...สายน้ำไม่เหือดหาย...

กระทู้สนทนา
ผมแทบไม่เชื่อสายตา กับภาพปรากฏเบื้องหน้า นี่หรือคือคลองที่หล่อเลี้ยงชีวิตในวัยเด็ก ลำคลองกว้างใหญ่ในความทรงจำ ลึกล้ำในความรู้สึก มาบัดนี้กลับเห็นเป็นเพียงคลองลำเล็ก ทั้งยังดูเหือดแห้งขุ่นข้นราวกาแฟเหลือค้างก้นถ้วย รอเวลาที่จะถูกชำระล้างอีกครั้ง...


แม้จะเนิ่นนานผ่านมา แต่ความหลังครั้งนั้นยังกระจ่างใส เมื่อครั้งเริ่มหัดว่ายน้ำ ด้วยลูกมะพร้าวแก่สองลูกที่ย่าฉีกเปลือกออกเป็นเส้นสายหนาขนาดข้อนิ้วมือ ทิ้งส่วนปลายให้ติดอยู่กับขั้ว ดูคล้ายลูกตุ้ม แล้วนำปลายอีกด้านมาผูกสองลูกเข้าด้วยกัน นั่นคือผลิตภัณฑ์รักษ์โลกรุ่นแรกที่ผมรู้จัก...


สอดสายเส้นใยมะพร้าวไว้ใต้รักแร้ ลูกตุ้มจากธรรมชาติสีน้ำตาลแก่แลเป็นโล่กำบังข้างกาย เพียงเท่านี้ ความรู้สึกหวาดกลัวต่อแรงดึงดูดแห่งห้วงน้ำก็พลันมลาย คงไว้เพียงความสุขลึกล้ำกับการได้แหวกว่ายสายธาร...


ส่วนลีลาท่าทางการล่องลอยระเรื่อยไหลในห้วงชลนั้น ก็ได้เจ้าโต สุนัขแสนรู้ที่คอยระริกกระดิกหูหาง โจนใส่ผืนน้ำร่วมตะกุยตะกายแหวกว่ายไปกับผมอย่างครื้นเครง เสียงหัวเราะคลอเคล้าไปกับเสียงตุ๋มต๋ำไร้จังหวะ ผมเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของเจ้าโตอย่างสนใจ และพยายามจับจังหวะการเคลื่อนไหวที่ไร้จังหวะนั้น มันตะกุย ผมก็ตะกุยไปด้วยกัน บังเกิดเสียงหัวเราะคลอเคล้าไปกับเสียงตุ๋มต๋ำเป็นจังหวะ ในที่สุด 'หมาตะกุยน้ำ' ก็เป็นท่วงท่าแรกในการว่ายน้ำของผม


เมื่อประสบการณ์มากพอ ห่วงยางรักษ์โลกก็หมดหน้าที่ไปโดยปริยาย แต่ผมยังโลดแล่นดำผุดดำว่ายมิรู้เบื่อ นอกจากครูฝึกอย่างเจ้าโต ก็ได้เพื่อนฝูงวัยไล่เลี่ยร่วมอุดมการณ์ในธารสุข แหวกว่ายยื้อแย่งแข่งขันสนุกสนานไปตามวัย...


ห้วงความทรงจำขาดหาย จำไม่ได้ว่าใครกันที่เตือนให้ระวังกลุ่มกอผักตบชวาที่เลื่อนไหลล่องลอยตามกระแส นั้นเองเป็นที่ซุ่มซ่อนแฝงตัวว่าขอนไม้ แท้จริงเป็นสัตว์เลื้อยคลานพันธุ์ยักษ์อย่างจระเข้ เฝ้ารอกัดกินทำร้ายผู้ประมาทหลงผิดคิดเข้าใกล้...


แม้ความกลัวกล้ำกรายทุกครั้งที่แลเห็นกลุ่มกอเขียวครึ้มเคลื่อนผ่าน แต่กลัวอย่างไร ใจกลับนึกสนุกกว่านั้น เพื่อนฝูงต่างท้าทาย ใครกันมั่นใจก้าวข้ามจิตใจอ่อนแอ ไม่ยอมแพ้หวาดหวั่น ว่ายเวียนเกาะกุมกลุ่มผักตบชวานั้นได้ กลายเป็นผู้ชนะ ผู้สามารถพิชิตจระเข้...แต่จะว่าไป ครั้งนั้นไม่มีใครเอาชนะจระเข้ ไม่เคยมีจระเข้...ที่จำได้ มีเพียงความกลัว คนกลัว และผู้กล้า...


ผมสูดหายใจยาวดึงตัวเองกลับสู่ปัจจุบัน แล้วสืบเท้าก้าวไปยังท่าน้ำที่ถูกกระแสเวลานับสิบปี พัดพาให้ผุกร่อนเสื่อมโทรม แต่ยังคงโครงเค้าครั้งวันวานซ้อนทับได้พอดีกับท่าน้ำในความทรงจำ...


ทรุดกายลงนั่งบนผืนไม้ขนาดสองคูณสองเมตร ทอดสายตาตามขั้นบันไดที่จมหายลงไปใต้น้ำขุ่นข้น มีอะไรภายใต้ผืนน้ำสีกาแฟนั้น ผมสงสัยในบางอย่างที่มองไม่เห็น...


ทอดสายตาเหม่อมองสายน้ำเนิ่นนาน ก่อนเปิดหนังสือในมือเริ่มต้นอ่าน ตั้งใจใฝ่ฝันมาแรมปี วาดภาพไว้ในใจจนแจ่มชัด ว่าจะได้นั่งจมจ่อมอยู่กับหนังสือที่'อ่านสนุก' ริมคลองหลังบ้านเกิด


จริงอย่างที่ 'บุญชิต ฟักมี' ว่าไว้ หนังสือที่ดีต้องอ่านสนุก หากไม่เช่นนั้นจะดึงดูดใจให้จดจ่อติดตามหาความหมายซุกซ่อนมุ่งสื่อสารได้อย่างไร...


และผมหวังว่าการได้มีโอกาสกลับมานั่งริมคลองที่เคยดำผุดดำว่ายอีกครั้ง แม้เลยวัยที่จะออกท่าหมาตะกุยน้ำ อีกทั้งห้วงน้ำคลั่กข้นไม่เป็นใจให้ลงแหวกว่าย แต่หากได้ดำดิ่งลึกลงไปในสายธารอักษร'สนุก' คลอเคล้าไปกับเสียงแห่งสายน้ำในความทรงจำ สร้างจังหวะใหม่บันทึกไว้ในห้วงคำนึง คงจะดีไม่น้อย...


ก่อนสายตาสัมผัสบรรทัดแรกแห่งตัวอักษร คล้ายมีบางอย่างเคลื่อนผ่านคลองจักษุ จึงเงยหน้าขึ้นมาเพื่อที่จะพบกับกลุ่มกอเขียวครึ้มเลื่่่อนไหลตามกระแสธาร หะแรกให้นึกหวาดหวั่นประหวัดคิดเรื่องราวครั้งเก่าก่อน ย้อนถึงความกลัว คนกลัว และผู้กล้า...


ผมยิ้มให้กับผักตบชวากอนั้น ก่อนปล่อยสายตาไหลตามธาราอักษรอีกครั้ง...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่