
หนังเรื่องนี้จะดูแค่การผจญภัยก็สนุกได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราดูสิ่งที่หนังแฝงมาก็อาจได้ข้อคิดอะไรกลับไป ซึ่งหนังได้แฝงเรื่องราวคำตอบของพระเจ้าไวได้อย่างแนบเนียน
นักเขียนคนนั้นพบกับพระเจ้าและเข้าใจพระเจ้าผ่านเรื่องเล่าของพายได้อย่างไร?
ในฉากแรกๆของหนังที่พายพูดคุยกับนักเขียนคนหนึ่งที่หาแรงบันดาลใจและเรื่องใหม่ๆในการเขียนหนังสือ นักเขียนได้พูดกับพายว่าลุงของพายได้บอกเขาว่าพายมีเรื่องราวการผจญภัยแสนวิเศษที่จะทำให้เขาเชื่อในพระเจ้า พายก็เริ่มเล่าถึงประวัติของตนเองที่นับถือหลายศาสนา แต่พายไม่ได้นับถือด้วยความเชื่อง่ายๆโดยไร้เหตุผลจากการที่เขามีพ่อเป็นคนหัวสมัยใหม่ที่เชื่อในวิทยาศาสตร์และเหตุผล พายจึงมีความสงสัยเกี่ยวกับทุกศาสนาที่เขาได้พบ โดยเฉพาะความสงสัยในเรื่องของ "พระเจ้า"
พายได้เล่าเรื่องการผจญภัยของเขาที่ต้องอยู่กับ"เสือ"กลางทะเลตามลำพัง พร้อมด้วยอุปสรรคมากมายต่อการเอาชีวิตให้รอด จนสุดท้ายพายก็รอดชีวิตมาได้ แต่ระหว่างที่เขาพักรักษาตัวอยู่ได้มีชายจากญี่ปุ่นมาสอบถามสาเหตุที่เรือล่มกลางทะเลเพื่อนำไปเขียนรายงานเพื่อเรียกเอาเงินประกัน
เรื่องแรกคือเรื่องเดียวกันกับที่นักเขียนได้ฟัง พายเล่าเรื่องนั้นให้ชาวญี่ปุ่นสองคนนั้นฟัง สุดท้ายชายสองคนไม่ยอมเชื่อเพราะเรื่องที่พายเล่ามันดูไม่สมจริงและเหลือเชื่อมาก จึงคาดคั้นให้พายเล่าเรื่องจริงเพราะคิดว่าพายโกหก
พายจึงเล่าอีกเรื่องให้ฟัง แต่ใจความของเรื่องเหมือนกัน เพียงเปลี่ยนแค่ตัวละครและเหตุการณ์ให้ดูน่าเชื่อถือในแบบที่ชายสองคนนั้นต้องการ ชายสองคนนั้นก็พออกพอใจที่ได้ฟังเรื่องที่สองที่พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องจริงแล้วก็ยอมกลับไป
นี่แหละคือพระเจ้าที่นักเขียนหนุ่มได้พบจากเรื่องเล่าทั้งสองของพาย สังเกตได้จากรอยยิ้มที่มุมปากของนักเขียนหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งสอง เรื่องเล่าสองเรื่องเปรียบเสมือนศาสนาต่างๆที่มีประวัติความเป็นมาต่างๆกัน แต่จริงๆแล้วจุดหมายของแต่ละศาสนาก็เหมือนกัน ที่ต้องมีหลายศาสนาก็เพราะแต่ละถิ่นก็จะมีความเชื่อไม่เหมือนกันจึงต้องมีเรื่องราวที่ต่างกันไปเพราะให้คนเชื่อ ผู้ที่พบพระเจ้าต้องแต่งเรื่องราวใหม่เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือตามความเชื่อของคนกลุ่มต่างๆ เหมือนกับเรื่องทั้งสองของพายนั่นเอง
สุดท้ายพระเจ้าก็มีแค่หนึ่งเดียว พายเค้าบอกมา แล้วคุณละพบพระเจ้าจากเรื่องเล่าของพายหรือยัง?
http://www.facebook.com/talkthemovie
https://twitter.com/Talkthemovie
Life of Pi เรื่องเล่าของพายกับการเข้าใจพระเจ้า (สปอย)
ขอชมก่อนเลยอันดับแรกเลยสำหรับงานทางด้านภาพของหนังเรื่องนี้ที่ทำได้ดีมาก สวยจนอัศจรรย์และประทับใจมากๆกับฉากสวยๆของหนังเรื่องนี้
บอกก่อนว่าไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อน จึงไม่ขอเขียนและออกความเห็นเกี่ยวกับหนังสือเพื่อเปรียบเทียบกับหนังนะครับ
ผู้กำกับทำได้ดีในการทำให้คนดูสนุกและตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องที่มีแค่"เสือ"กับคนบนเรือซึ่งเป็นฉากส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้ การแสดงของพระเอกก็ทำได้ดีมากเพราะต้องเล่นคนเดียว ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อมากนัก(แต่ก็ไม่ตื้นเต้นมากแบบหนังบู๊ ออกแนวเนิบๆแต่สนุก)ทั้งๆที่เป็นหนังที่พูดเรื่องศาสนา ถ้าไม่มีฉากที่อลังการเอาแต่เนื้อเรื่องหนังเรื่องนี้คงเป็นหนังอินดี้ แต่การมีภาพที่สวยงามของหนังทำให้กลายเป็นหนังใหญ่และเป็นจุดดึงดูดผู้ชมได้ดีทีเดียว
หนังเรื่องนี้จะดูแค่การผจญภัยก็สนุกได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราดูสิ่งที่หนังแฝงมาก็อาจได้ข้อคิดอะไรกลับไป ซึ่งหนังได้แฝงเรื่องราวคำตอบของพระเจ้าไวได้อย่างแนบเนียน
นักเขียนคนนั้นพบกับพระเจ้าและเข้าใจพระเจ้าผ่านเรื่องเล่าของพายได้อย่างไร?
ในฉากแรกๆของหนังที่พายพูดคุยกับนักเขียนคนหนึ่งที่หาแรงบันดาลใจและเรื่องใหม่ๆในการเขียนหนังสือ นักเขียนได้พูดกับพายว่าลุงของพายได้บอกเขาว่าพายมีเรื่องราวการผจญภัยแสนวิเศษที่จะทำให้เขาเชื่อในพระเจ้า พายก็เริ่มเล่าถึงประวัติของตนเองที่นับถือหลายศาสนา แต่พายไม่ได้นับถือด้วยความเชื่อง่ายๆโดยไร้เหตุผลจากการที่เขามีพ่อเป็นคนหัวสมัยใหม่ที่เชื่อในวิทยาศาสตร์และเหตุผล พายจึงมีความสงสัยเกี่ยวกับทุกศาสนาที่เขาได้พบ โดยเฉพาะความสงสัยในเรื่องของ "พระเจ้า"
พายได้เล่าเรื่องการผจญภัยของเขาที่ต้องอยู่กับ"เสือ"กลางทะเลตามลำพัง พร้อมด้วยอุปสรรคมากมายต่อการเอาชีวิตให้รอด จนสุดท้ายพายก็รอดชีวิตมาได้ แต่ระหว่างที่เขาพักรักษาตัวอยู่ได้มีชายจากญี่ปุ่นมาสอบถามสาเหตุที่เรือล่มกลางทะเลเพื่อนำไปเขียนรายงานเพื่อเรียกเอาเงินประกัน
เรื่องแรกคือเรื่องเดียวกันกับที่นักเขียนได้ฟัง พายเล่าเรื่องนั้นให้ชาวญี่ปุ่นสองคนนั้นฟัง สุดท้ายชายสองคนไม่ยอมเชื่อเพราะเรื่องที่พายเล่ามันดูไม่สมจริงและเหลือเชื่อมาก จึงคาดคั้นให้พายเล่าเรื่องจริงเพราะคิดว่าพายโกหก
พายจึงเล่าอีกเรื่องให้ฟัง แต่ใจความของเรื่องเหมือนกัน เพียงเปลี่ยนแค่ตัวละครและเหตุการณ์ให้ดูน่าเชื่อถือในแบบที่ชายสองคนนั้นต้องการ ชายสองคนนั้นก็พออกพอใจที่ได้ฟังเรื่องที่สองที่พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องจริงแล้วก็ยอมกลับไป
นี่แหละคือพระเจ้าที่นักเขียนหนุ่มได้พบจากเรื่องเล่าทั้งสองของพาย สังเกตได้จากรอยยิ้มที่มุมปากของนักเขียนหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งสอง เรื่องเล่าสองเรื่องเปรียบเสมือนศาสนาต่างๆที่มีประวัติความเป็นมาต่างๆกัน แต่จริงๆแล้วจุดหมายของแต่ละศาสนาก็เหมือนกัน ที่ต้องมีหลายศาสนาก็เพราะแต่ละถิ่นก็จะมีความเชื่อไม่เหมือนกันจึงต้องมีเรื่องราวที่ต่างกันไปเพราะให้คนเชื่อ ผู้ที่พบพระเจ้าต้องแต่งเรื่องราวใหม่เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือตามความเชื่อของคนกลุ่มต่างๆ เหมือนกับเรื่องทั้งสองของพายนั่นเอง
สุดท้ายพระเจ้าก็มีแค่หนึ่งเดียว พายเค้าบอกมา แล้วคุณละพบพระเจ้าจากเรื่องเล่าของพายหรือยัง?
http://www.facebook.com/talkthemovie
https://twitter.com/Talkthemovie