กลายเป็นข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์ เมื่อมีข่าวบริษัทยักษ์ใหญ่ “ยูนิลิเวอร์” เจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของไทย ประกาศตัดขาดไม่ขอร่วมงานกับพระเอกซูเปอร์สตาร์ ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์สารพัดสินค้า และ ‘คุณแม่แก้ว’ คุณแม่ของพระเอกหนุ่ม สาเหตุหลักเกิดจากทางยูนิลีเวอร์จ้างณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผมเคลียร์ ตกลงค่าตัวโฆษณา ซึ่งรวมถึงการออกอีเวนต์ การร่วมกิจกรรมทุกๆ อย่างที่ยูนิลีเวอร์จัดขึ้น มูลค่าเป็นหลัก 10 ล้านบาท
และเมื่อเดือนก่อนทางยูนิลีเวอร์ได้ซื้อโฆษณาเป็นลักษณะการถ่ายแบบกับนิตยสารดังฉบับหนึ่ง และยกกองไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่น ซึ่งณเดชน์ก็มีแม่ตามไปดูแลใกล้ชิด ระหว่างการทำงาน ทางนิตยสารต้องการเอาใจลูกค้า จึงขอให้ณเดชน์ช่วยถือผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพ แต่ทางแม่แก้วปฏิเสธ และบอกว่าหากต้องการให้เป็นแบบนั้น ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งเงินจำนวนที่เรียกเพิ่มนั้น เป็นหลักแสนบาท
พอกลับมาถึงเมืองไทยว่ากันว่า ทางบรรณธิการนิตยสารเล่มดังกล่าวได้เข้าไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทางยูนิลิเวอร์ฟัง ทางยูนิลีเวอร์จึงส่งดอกไม้พร้อมแนบการ์ดมีข้อความขอโทษ ประมาณว่าถ้าเกิดความผิดพลาดในการทำงานที่ญี่ปุ่นต้องขออภัย แต่นอกจากแม่แก้วจะไม่รับคำขอโทษแล้ว ยังส่งกระเช้าดอกไม้กลับคืนพร้อมสัญญาการทำงานที่กำลังจะหมดลงเดือนมิถุนายนนี้ด้วย
ตรงจุดนี้เองที่สร้างความไม่พอใจให้ทางบริษัทยักษ์ใหญ่นี้เป็นอันมาก ถึงขั้นประกาศถอนโฆษณา หากมีช่วงที่ละครของณเดชน์ออกอากาศและกับทุกๆ สื่อ ทุกๆ รายการที่มีณเดชน์ไปออก เรียกว่าคำสั่งนี้ทำเอาสะเทือนวงการโฆษณาและเอเจนซี่ไม่น้อย เพราะนั่นรวมถึงเม็ดเงินจำนวนหลายร้อยล้านต่อเดือนจะละลายหายไปในพริบตา หากมีการถอนโฆษณาเกิดขึ้นจริง
ถ้าคำสั่งเสียงลือเสียงเล่าอ้างนี้ออกมาจริงๆ ทางช่อง 3 คงกุมขมับอย่างแรง และอีกคนที่เครียดไม่แพ้กันก็เห็นจะเป็น ‘เอ’ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดการของพระเอกคนดัง เพราะทางยูนิลีเวอร์จะไม่ได้ตัดขาดแค่ณเดชน์ แต่ทำท่าตัดขาดเด็กในสังกัด เอ-ศุภชัย ทุกคนด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง ผู้จัดการคนดัง ‘เอ-ศุภชัย’ ซึ่งเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เรื่องเกิดจากที่มีนิตยสารฉบับหนึ่งติดต่อให้ไปถ่ายแบบเพื่อโปรโมตหนังเรื่อง “คู่กรรม” ที่ญี่ปุ่น พอไปถึงทางนิตยสารได้ให้ณเดชน์ถ่ายกับสินค้ามากกว่าที่ตกลงกันไว้ โดยภาพที่ออกมาเหมือนเป็นการถ่ายภาพนิ่งโปรโมตให้กับสินค้าดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ความจริงทางคุณแม่แก้วก็ไม่ได้มีปัญหากับทางสินค้า พอเจอแบบนี้คุณแม่แก้วรู้สึกงง เพราะจากที่ตกลงว่ามาถ่ายแบบ แต่กลับมีสินค้าเข้ามาประกอบ ถ้าอย่างนั้นก็จะเป็นการถ่ายแบบอีกราคาหนึ่ง คุณแม่ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง และโทร.มาแจ้งให้ตนทราบ ตนจึงโทร.ไปชี้แจงไปกับทางนิตยสารและเจ้าของสินค้าให้ทราบ
ต่อข้อถามแล้วเรื่องที่ทางยูนิลีเวอร์ส่งกระเช้าขอโทษ แล้วแม่แก้วกลับส่งคืนนั้นความจริงเป็นอย่างไร ผู้จัดการคนดังกล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ทางยูนิลีเวอร์ไม่ผิด ไม่จำเป็นต้องส่งกระเช้ามา แล้วความจริงกระเช้านั้นก็ยังอยู่กับตน ยังไม่ได้ส่งคืน
ต่อข้อถามว่า ‘ณเดชน์’ จะโดนทางยูนิลีเวอร์แบนสินค้าทุกอย่าง เอ กล่าวว่า สำหรับสินค้าของยูนิลีเวอร์ที่ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอนนี้มียาสระผมเคลียร์ ซึ่งเรื่องที่มีข่าวว่าจะโดนแบน ความจริงแล้วทางสินค้ายังแฮปปี้กับทางณเดชน์อยู่ อย่างสินค้าที่ลงในละครที่ณเดชน์แสดงก็ส่งผลให้กับยอดขายเพิ่มมากขึ้น สรุปตอนนี้ไม่มีปัญหา พูดคุยกันลงตัวแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรกับข่าวที่ออกมา เอกล่าวว่า “ก็ค่อนข้างตกใจ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างเคลียร์กันลงตัวหมดแล้วครับ”
ด้านน.ส.สุทธิภา ปัญญามหทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด โดยผลิตภัณฑ์ “เคลียร์” กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรณีข่าวการต่อสัญญากับพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์ “เคลียร์ เมน” “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นั้น ยูนิลีเวอร์ ไม่มีนโยบายที่จะถอนหรือยกเลิกการโฆษณาในรายการที่มี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นผู้แสดง เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ ซึ่งการตัดสินใจซื้อโฆษณาแต่ละครั้งทางบริษัทมายด์แชร์จะเป็นผู้พิจารณาจากเรตติ้ง ความนิยม และความน่าสนใจของรายการเป็นหลัก
พร้อมกันนี้การปฏิบัติต่อพรีเซนเตอร์ของยูนิลีเวอร์ จะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งบริษัทจะปฏิบัติตามสัญญาอย่างครบถ้วนจนกว่าสัญญาจะหมดลง ส่วนการพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนงานในอนาคตว่ามีความเหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์หรือไม่ และการพิจารณาต่อสัญญาไม่ได้ขึ้นอยู่กับยูนิลีเวอร์เพียงฝ่ายเดียว ต้องขึ้นกับความเห็นชอบของทุกฝ่ายคือ พรีเซนเตอร์ ลูกค้า และเอเยนซี่
ข่าวจาก : ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qTTVNVFF5TUE9PQ==&subcatid=
ยูนิลิเวอร์ แถลงยัน ไม่มีนโยบายถอนโฆษณา"ณเดชน์"-ด้าน‘เอ’ศุภชัย ชี้เคลียร์กันแล้ว
กลายเป็นข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์ เมื่อมีข่าวบริษัทยักษ์ใหญ่ “ยูนิลิเวอร์” เจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของไทย ประกาศตัดขาดไม่ขอร่วมงานกับพระเอกซูเปอร์สตาร์ ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์สารพัดสินค้า และ ‘คุณแม่แก้ว’ คุณแม่ของพระเอกหนุ่ม สาเหตุหลักเกิดจากทางยูนิลีเวอร์จ้างณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผมเคลียร์ ตกลงค่าตัวโฆษณา ซึ่งรวมถึงการออกอีเวนต์ การร่วมกิจกรรมทุกๆ อย่างที่ยูนิลีเวอร์จัดขึ้น มูลค่าเป็นหลัก 10 ล้านบาท
และเมื่อเดือนก่อนทางยูนิลีเวอร์ได้ซื้อโฆษณาเป็นลักษณะการถ่ายแบบกับนิตยสารดังฉบับหนึ่ง และยกกองไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่น ซึ่งณเดชน์ก็มีแม่ตามไปดูแลใกล้ชิด ระหว่างการทำงาน ทางนิตยสารต้องการเอาใจลูกค้า จึงขอให้ณเดชน์ช่วยถือผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพ แต่ทางแม่แก้วปฏิเสธ และบอกว่าหากต้องการให้เป็นแบบนั้น ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งเงินจำนวนที่เรียกเพิ่มนั้น เป็นหลักแสนบาท
พอกลับมาถึงเมืองไทยว่ากันว่า ทางบรรณธิการนิตยสารเล่มดังกล่าวได้เข้าไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทางยูนิลิเวอร์ฟัง ทางยูนิลีเวอร์จึงส่งดอกไม้พร้อมแนบการ์ดมีข้อความขอโทษ ประมาณว่าถ้าเกิดความผิดพลาดในการทำงานที่ญี่ปุ่นต้องขออภัย แต่นอกจากแม่แก้วจะไม่รับคำขอโทษแล้ว ยังส่งกระเช้าดอกไม้กลับคืนพร้อมสัญญาการทำงานที่กำลังจะหมดลงเดือนมิถุนายนนี้ด้วย
ตรงจุดนี้เองที่สร้างความไม่พอใจให้ทางบริษัทยักษ์ใหญ่นี้เป็นอันมาก ถึงขั้นประกาศถอนโฆษณา หากมีช่วงที่ละครของณเดชน์ออกอากาศและกับทุกๆ สื่อ ทุกๆ รายการที่มีณเดชน์ไปออก เรียกว่าคำสั่งนี้ทำเอาสะเทือนวงการโฆษณาและเอเจนซี่ไม่น้อย เพราะนั่นรวมถึงเม็ดเงินจำนวนหลายร้อยล้านต่อเดือนจะละลายหายไปในพริบตา หากมีการถอนโฆษณาเกิดขึ้นจริง
ถ้าคำสั่งเสียงลือเสียงเล่าอ้างนี้ออกมาจริงๆ ทางช่อง 3 คงกุมขมับอย่างแรง และอีกคนที่เครียดไม่แพ้กันก็เห็นจะเป็น ‘เอ’ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดการของพระเอกคนดัง เพราะทางยูนิลีเวอร์จะไม่ได้ตัดขาดแค่ณเดชน์ แต่ทำท่าตัดขาดเด็กในสังกัด เอ-ศุภชัย ทุกคนด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง ผู้จัดการคนดัง ‘เอ-ศุภชัย’ ซึ่งเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เรื่องเกิดจากที่มีนิตยสารฉบับหนึ่งติดต่อให้ไปถ่ายแบบเพื่อโปรโมตหนังเรื่อง “คู่กรรม” ที่ญี่ปุ่น พอไปถึงทางนิตยสารได้ให้ณเดชน์ถ่ายกับสินค้ามากกว่าที่ตกลงกันไว้ โดยภาพที่ออกมาเหมือนเป็นการถ่ายภาพนิ่งโปรโมตให้กับสินค้าดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ความจริงทางคุณแม่แก้วก็ไม่ได้มีปัญหากับทางสินค้า พอเจอแบบนี้คุณแม่แก้วรู้สึกงง เพราะจากที่ตกลงว่ามาถ่ายแบบ แต่กลับมีสินค้าเข้ามาประกอบ ถ้าอย่างนั้นก็จะเป็นการถ่ายแบบอีกราคาหนึ่ง คุณแม่ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง และโทร.มาแจ้งให้ตนทราบ ตนจึงโทร.ไปชี้แจงไปกับทางนิตยสารและเจ้าของสินค้าให้ทราบ
ต่อข้อถามแล้วเรื่องที่ทางยูนิลีเวอร์ส่งกระเช้าขอโทษ แล้วแม่แก้วกลับส่งคืนนั้นความจริงเป็นอย่างไร ผู้จัดการคนดังกล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ทางยูนิลีเวอร์ไม่ผิด ไม่จำเป็นต้องส่งกระเช้ามา แล้วความจริงกระเช้านั้นก็ยังอยู่กับตน ยังไม่ได้ส่งคืน
ต่อข้อถามว่า ‘ณเดชน์’ จะโดนทางยูนิลีเวอร์แบนสินค้าทุกอย่าง เอ กล่าวว่า สำหรับสินค้าของยูนิลีเวอร์ที่ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอนนี้มียาสระผมเคลียร์ ซึ่งเรื่องที่มีข่าวว่าจะโดนแบน ความจริงแล้วทางสินค้ายังแฮปปี้กับทางณเดชน์อยู่ อย่างสินค้าที่ลงในละครที่ณเดชน์แสดงก็ส่งผลให้กับยอดขายเพิ่มมากขึ้น สรุปตอนนี้ไม่มีปัญหา พูดคุยกันลงตัวแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรกับข่าวที่ออกมา เอกล่าวว่า “ก็ค่อนข้างตกใจ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างเคลียร์กันลงตัวหมดแล้วครับ”
ด้านน.ส.สุทธิภา ปัญญามหทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด โดยผลิตภัณฑ์ “เคลียร์” กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรณีข่าวการต่อสัญญากับพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์ “เคลียร์ เมน” “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นั้น ยูนิลีเวอร์ ไม่มีนโยบายที่จะถอนหรือยกเลิกการโฆษณาในรายการที่มี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นผู้แสดง เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ ซึ่งการตัดสินใจซื้อโฆษณาแต่ละครั้งทางบริษัทมายด์แชร์จะเป็นผู้พิจารณาจากเรตติ้ง ความนิยม และความน่าสนใจของรายการเป็นหลัก
พร้อมกันนี้การปฏิบัติต่อพรีเซนเตอร์ของยูนิลีเวอร์ จะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งบริษัทจะปฏิบัติตามสัญญาอย่างครบถ้วนจนกว่าสัญญาจะหมดลง ส่วนการพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนงานในอนาคตว่ามีความเหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์หรือไม่ และการพิจารณาต่อสัญญาไม่ได้ขึ้นอยู่กับยูนิลีเวอร์เพียงฝ่ายเดียว ต้องขึ้นกับความเห็นชอบของทุกฝ่ายคือ พรีเซนเตอร์ ลูกค้า และเอเยนซี่
ข่าวจาก : ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qTTVNVFF5TUE9PQ==&subcatid=