สวัสดีค่ะ เพิ่มไปสัมภาษณ์งานมาค่ะ เลยอยากแชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์ครั้งแรกในชีวิต อิอิ...
ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ เพราะว่าง่วงมากเนื่องจากเมื่อคืนอ่านหนังสือสอบตอนเช้า อีกอย่างคือเตรียมตัวมาบ้างก็เลยกะไปตายเอาดาบหน้าเลยค่ะ
บริษัทที่ติดต่อมาสัมภาษณ์เป็นบริษัทแฟชั่นต่างชาติค่ะ ซึ่ง จขกท ส่ง Resume ไปประมาณ 4-5 ที่ เป็นบริษัทต่างๆชาติหมดและใกล้ที่พัก (ประหยัดค่ะ) เหตุผลเพราะ อยากใช้ภาษาอังกฤษ อยากลองทำงานกับคนต่างชาติค่ะ ซึ่งพอส่งไปก็ไม่มีที่ไหนติดต่อกลับมาเลยภายในเวลา 1 อาทิตย์ จขกท ใจร้อนค่ะ เพราะใกล้ปิดเทอมแล้วกลัวไม่ได้ฝึกงาน เลยโทรกลับไปบริษัทที่อยากทำที่แรกก่อนเลยว่าได้รับ Resume รึยัง HR เลยให้ส่งใหม่พร้อมโทรมานัดวันสัมภาษณ์ ในตำแหน่ง Marketing ซึ่งจริงแล้วควรจะเป็น HR เพราะเรียนรัฐศาสตร์ค่ะ ซึ่งตอนแรกก็ยังลังเลอยู่ค่ะ ไม่มั่นใจเลย
เหตุผลที่รับนัดสัมภาษณ์เพราะว่าแฟนบอกว่า ที่ จขกท เรียนมามันสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้หลายทาง การเรียนเกี่ยวกับการเข้าใจคนมันก็เอามาปรับกับ Marketing ได้อยู่แล้ว ตรงนี้โดนแฟนตินิดนึงว่า ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง 5555
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวหาข้อมูลบริษัท กลุ่มเป้าหมายบริษัท สินค้าบริษัทมีอะไรบ้าง เตรียมคำถาม-คำตอบให้ตัวเองไปเยอะแยะมากเลยค่ะ ไม่อยากไปนั่งเงียบๆ มันกดดัน
บ่ายโมงกว่าๆ ก่อนเวลานัดก็ไปรายงานตัวกับพี่ที่ Information เขาก็ให้นั่งรอ ไม่ถึง 10 นาที พี่คนรับสัมภาษณ์ก็มาและพาขึ้นไปห้องเชือด ระหว่างนั้นก็ให้กรอกข้อมูลนิดหน่อยเช่น ได้ข้อมูลการสมัครจากไหน เคยทำงานอะไรบ้าง เป็นต้น จากนั้นพี่ HR ก็บอกว่า “ภาษาอังกฤษได้นะคะ เพราะเดี๋ยว MD จะมาสัมภาษณ์” ตอนนั้นคิดในใจ MD สัมภาษณ์เลยเหรอ นี่ตำแหน่งฝึกงานนะค้า 5555 นึกว่า HR จะสัมภาษณ์เองซะอีก ส่วนเรื่องสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนั้นเตรียมใจไว้แล้วค่ะ จากนั้นก็นั่งรอประมาณ 2 นาที MD ก็เข้ามา เป็นผู้หญิงท่าทางใจดี ตอนนั้นก็เบาใจหน่อย แล้วก็เริ่มการสัมภาษณ์ค่ะ
- แนะนำตัวเอง
ชื่ออะไร เรียนอะไร ปีไหน ที่ไหน ทำไมถึงมาสมัคร Marketing (ตรงนี้ชิงตอบก่อนที่เขาจะถามค่ะ 55) ทั้งๆที่เรียนมาไม่ตรง คำตอบก็จะเป็นแนว “เนื้อหาวิชาเอามาประยุกต์ใช้ได้กว้างมาก เพราะเรียนเกี่ยวกับความเข้าใจ ความต้องการของคน เปรียบกับนโยบายพรรคที่จูงใจคนให้เลือกตัวเอง แนวๆเดียวกับการตลาดค่ะ”
- จบไปจะทำงาน Marketing เหรอ ไม่ทำงานที่เกี่ยวกับที่เรียนมาเหรอ
เนื้อจากจริงๆแล้วประยุกต์ได้ ทำงานได้หลายอย่างเช่น การบริการ การตลาด การบริหาร แต่เกี่ยวกับที่เรียนที่เป็นการเมืองโดยตรงยังไม่สนใจเพราะสนใจธุรกิจเอกชนมากกว่า
-กิจกรรมที่ทำในมหาวิทยาลัย อะไรก็ได้
อยู่ชมรม บาส วอลเล่ย์/ สัมมนาปัญหาการพัฒนา/สัมมนาการเมืองท้องถิ่น ที่ต่างจังหวัด
-วิชาที่เคยเรียนมีส่วนร่วมยังไงบ้าง
ยกตัวอย่างวิชาที่เรียน ส่วนมากมักเป็นวิชาสัมมนาคือผู้เรียนต้องแลกเปลี่ยนความคิดตลอดเวลา ซึ่งส่วนนี้ จขกท ชอบเรียนแบบนี้มากค่ะ 555
-งานที่เคยทำ
เคยทำงานพาร์ทไทม์หลายงานค่ะ ส่วนมากเป็น Sales คิดว่าข้อนี้น่าจะเกี่ยวกับการที่ HR ยัดเยียด Marketing ให้ค่ะ
-MD บรรยายถึงลักษณะงาน เพื่อนร่วมงาน เกี่ยวกับงาน เป็นต้น-
-ชอบทำงานเป็นกลุ่ม หรือทำคนเดียว
ชอบทำเป็นกลุ่มค่ะ (ชอบแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีเพื่อนค่ะ)
-มีอะไรจะถามอีกไหม-
-ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง
-ต้องมีคอมพ์ส่วนตัวไหม
-พร้อมเริ่มงานเมื่อไร
-ชอบแฟชั่นไหม-
ชอบค่ะ อ่าน Magazine บ่อย แต่ทรัพย์จางค่ะ
-มีอะไรจะเล่าเกี่ยวกับตัวเองอีกไหม
-เคยแลกเปลี่ยน(ประเทศที่ไม่ใช้อังกฤษนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจว่าเมพอังกฤษ 555) แล้วก็อธิบายสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ฯลฯ ค่ะ
-แล้วจะต่อโทหรือเปล่า หรือจะไปแลกเปลี่ยนอีกไหมหลังเรียนจบ
-ข้อนี้ตอบว่า หลังเรียนจบคงไม่เพราะอยากทำงาน อยากเก็บเงิน แล้วค่อยไป
พอหมดเรื่องคุยกัน MD ก็ขอตัวลากับพร้อมบอกว่า จะโทรไปที่หลัง ซึ่งที่ HR ก็มาสัมทับอีกที่ว่าจะติดต่อกลับเร็วที่สุด (ชอบตรงนี้มากค่ะ เพราะเคยสัมภาษณ์งานบางที่ บอกจะโทรกลับแล้วไม่ทำ เสียใจค่ะ 555) จริงๆแล้วน่าจะมีคำถามมากกว่านี้นะคะ แต่ จขกท ลืมแล้วค่ะ ที่เขียนมาเป็นสาระสำคัญแล้วค่ะ
ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้งานนะคะ แต่ยังไงวันนี้ก็เป็นการสัมภาษณ์ที่มีค่ามากค่ะ ในฐานะที่ยังเรียนไม่จบ ซึ่งมีหลายสิ่งที่ทำให้รู้ว่ายังต้องปรับปรุงมากค่ะ เช่น ตอนสัมภาษณ์มือไม้ไปหมดค่ะ T^T แล้วก็ยังมีการไม่สบตาหลายครั้งค่ะ รวมถึงภาษาที่แกรมม่ายังไม่เป๊ะอย่างที่ใจคิด คิดศัพท์ง่ายๆ ไม่ออก และคิดศัพท์เจ๋งๆ แบบ Professional ไม่ได้ ซึ่งต้องแก้ไขค่ะ เพราะเรื่องภาษาอยากใช้ได้แบบคล่องแคล่วและยอดเยี่ยมค่ะ
สำหรับข้อสงสัยที่ว่า จริงๆแล้วอยากทำงาน Marketing หรือเปล่า คำตอบคือ อยากค่ะ เราใช้โอกาสในการฝึกงานเพื่อค้นหาตัวเองได้ อีกอย่างคือ แพลนจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วยค่ะ อิอิ
ย้อนกลับไปดูแล้วก็ยาวมากเลยนะคะเนี่ย
ยังไงก็ขอฝากไว้เป็นประสบการณ์สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ต้องการทราบแนวทาง รวมไปถึงต้องการติ-ชม มือใหม่นะคะ เพราะอยากได้คำแนะนำไปปรับปรุงจริงๆค่ะ
สวัสดีตอนเย็นค่ะ
แชร์ประสบการสัมภาษณ์งาน เด็กฝึกงาน Marketing บริษัทแฟชั่นต่างชาติ ค่ะ
ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ เพราะว่าง่วงมากเนื่องจากเมื่อคืนอ่านหนังสือสอบตอนเช้า อีกอย่างคือเตรียมตัวมาบ้างก็เลยกะไปตายเอาดาบหน้าเลยค่ะ
บริษัทที่ติดต่อมาสัมภาษณ์เป็นบริษัทแฟชั่นต่างชาติค่ะ ซึ่ง จขกท ส่ง Resume ไปประมาณ 4-5 ที่ เป็นบริษัทต่างๆชาติหมดและใกล้ที่พัก (ประหยัดค่ะ) เหตุผลเพราะ อยากใช้ภาษาอังกฤษ อยากลองทำงานกับคนต่างชาติค่ะ ซึ่งพอส่งไปก็ไม่มีที่ไหนติดต่อกลับมาเลยภายในเวลา 1 อาทิตย์ จขกท ใจร้อนค่ะ เพราะใกล้ปิดเทอมแล้วกลัวไม่ได้ฝึกงาน เลยโทรกลับไปบริษัทที่อยากทำที่แรกก่อนเลยว่าได้รับ Resume รึยัง HR เลยให้ส่งใหม่พร้อมโทรมานัดวันสัมภาษณ์ ในตำแหน่ง Marketing ซึ่งจริงแล้วควรจะเป็น HR เพราะเรียนรัฐศาสตร์ค่ะ ซึ่งตอนแรกก็ยังลังเลอยู่ค่ะ ไม่มั่นใจเลย
เหตุผลที่รับนัดสัมภาษณ์เพราะว่าแฟนบอกว่า ที่ จขกท เรียนมามันสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้หลายทาง การเรียนเกี่ยวกับการเข้าใจคนมันก็เอามาปรับกับ Marketing ได้อยู่แล้ว ตรงนี้โดนแฟนตินิดนึงว่า ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง 5555
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวหาข้อมูลบริษัท กลุ่มเป้าหมายบริษัท สินค้าบริษัทมีอะไรบ้าง เตรียมคำถาม-คำตอบให้ตัวเองไปเยอะแยะมากเลยค่ะ ไม่อยากไปนั่งเงียบๆ มันกดดัน
บ่ายโมงกว่าๆ ก่อนเวลานัดก็ไปรายงานตัวกับพี่ที่ Information เขาก็ให้นั่งรอ ไม่ถึง 10 นาที พี่คนรับสัมภาษณ์ก็มาและพาขึ้นไปห้องเชือด ระหว่างนั้นก็ให้กรอกข้อมูลนิดหน่อยเช่น ได้ข้อมูลการสมัครจากไหน เคยทำงานอะไรบ้าง เป็นต้น จากนั้นพี่ HR ก็บอกว่า “ภาษาอังกฤษได้นะคะ เพราะเดี๋ยว MD จะมาสัมภาษณ์” ตอนนั้นคิดในใจ MD สัมภาษณ์เลยเหรอ นี่ตำแหน่งฝึกงานนะค้า 5555 นึกว่า HR จะสัมภาษณ์เองซะอีก ส่วนเรื่องสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนั้นเตรียมใจไว้แล้วค่ะ จากนั้นก็นั่งรอประมาณ 2 นาที MD ก็เข้ามา เป็นผู้หญิงท่าทางใจดี ตอนนั้นก็เบาใจหน่อย แล้วก็เริ่มการสัมภาษณ์ค่ะ
- แนะนำตัวเอง
ชื่ออะไร เรียนอะไร ปีไหน ที่ไหน ทำไมถึงมาสมัคร Marketing (ตรงนี้ชิงตอบก่อนที่เขาจะถามค่ะ 55) ทั้งๆที่เรียนมาไม่ตรง คำตอบก็จะเป็นแนว “เนื้อหาวิชาเอามาประยุกต์ใช้ได้กว้างมาก เพราะเรียนเกี่ยวกับความเข้าใจ ความต้องการของคน เปรียบกับนโยบายพรรคที่จูงใจคนให้เลือกตัวเอง แนวๆเดียวกับการตลาดค่ะ”
- จบไปจะทำงาน Marketing เหรอ ไม่ทำงานที่เกี่ยวกับที่เรียนมาเหรอ
เนื้อจากจริงๆแล้วประยุกต์ได้ ทำงานได้หลายอย่างเช่น การบริการ การตลาด การบริหาร แต่เกี่ยวกับที่เรียนที่เป็นการเมืองโดยตรงยังไม่สนใจเพราะสนใจธุรกิจเอกชนมากกว่า
-กิจกรรมที่ทำในมหาวิทยาลัย อะไรก็ได้
อยู่ชมรม บาส วอลเล่ย์/ สัมมนาปัญหาการพัฒนา/สัมมนาการเมืองท้องถิ่น ที่ต่างจังหวัด
-วิชาที่เคยเรียนมีส่วนร่วมยังไงบ้าง
ยกตัวอย่างวิชาที่เรียน ส่วนมากมักเป็นวิชาสัมมนาคือผู้เรียนต้องแลกเปลี่ยนความคิดตลอดเวลา ซึ่งส่วนนี้ จขกท ชอบเรียนแบบนี้มากค่ะ 555
-งานที่เคยทำ
เคยทำงานพาร์ทไทม์หลายงานค่ะ ส่วนมากเป็น Sales คิดว่าข้อนี้น่าจะเกี่ยวกับการที่ HR ยัดเยียด Marketing ให้ค่ะ
-MD บรรยายถึงลักษณะงาน เพื่อนร่วมงาน เกี่ยวกับงาน เป็นต้น-
-ชอบทำงานเป็นกลุ่ม หรือทำคนเดียว
ชอบทำเป็นกลุ่มค่ะ (ชอบแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีเพื่อนค่ะ)
-มีอะไรจะถามอีกไหม-
-ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง
-ต้องมีคอมพ์ส่วนตัวไหม
-พร้อมเริ่มงานเมื่อไร
-ชอบแฟชั่นไหม-
ชอบค่ะ อ่าน Magazine บ่อย แต่ทรัพย์จางค่ะ
-มีอะไรจะเล่าเกี่ยวกับตัวเองอีกไหม
-เคยแลกเปลี่ยน(ประเทศที่ไม่ใช้อังกฤษนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจว่าเมพอังกฤษ 555) แล้วก็อธิบายสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ฯลฯ ค่ะ
-แล้วจะต่อโทหรือเปล่า หรือจะไปแลกเปลี่ยนอีกไหมหลังเรียนจบ
-ข้อนี้ตอบว่า หลังเรียนจบคงไม่เพราะอยากทำงาน อยากเก็บเงิน แล้วค่อยไป
พอหมดเรื่องคุยกัน MD ก็ขอตัวลากับพร้อมบอกว่า จะโทรไปที่หลัง ซึ่งที่ HR ก็มาสัมทับอีกที่ว่าจะติดต่อกลับเร็วที่สุด (ชอบตรงนี้มากค่ะ เพราะเคยสัมภาษณ์งานบางที่ บอกจะโทรกลับแล้วไม่ทำ เสียใจค่ะ 555) จริงๆแล้วน่าจะมีคำถามมากกว่านี้นะคะ แต่ จขกท ลืมแล้วค่ะ ที่เขียนมาเป็นสาระสำคัญแล้วค่ะ
ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้งานนะคะ แต่ยังไงวันนี้ก็เป็นการสัมภาษณ์ที่มีค่ามากค่ะ ในฐานะที่ยังเรียนไม่จบ ซึ่งมีหลายสิ่งที่ทำให้รู้ว่ายังต้องปรับปรุงมากค่ะ เช่น ตอนสัมภาษณ์มือไม้ไปหมดค่ะ T^T แล้วก็ยังมีการไม่สบตาหลายครั้งค่ะ รวมถึงภาษาที่แกรมม่ายังไม่เป๊ะอย่างที่ใจคิด คิดศัพท์ง่ายๆ ไม่ออก และคิดศัพท์เจ๋งๆ แบบ Professional ไม่ได้ ซึ่งต้องแก้ไขค่ะ เพราะเรื่องภาษาอยากใช้ได้แบบคล่องแคล่วและยอดเยี่ยมค่ะ
สำหรับข้อสงสัยที่ว่า จริงๆแล้วอยากทำงาน Marketing หรือเปล่า คำตอบคือ อยากค่ะ เราใช้โอกาสในการฝึกงานเพื่อค้นหาตัวเองได้ อีกอย่างคือ แพลนจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วยค่ะ อิอิ
ย้อนกลับไปดูแล้วก็ยาวมากเลยนะคะเนี่ย
ยังไงก็ขอฝากไว้เป็นประสบการณ์สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ต้องการทราบแนวทาง รวมไปถึงต้องการติ-ชม มือใหม่นะคะ เพราะอยากได้คำแนะนำไปปรับปรุงจริงๆค่ะ
สวัสดีตอนเย็นค่ะ