กติกาโยนผ้าขึ้นเวทีของนักชกทั้งหลายนั้น มีมาตั้งแต่เมื่อใด และสังเวียนไหนเป็นผู้ใช้กติกาแห่งแรก คงไม่มีใครระบุได้เป๊ะ ๆ
แต่ที่ระบุได้คือ ถ้าพี่เลี้ยงนักมวยโยนผ้าขึ้นเวทีเมื่อใด กรรมการจะยุติการชกเมื่อนั้น โดยปรับให้นักมวยของฝ่ายที่พี่เลี้ยงโยนผ้าขึ้นเวทีเป็น “ผู้แพ้” พร้อมกับชูมือโชว์จั๊กแร้ให้นักมวยอีกฝ่ายเป็น “ผู้ชนะ”
ในแวดวงคนเสื้อแดง ต้องยกให้เฮียขวัญชัยหรือแรมโบ้อีสานเป็นนักชกระดับ “แม่เหล็ก” ที่เรียกเสียงเฮจากคนดูรอบสนามได้ทุกไฟท์ เพราะเฮียขึ้นเวทีตะบันหน้ากับใคร มักปล่อยอาวุธได้อย่างครบเครื่อง แถมน็อคคู่ต่อสู้มานักต่อนักแล้ว
ถึงกับมีคนเปรียบเปรยไว้ว่า “บัวขาว ป.ประมุข” คือ ฮีโร่บนเวทีมวยอาชีพ ในขณะที่ “แรมโบ้อีสาน” เป็นฮีโร่บนเวทีการเมืองของคนเสื้อแดง
ประจักษ์ความจริงดังกล่าว จะเห็นได้จาก 4-5 ไฟล์ล่าสุดของการราวีบนเวทีการเมือง แรมโบ้อีสานน็อคนักมวยเสื้อแดงระดับแม่เหล็กด้วยกันมาแล้วหลายราย
นอกจากน็อคนางพญาเสื้อแดงอิมพีเรียลสลบกลางอากาศบนเวที ยังปะหมัดกับ “สมิงตุ๊ดตู่” ขวัญใจของนายใหญ่อย่างไม่กลัวศักดิ์ศรี ชนิดสมิงตุ๊ดตู่ถูกหมัดแรมโบ้อีสานถึงขั้น “เข่าทรุด” จนต้องให้กรรมการนับสั้นนับยาวมาแล้วหลายครั้ง
แล้วเกิดอะไรขึ้นก็เหลือเดา การขึ้นเวทีราวีบนผืนผ้าใบไฟล์ล่าสุด แรมโบ้อีสานถูกเปรียบมวยกับสื่อโนเนม ซึ่งถือว่าเชิงมวยห่างกันคนละชั้น
แต่แล้วการชกไฟท์นี้กลายเป็น “หักปากกาเซียน” และเป็น ไฟท์พลิกผันอย่างเข็มขัดสั้น โดยแรมโบ้อีสานถูกหมัดชุดที่ถูกตั้งฉายาว่า “หมัดดับอหังการนักย้ายตำรวจใหญ่” กระแทกเข้าที่ปลายคางหลายชุด เล่นเอาแรมโบ้อีสานซึ่งเป็นนักมวยทนหมัดทนเข่าได้ยิ่งกว่า “ไอ้แสบ” หรือ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ถึงกับ “ก้นเตี้ย” เดินเซแซด ๆ กลางเวทีแบบ “ไปไม่เป็น”
ดีที่ระฆังดังหมดยก
ขณะที่กำลังจะขึ้นยกใหม่ แรมโบ้อีสานก้าวออกจากมุมแบบ “ไม่สร่างอาการเมาหมัด” นายใหญ่ซึ่งเชียร์มวยของตนอยู่ข้างสนาม ประจักษ์ถึงอาการนักมวยผู้นี้ จึงแย่งผ้ามาจากพี่เลี้ยง “โยนขึ้นเวทีทันที”
การถูกโยนผ้าขึ้นเวทีครั้งนี้ แรมโบ้อีสานจะต้องพักรักษาอาการเมาหมัดอีกนานแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้
การจะหวนกลับมาขึ้นเวทีเป็นนักชกขวัญใจแม่ยกเสื้อแดงอีกหรือไม่ เร็วเกินไปที่จะให้คำตอบ
ที่มา:
http://www.naewna.com/politic/columnist/5639
ปล.ต้องรอดู ยกต่อไปหล่ะครับ...ว่าจะมันส์ขนาดไหน แต่ตอนนี้ นายใหญ่สิ้นท่าอยู่..ดูไบ..เอิ๊ก ๆ ๆ
โยนผ้าขึ้นเวที.....เอิ๊ก ๆ ๆ
แต่ที่ระบุได้คือ ถ้าพี่เลี้ยงนักมวยโยนผ้าขึ้นเวทีเมื่อใด กรรมการจะยุติการชกเมื่อนั้น โดยปรับให้นักมวยของฝ่ายที่พี่เลี้ยงโยนผ้าขึ้นเวทีเป็น “ผู้แพ้” พร้อมกับชูมือโชว์จั๊กแร้ให้นักมวยอีกฝ่ายเป็น “ผู้ชนะ”
ในแวดวงคนเสื้อแดง ต้องยกให้เฮียขวัญชัยหรือแรมโบ้อีสานเป็นนักชกระดับ “แม่เหล็ก” ที่เรียกเสียงเฮจากคนดูรอบสนามได้ทุกไฟท์ เพราะเฮียขึ้นเวทีตะบันหน้ากับใคร มักปล่อยอาวุธได้อย่างครบเครื่อง แถมน็อคคู่ต่อสู้มานักต่อนักแล้ว
ถึงกับมีคนเปรียบเปรยไว้ว่า “บัวขาว ป.ประมุข” คือ ฮีโร่บนเวทีมวยอาชีพ ในขณะที่ “แรมโบ้อีสาน” เป็นฮีโร่บนเวทีการเมืองของคนเสื้อแดง
ประจักษ์ความจริงดังกล่าว จะเห็นได้จาก 4-5 ไฟล์ล่าสุดของการราวีบนเวทีการเมือง แรมโบ้อีสานน็อคนักมวยเสื้อแดงระดับแม่เหล็กด้วยกันมาแล้วหลายราย
นอกจากน็อคนางพญาเสื้อแดงอิมพีเรียลสลบกลางอากาศบนเวที ยังปะหมัดกับ “สมิงตุ๊ดตู่” ขวัญใจของนายใหญ่อย่างไม่กลัวศักดิ์ศรี ชนิดสมิงตุ๊ดตู่ถูกหมัดแรมโบ้อีสานถึงขั้น “เข่าทรุด” จนต้องให้กรรมการนับสั้นนับยาวมาแล้วหลายครั้ง
แล้วเกิดอะไรขึ้นก็เหลือเดา การขึ้นเวทีราวีบนผืนผ้าใบไฟล์ล่าสุด แรมโบ้อีสานถูกเปรียบมวยกับสื่อโนเนม ซึ่งถือว่าเชิงมวยห่างกันคนละชั้น
แต่แล้วการชกไฟท์นี้กลายเป็น “หักปากกาเซียน” และเป็น ไฟท์พลิกผันอย่างเข็มขัดสั้น โดยแรมโบ้อีสานถูกหมัดชุดที่ถูกตั้งฉายาว่า “หมัดดับอหังการนักย้ายตำรวจใหญ่” กระแทกเข้าที่ปลายคางหลายชุด เล่นเอาแรมโบ้อีสานซึ่งเป็นนักมวยทนหมัดทนเข่าได้ยิ่งกว่า “ไอ้แสบ” หรือ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ถึงกับ “ก้นเตี้ย” เดินเซแซด ๆ กลางเวทีแบบ “ไปไม่เป็น”
ดีที่ระฆังดังหมดยก
ขณะที่กำลังจะขึ้นยกใหม่ แรมโบ้อีสานก้าวออกจากมุมแบบ “ไม่สร่างอาการเมาหมัด” นายใหญ่ซึ่งเชียร์มวยของตนอยู่ข้างสนาม ประจักษ์ถึงอาการนักมวยผู้นี้ จึงแย่งผ้ามาจากพี่เลี้ยง “โยนขึ้นเวทีทันที”
การถูกโยนผ้าขึ้นเวทีครั้งนี้ แรมโบ้อีสานจะต้องพักรักษาอาการเมาหมัดอีกนานแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้
การจะหวนกลับมาขึ้นเวทีเป็นนักชกขวัญใจแม่ยกเสื้อแดงอีกหรือไม่ เร็วเกินไปที่จะให้คำตอบ
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/5639
ปล.ต้องรอดู ยกต่อไปหล่ะครับ...ว่าจะมันส์ขนาดไหน แต่ตอนนี้ นายใหญ่สิ้นท่าอยู่..ดูไบ..เอิ๊ก ๆ ๆ