ข้อคิดจากการเลือกตั้ง ครั้งนี้

1.สังคมได้เห็นชัดเจนว่า พล.ต.อ. พงศพัศ   พงษ์เจริญ   ซึ่งเป็นตำรวจ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์  ที่ต้องทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมเบื้องต้น  แก่ ประชาชนคนไทย นั้น    ได้ประกาศตนแล้วว่า  อยู่ข้างพรรคเพื่อไทย   และ มีข่าวว่า จะขอกลับเข้ารับราชการตำรวจเมื่อ ไม่ได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการ ทม.  
       ดังนั้น การสลัดภาพ การเมือง  ฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทย   ของ พล.ต.อ.พงศพัศ    พงษ์เจริญ  ออกไปเพื่อ กลับสู่องค์กรที่ต้องอำนวยความยุติธรรม      คงไม่ง่ายนัก

2. พรรคเพื่อไทย  ที่เคยมีฐานเสียง ใน กทม. ประมาณ 6แสนคะแนน  โดยประมาณ   กลายเป็น ได้รับมาถึง 1ล้านกว่าคะแนนตามเป้า ที่คาดหมาย   เพิ่มพรวดเดียว 4 แสนคะแนน   ( แสดงให้เห็นถึง ความเบื่อหน่าย ในพรรค ประชาธิปัตย์ ด้วยกระมัง ? ? ? )
                     เห็นได้ว่า  อัตราเพิ่มสูงกว่า อัตราเพิ่มของพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งฐานเสียงเดิม อยู่ที่ ประมาณ 9 แสนคะแนน   และได้รับเพิ่มมาเป็น 1.2ล้านคะนน       ซึ่งเพิ่มเพียง 3แสนคะแนน  น้อยกว่า อัตราการเพิ่มของเพื่อไทย    เป็นสิ่ง ที่ พรรค ปชป.ต้องนำมาขบคิด    และปรับปรุง  ทั้งตัวหัวหน้าพรรค และ ภายในพรรค ปชป.เอง  ! !

3.ไร้รอยต่อ ได้จุดประกายขึ้นแล้ว
    จาก วาทะกรรม ของรัฐบาล  ที่สร้างวาทะกรรมสวยงาม  “ ไร้รอยต่อ”  ขึ้นในการเลือกตั้ง ผู้ว่า ฯกทม. ครั้งนี้  
               ได้จุดประกาย ความรู้สึกของคนต่างจังหวัด หลาย ๆจังหวัด   ที่ มีศักยภาพ อาทิ เชียงใหม่  ภูเก็ต  สงขลา    ขอนแก่น  เชียงราย  นครราชสีมา  ฯลฯ   ให้ตื่นขึ้น สำนึกถึง การกระจายอำนาจของรัฐบาล
               ต่างเริ่มได้มีความคิดว่า    จากการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด    ประชาชนในท้องที่น่าจะได้พ่อเมืองที่  ดีกว่า  พ่อเมืองที่แต่งตั้งมาจากส่วนกลาง   ไม่ว่า ในแง่ของ     ความซื่อสัตย์สุจริต     ความเสียสละ   หรือการพัฒนาท้องถิ่นที่ ความต้องการสิ่งต่าง ๆ ต้องขึ้นมาจากชุมชน         แทน การพัฒนา จากความคิดเห็นที่ส่งลงมา จากราชการส่วน บน ลงมาให้แก่ชุมชนส่วน ล่าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่