ผมเคยมีประสบการณ์แบบนี้แหละครับ หมอแนะนำให้ผ่าคลอดสุนัขที่บ้าน บอกคลอดเองมีสิทธิ์ตายเพราะลูกหมา(ในท้อง) ตัวใหญ่   ผ่าเสร็จได้ลูกหมาน่ารัก 6 ตัว สามสี่วันแรกแม่หมาปวดแผลไม่ยอมให้ลูกกินนม  เราต้องมาป้อนนม ทุกคนในบ้านป้อนกันหมด บางคนป้อนมาก บางคนป้อนน้อย บางคนได้ยินมันร้องก็ป้อนกัน เรียกว่าป้อนกันแบบไม่ยั้ง นมก็แพงมากเป็นกระป๋อง เปิดแล้วใช้ได้ 24 ชั่วโมง ป้อนได้ไม่กี่วันอาการเป็นแบบที่ จขกท. บอกนี่แหละครับ พาไปหาหมอ รพ.สัตว์เปิด 24 ชั่วโมง ตอนนั้นเที่ยงคืนกว่า หมอเห็นบอกอาการไม่ไหวแล้ว ลูกหมาสำนักนม  4 ตัวมีโอกาสรอด 2 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวไม่มีอาการ  เราก็เอาสองตัวที่ไม่มีอาการกลับ ยังไม่ทันถึงบ้าน หมอโทรมาบอกตายไปแล้ว 1 ก็ตีกลับไปรับมา  อยู่มาอีกวัน ตัวที่สองไปตาม อีกวันตัวที่ 3 ก็บ๋ายบายเหมือนกัน ยันตัวที่ 4 ก็คิดว่าคงหมดแน่ไม่เอาแล้วที่นี่ ต่อมาไม่นาน ไอ้เจ้าสองตัวที่หมอบอกว่าแข็งแรงก็มีอาการคล้ายๆ กับ 4 ตัวที่แล้ว ตอนนี้เลยเปลี่ยนไป รพ.สัตว์ของรัฐ หมอสั่งนอน รพ.เลย ต้องไปเยี่ยมทุกวัน ไปทีบอกอีกไม่กี่วันก็กลับได้แล้ว ไปอีกทีก็เหมือนกัน ยันอาทิตย์กว่า หมอมาบอกว่าสงสัยจะไม่รอด สุดท้ายก็ไม่รอดจริงๆ สรุป บ๋ายบายกันหมด

ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ 4 หมื่นกว่า รวมค่าผ่าตัด ค่ารักษา (อยู่ รพ.คิดเป็นวัน แล้วต้องอยู่ห้องพิเศษ ต้องใช้เครื่องพ่นช่วย คิดเป็นรายวัน) ค่ายา ค่าหมอ  ยิ่งตอนหมอบอกอีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แต่ให้ใช้เครื่องช่วยหายใจสุนัข กับยาขยายปอด ดีใจเลยไปซื้อไว้มาเตรียมไว้  แต่สุดท้ายมันก็ไม่กลับ เศร้าครับ  ก็เลยศึกษาเรื่องพวกนี้ดู ปรากฎว่า เขาบอกว่าลูกหมา ถ้าแม่มันไม่ได้เลี้ยงเอง โอกาสรอดยากครับ ผมจึงคิดผิดมากที่ไปผ่ามันออกตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าให้เดาของ จขกท. ก็น่าจะเลี้ยงเอง ไม่ได้ให้แม่มันเลี้ยง ก็คงเหมือนๆ กับผมละครับ ก็พยายามให้ดีที่สุดแล้วกัน โอกาสรอดคงมี แล้วก็มีตัวเดียวลองดูครับ แต่ขอย้ำว่า อย่าไปเอาที่ดูดเสมหะของเด็กไปดูดจมูกมันบ่อย  จะทำให้จมูกอักเสบ เหมือนของผมที่บางตัวตายเพราะจมูกอักเสบมาก ก็คงต้องพอประมาณ ส่วนถ้าคิดไปหาหมอ ก็ดีครับเผื่อมันจะรอดบ้าง แต่อย่ารอจนเห็นว่าอาการไม่ดีแล้วส่งนะครับ ไปตั้งแต่เริ่มเป็นนี่แหละ แล้วก็ไปแบบไปเช้า เย็นกลับ ก็รอให้หมอพ้นยาสักชั่วโมงก็รับกลับ แล้ววันรุ่งขึ้นไปใหม่ ผมว่าดีกว่าเอาไปทิ้งเหมือนผม ซึ่งดูแล้วเจ้าหน้าที่เขาคงไม่พอที่จะดูแลได้เหมือนเรา