คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
๑. Spark 115i
- ราคาถูกสุดในตัวเลือก /// เห็นด้วยแน่นอน
- น่าจะประหยัดน้ำมันที่สุดในตัวเลือก /// เห็นด้วยแน่นอน
- ไม่แน่ใจว่าจะรับการใช้งานไหวไหม? (มีคนบอกมาว่าจะทำให้รถโทรมไวกว่าปกติ) /// ถ้าหมายถึงเติม 20 ล่ะก็ มันมองได้หลายมุม เพราะจากที่ลองรถวิ่งดีขึ้น การจุดระเบิดดีขึ้น เท่าที่ทราบเครื่องก็จะระอาดขึ้น แต่ถ้าบิดติดมือเยอะๆมันก็โทรมไวขึ้นเหมือนกัน เรียกว่ามีได้ก็มีเสีย แต่ถ้าเป็นประเด็นว่าใช้วันละกว่า 120 กิโลเมตร ผมว่ารถอะไรก็โทรมไวพอกัน ยิ่งบิดเยอะก็ยิ่งสึกหรอเยอะ แต่ถ้าจะบิดเยอะจริงๆ เครื่องที่ cc เยอะกว่าก็จะทำงานหนักน้อยกว่า ดังนั้น สามตัวนี้ถ้าใช้งานพอๆกัน Spark115i น่าจะเจองานหนักสุด
- ใส่ยาง Tubeless ได้หรือไม่? เติม E20 ได้ไหม? /// รถอะไรก็ใส่ได้ถ้าหาล้อแม็กที่รองรับ TL มาดัดแปลงใส่ได้
๒. Wave 125i
- ไม่แน่ใจว่าจะรับการใช้งานไหวไหม? (มีคนบอกมาว่าจะทำให้รถโทรมไวกว่าปกติ) /// ในประเด็นเครื่องยนต์ในส่วนของปลอกสูบWave 125iดูจะให้เทคโนโลยีมาน้อยสุด แต่ถ้าส่วนอื่นๆผมมองว่า Spark135i ให้ชิ้นส่วนโดยรวมมาค่อนข้างดีกว่า ปัญหาคือต้องคิดว่าจะเอาโช๊คหลังเดี่ยวหรือโช๊คหลังคู่ จะเอาu-box หรือไม่เอา นอกนั้นไม่ทิ้งกันมาก
- ใส่ยาง Tubeless ได้หรือไม่? เติม E20 ได้ไหม? /// รถอะไรก็ใส่ได้ถ้าหาล้อแม็กที่รองรับ TL มาดัดแปลงใส่ได้
- คุณสมบัติโดยรวมน่าจะอยู่กลาง ๆ ระหว่าง 115i กับ 135i /// เห็นด้วย แต่ถ้าเทียบเทคโนโลยีหัวฉีดและเทคโนโลยียิบย่อยในเครื่อง 115i ให้มาใหม่สุด พูดตรงๆตรงนี้รู้สึกว่ายามาฮ่าให้เทคโนโลยีมากกว่า
๓. Spark 135i
- แรงสุด แพงสุด ชอบที่สุดในสามตัวนี้ แต่เกรงว่าราคาที่แพงกว่า 115i เกือบสองหมื่น ออกจะเว่อร์ไป (หมายถึงกรณีที่ 115i ก็เพียงพอแก่การใช้งาน) /// เรื่องเวอร์ไม่เวอร์อยู่ที่ความชอบ แต่ปัญหาคือถ้าจะเอาล้อแม็กซ์ติดรถและใส่ TL ได้ 115i และ 125i ไม่มีแน่นอน ต้องไปหาแปลงเอา
- ต้องวางเงินวันออกรถเกือบหมื่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของผม (มั่นใจว่าผ่อนได้แน่นอน เพียงแต่ไม่มีเงินก้อนมาดาวน์อ่ะ) ถ้ามีร้านไหนใจป้ำฟรีดาวน์ก็ฝากเบอร์ไว้ได้เลย /// แนะนำให้หาบัตรเครดิตกรุงไทยมาผ่อน หรือไม่ก็หาร้านที่มีผ่อนอิออน
- แม็กเดิมใส่ยาง Tubeless ได้เลย /// ใส่ได้เลยแน่นอน
- เติม E20 ได้ไหม? กินน้ำมันที่สุดในสามตัว (เข้าใจว่ามาจากขนาดเครื่องยนต์และประสิทธิภาพรถ) /// เติมได้แน่นอน เติมแล้วพุ่งกว่าเดิมอีกหน่อย กินน้ำมันที่สุดในสามตัวแน่นอน แต่ก็ได้ฟิลลิ่งที่แตกต่างด้วยเช่นกัน
- ราคาถูกสุดในตัวเลือก /// เห็นด้วยแน่นอน
- น่าจะประหยัดน้ำมันที่สุดในตัวเลือก /// เห็นด้วยแน่นอน
- ไม่แน่ใจว่าจะรับการใช้งานไหวไหม? (มีคนบอกมาว่าจะทำให้รถโทรมไวกว่าปกติ) /// ถ้าหมายถึงเติม 20 ล่ะก็ มันมองได้หลายมุม เพราะจากที่ลองรถวิ่งดีขึ้น การจุดระเบิดดีขึ้น เท่าที่ทราบเครื่องก็จะระอาดขึ้น แต่ถ้าบิดติดมือเยอะๆมันก็โทรมไวขึ้นเหมือนกัน เรียกว่ามีได้ก็มีเสีย แต่ถ้าเป็นประเด็นว่าใช้วันละกว่า 120 กิโลเมตร ผมว่ารถอะไรก็โทรมไวพอกัน ยิ่งบิดเยอะก็ยิ่งสึกหรอเยอะ แต่ถ้าจะบิดเยอะจริงๆ เครื่องที่ cc เยอะกว่าก็จะทำงานหนักน้อยกว่า ดังนั้น สามตัวนี้ถ้าใช้งานพอๆกัน Spark115i น่าจะเจองานหนักสุด
- ใส่ยาง Tubeless ได้หรือไม่? เติม E20 ได้ไหม? /// รถอะไรก็ใส่ได้ถ้าหาล้อแม็กที่รองรับ TL มาดัดแปลงใส่ได้
๒. Wave 125i
- ไม่แน่ใจว่าจะรับการใช้งานไหวไหม? (มีคนบอกมาว่าจะทำให้รถโทรมไวกว่าปกติ) /// ในประเด็นเครื่องยนต์ในส่วนของปลอกสูบWave 125iดูจะให้เทคโนโลยีมาน้อยสุด แต่ถ้าส่วนอื่นๆผมมองว่า Spark135i ให้ชิ้นส่วนโดยรวมมาค่อนข้างดีกว่า ปัญหาคือต้องคิดว่าจะเอาโช๊คหลังเดี่ยวหรือโช๊คหลังคู่ จะเอาu-box หรือไม่เอา นอกนั้นไม่ทิ้งกันมาก
- ใส่ยาง Tubeless ได้หรือไม่? เติม E20 ได้ไหม? /// รถอะไรก็ใส่ได้ถ้าหาล้อแม็กที่รองรับ TL มาดัดแปลงใส่ได้
- คุณสมบัติโดยรวมน่าจะอยู่กลาง ๆ ระหว่าง 115i กับ 135i /// เห็นด้วย แต่ถ้าเทียบเทคโนโลยีหัวฉีดและเทคโนโลยียิบย่อยในเครื่อง 115i ให้มาใหม่สุด พูดตรงๆตรงนี้รู้สึกว่ายามาฮ่าให้เทคโนโลยีมากกว่า
๓. Spark 135i
- แรงสุด แพงสุด ชอบที่สุดในสามตัวนี้ แต่เกรงว่าราคาที่แพงกว่า 115i เกือบสองหมื่น ออกจะเว่อร์ไป (หมายถึงกรณีที่ 115i ก็เพียงพอแก่การใช้งาน) /// เรื่องเวอร์ไม่เวอร์อยู่ที่ความชอบ แต่ปัญหาคือถ้าจะเอาล้อแม็กซ์ติดรถและใส่ TL ได้ 115i และ 125i ไม่มีแน่นอน ต้องไปหาแปลงเอา
- ต้องวางเงินวันออกรถเกือบหมื่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของผม (มั่นใจว่าผ่อนได้แน่นอน เพียงแต่ไม่มีเงินก้อนมาดาวน์อ่ะ) ถ้ามีร้านไหนใจป้ำฟรีดาวน์ก็ฝากเบอร์ไว้ได้เลย /// แนะนำให้หาบัตรเครดิตกรุงไทยมาผ่อน หรือไม่ก็หาร้านที่มีผ่อนอิออน
- แม็กเดิมใส่ยาง Tubeless ได้เลย /// ใส่ได้เลยแน่นอน
- เติม E20 ได้ไหม? กินน้ำมันที่สุดในสามตัว (เข้าใจว่ามาจากขนาดเครื่องยนต์และประสิทธิภาพรถ) /// เติมได้แน่นอน เติมแล้วพุ่งกว่าเดิมอีกหน่อย กินน้ำมันที่สุดในสามตัวแน่นอน แต่ก็ได้ฟิลลิ่งที่แตกต่างด้วยเช่นกัน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
CBR 150 คาบู (เคยใช้)หรือหัวฉีดตัวใหม่ก็ได้ตามใจชอบ(ผมชอบตัวเก่า) ราคาก็ประมาณ 30000+- ตามสภาพครับ น่าจะดูดีสุดในความคิด(ของผมเอง)ครับ ผมเคยใช้ไปเรียนอยู่ 3.5 ปี ตอนนี้จบมาทำงานละครับ บ้านอยู่ตลิ่งชันไปเรียน มทร คลอง6ธัญบุรี ขับไปกลับ อย่างละเที่ยวต่อครั้งที่ไปเรียน ระยะทางประมาณ 140 +- km ใช้จนไมล์กลับตั้งแต่ออกรถมา ภายในระยะเวลาที่เรียนอยู่ ปัจจุบันยังใช้อยู่
ทำไมถึงคิดว่าเป็น CBR 150
เพราะระยะทาง 100 km ++ ถือว่าไม่น้อยนะครับ
---น้ำหนักรถและรูปทรงทำให้รู้สึกว่ามั่นคงกว่า เดินทางต่อเนื่องได้ดีกว่าไม่เบาเท่าเวฟหรือสปาร์ค (เคยขี่ของเพื่อนครับ)
---รถติดพริ้วได้ดี ซอกแซ่กไม่เหนื่อย พอๆกับตัวเลือกของท่านหรือทำได้ดีกว่า(ในความคิดของผม เพราะแฮนแคบกว่า)
---ไปได้สะดวกกว่า ถ้าเจอน้ำท่วมขังระดับหนึ่งหรือถนนที่สูงต่ำไม่เท่ากัน เพราะ รถสูงกว่า(ถ้าตัดอกไก่หรือคางหมูออกอาจเพื่อระบายความร้อนและการเซอร์วิส)ปลายท่อสูง ลุยน้ำได้มากกว่า 2 ตัวเลือกข้างต้น
---พอที่จะสามารถทำเวลาได้หากในเวลาที่จำเป็น เพราะอัตราเร่งที่ดีต่อเนื่องและรอบที่ค่อนข้างจัด
---ความเหนื่อยล้าในการขับขี่ มีได้เหมือนกันแต่น้อยกว่า ตัวเลือกข้างต้นแน่ๆ
---สมรรถนะในการขับขี่ ค่อนข้างเกาะถนน เพราะรถเป็นแบบทางเลียบอยู่แล้วด้วยหน้ายางที่ใหญ่กว่าตัวเลือกของท่านทั้ง 2 ตัวเลือก และยางเป็นแบบ tubless อยู่แล้ว
---อัตราการสิ้นเปลือง ก็ ถ้าไปเรื่อยๆมี 25-30++ km/L แน่ๆ กินกว่า 3 ตัวด้านบนดูได้จากซีซี แลกกับสมรรถนะที่ต่างกันแบบเห็นได้ชัด!!!
(อันนี้ค้นๆแล้วก็คิดๆมา รู้ไว้ใช่ว่าครับ เวลาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดแน่นอนอยู่แล้ว ทรงรถมีผล เพราะทรง CBR เวลาเกิดเหตุจะดีดตัวคนขับออกจากตัวรถ ผมล้มมาแล้ว 3 เที่ยว ดีดออกจากตัวรถทั้ง 3 ครั้ง ล้มเองไม่ได้มีอะไรชน ส่วนทรงกระเทย จะล็อกตัวคนขับติดกับตัวรถเวลาล้มครับอย่างหลังนี่สักเกตุเห็นมาเยอะ )
การดูแลรักษาก็ทำตามระยะ อะไหล่แพงกว่ากันไม่เท่าไหร่ ของแต่งที่จำเป็นเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ใช้งานจริงมีและช่วยได้พอสมควร อันนี้คิดว่าสิ้นเปลืองเหมือนกันแต่คุ้มครับ รถผมโอเวอร์ฮอลล์ที่ประมาณ 110,000 km ถ่ายน้ำมันเครื่อง กระป๋อง 90 กว่าบาทต่อ 1000 km ซึ่งทั่วไปอาจได้ถึง 2000-3000 km ต่อครั้ง เพื่อยืดอายุเครื่องครับถ่ายบ่อยดีกว่า
เชื้อเพลิงถ้าจะเติม e20 คิดว่าเติมได้แต่ต้องปรับจูนเอาครับผมไม่เคยใช้นะ ตัวใหม่หัวฉีดน่าจะได้ อันนี้ต้องไปหาข้อมูลดูผมไม่ทราบครับ
เอาไว้เป็นตัวเลือกดูครับ เล่าซะเยอะไม่ได้อยู่ในตัวเลือกเล้ยยย อยากทราบหรือสงสัยอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ถามมาได้ครับ ยินดีให้รายละเอียดสำหรับตัวนี้ เพราะใช้อยู่(ด้วยความชอบและความจำเป็น)ครับ
(ปล.ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทหรือที่อื่นๆแต่อย่างใด เป็นผู้ใช้งานจริงๆ)
ทำไมถึงคิดว่าเป็น CBR 150
เพราะระยะทาง 100 km ++ ถือว่าไม่น้อยนะครับ
---น้ำหนักรถและรูปทรงทำให้รู้สึกว่ามั่นคงกว่า เดินทางต่อเนื่องได้ดีกว่าไม่เบาเท่าเวฟหรือสปาร์ค (เคยขี่ของเพื่อนครับ)
---รถติดพริ้วได้ดี ซอกแซ่กไม่เหนื่อย พอๆกับตัวเลือกของท่านหรือทำได้ดีกว่า(ในความคิดของผม เพราะแฮนแคบกว่า)
---ไปได้สะดวกกว่า ถ้าเจอน้ำท่วมขังระดับหนึ่งหรือถนนที่สูงต่ำไม่เท่ากัน เพราะ รถสูงกว่า(ถ้าตัดอกไก่หรือคางหมูออกอาจเพื่อระบายความร้อนและการเซอร์วิส)ปลายท่อสูง ลุยน้ำได้มากกว่า 2 ตัวเลือกข้างต้น
---พอที่จะสามารถทำเวลาได้หากในเวลาที่จำเป็น เพราะอัตราเร่งที่ดีต่อเนื่องและรอบที่ค่อนข้างจัด
---ความเหนื่อยล้าในการขับขี่ มีได้เหมือนกันแต่น้อยกว่า ตัวเลือกข้างต้นแน่ๆ
---สมรรถนะในการขับขี่ ค่อนข้างเกาะถนน เพราะรถเป็นแบบทางเลียบอยู่แล้วด้วยหน้ายางที่ใหญ่กว่าตัวเลือกของท่านทั้ง 2 ตัวเลือก และยางเป็นแบบ tubless อยู่แล้ว
---อัตราการสิ้นเปลือง ก็ ถ้าไปเรื่อยๆมี 25-30++ km/L แน่ๆ กินกว่า 3 ตัวด้านบนดูได้จากซีซี แลกกับสมรรถนะที่ต่างกันแบบเห็นได้ชัด!!!
(อันนี้ค้นๆแล้วก็คิดๆมา รู้ไว้ใช่ว่าครับ เวลาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดแน่นอนอยู่แล้ว ทรงรถมีผล เพราะทรง CBR เวลาเกิดเหตุจะดีดตัวคนขับออกจากตัวรถ ผมล้มมาแล้ว 3 เที่ยว ดีดออกจากตัวรถทั้ง 3 ครั้ง ล้มเองไม่ได้มีอะไรชน ส่วนทรงกระเทย จะล็อกตัวคนขับติดกับตัวรถเวลาล้มครับอย่างหลังนี่สักเกตุเห็นมาเยอะ )
การดูแลรักษาก็ทำตามระยะ อะไหล่แพงกว่ากันไม่เท่าไหร่ ของแต่งที่จำเป็นเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ใช้งานจริงมีและช่วยได้พอสมควร อันนี้คิดว่าสิ้นเปลืองเหมือนกันแต่คุ้มครับ รถผมโอเวอร์ฮอลล์ที่ประมาณ 110,000 km ถ่ายน้ำมันเครื่อง กระป๋อง 90 กว่าบาทต่อ 1000 km ซึ่งทั่วไปอาจได้ถึง 2000-3000 km ต่อครั้ง เพื่อยืดอายุเครื่องครับถ่ายบ่อยดีกว่า
เชื้อเพลิงถ้าจะเติม e20 คิดว่าเติมได้แต่ต้องปรับจูนเอาครับผมไม่เคยใช้นะ ตัวใหม่หัวฉีดน่าจะได้ อันนี้ต้องไปหาข้อมูลดูผมไม่ทราบครับ
เอาไว้เป็นตัวเลือกดูครับ เล่าซะเยอะไม่ได้อยู่ในตัวเลือกเล้ยยย อยากทราบหรือสงสัยอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ถามมาได้ครับ ยินดีให้รายละเอียดสำหรับตัวนี้ เพราะใช้อยู่(ด้วยความชอบและความจำเป็น)ครับ
(ปล.ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทหรือที่อื่นๆแต่อย่างใด เป็นผู้ใช้งานจริงๆ)
แสดงความคิดเห็น
หามอเตอร์ไซค์ไปทำงานครับ
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ครับ
ลักษณะการใช้งาน
- ตอนเช้าขับจากบ้านไปที่ทำงาน (ระยะทาง ๖๐ ก.ม. ขับต่อเนื่องหยุดเฉพาะติดไฟแดงกับเติมน้ำมัน) ตอนเย็นขับกลับบ้าน (ระยะทาง ๖๐ ก.ม. ขับต่อเนื่องหยุดเฉพาะติดไฟแดงกับเติมน้ำมัน) รวมใช้งานประมาณ ๑๒๐ ก.ม./วัน จ.- ส. แต่เป็นการขับแค่สองรอบต่อวัน
- ขับไม่เร็วมาก แต่ต้องการรถที่แรงบิดติดมือ เพื่อไว้เร่งแซง
- ไม่เอารถเกียร์ออโต้
- จะเปลี่ยนยางเป็นแบบ Tubeless แน่นอน (อาจจะต้องเปลี่ยนแม็กสำหรับบางรุ่น)
- ถ้าเติม E20 ได้จะดีมาก
ตัวเลือกเท่าที่ดูไว้
๑. Spark 115i
- ราคาถูกสุดในตัวเลือก
- น่าจะประหยัดน้ำมันที่สุดในตัวเลือก
- ไม่แน่ใจว่าจะรับการใช้งานไหวไหม? (มีคนบอกมาว่าจะทำให้รถโทรมไวกว่าปกติ)
- ใส่ยาง Tubeless ได้หรือไม่? เติม E20 ได้ไหม?
๒. Wave 125i
- ไม่แน่ใจว่าจะรับการใช้งานไหวไหม? (มีคนบอกมาว่าจะทำให้รถโทรมไวกว่าปกติ)
- ใส่ยาง Tubeless ได้หรือไม่? เติม E20 ได้ไหม?
- คุณสมบัติโดยรวมน่าจะอยู่กลาง ๆ ระหว่าง 115i กับ 135i
๓. Spark 135i
- แรงสุด แพงสุด ชอบที่สุดในสามตัวนี้ แต่เกรงว่าราคาที่แพงกว่า 115i เกือบสองหมื่น ออกจะเว่อร์ไป (หมายถึงกรณีที่ 115i ก็เพียงพอแก่การใช้งาน)
- ต้องวางเงินวันออกรถเกือบหมื่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของผม (มั่นใจว่าผ่อนได้แน่นอน เพียงแต่ไม่มีเงินก้อนมาดาวน์อ่ะ) ถ้ามีร้านไหนใจป้ำฟรีดาวน์ก็ฝากเบอร์ไว้ได้เลย
- แม็กเดิมใส่ยาง Tubeless ได้เลย
- เติม E20 ได้ไหม? กินน้ำมันที่สุดในสามตัว (เข้าใจว่ามาจากขนาดเครื่องยนต์และประสิทธิภาพรถ)
เลยขอคำแนะนำเพื่อนพ้องน้องพี่ด้วยครับ หรือท่านใดจะแนะนำรุ่นอื่นก็ยินดีครับ
ขอบคุณครับ