25 กุมภาพันธ์ 2556 เตรียมงาน“i-mobile Day”พร้อมให้บริการ3Gผ่านTOT3Gสัญญาใหม่และทดลอง4G++ รายได้ให้TOT50-60 % ++ ต่อยอดเตรียมเครื่อง4Gให้ลูกค้าได้4G
ประเด็นหลัก
เขาคาดว่าทีโอทีจะมีความจุโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากเดิมที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมี.ค.หลังจากลงนามสัญญาเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่เสร็จ บริษัทจะจัดงาน “ไอ-โมบาย เดย์” เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แสดงถึงความพร้อมที่จะให้บริการ 3จีในย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ และเปิดให้ลูกค้าทดลองใช้บริการ 4จีแอลทีอี ในย่านความถี่ดังกล่าวด้วย
"ภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอีด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4จีให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน"
สิ้นปี 2555 บริษัทติดตั้งสถานีฐาน 3จี ระยะ (เฟส) แรกให้ทีโอทีแล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และเดือน ก.พ.2556 จะติดตั้งเป็น 4,000 สถานีฐาน คาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน พ.ค.นี้
พร้อมทั้งจะเดินหน้าติดตั้ง 3จี เฟส 2 อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าทั้งโครงการรวม 30,000 ล้านบาท โดยสามารถตั้งเป้าเป็นผู้ติดตั้งสถานีฐานให้ได้ 50% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งจะประมูลเดือน เม.ย.นี้ และจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงการเป็นผู้ให้บริการขายต่อ และขายส่งในโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) หรือขอเช่าโครงข่ายของ ทีโอที เพื่อให้บริการ3G ในชื่อ i-mobile 3GX นั้น คาดว่าการลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับ บริษัท ทีโอที จะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ภายในเดือน มีนาคม 2556 ในเบื้องต้น สัญญาฉบับใหม่ ทางคณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอที ที่มีนายอุดม พัวสกุล เป็นประธาน ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว โดยสัดส่วนรายได้ และกำไรที่ทีโอทีจะได้รับจากบริษัทที่เข้าร่วม ราว 50-60 % ของรายได้รวม และหลักประกันรายได้ รวมถึงสัญญาฉบับใหม่จะลงนามในสัญญาระยะยาวไม่ถึง 15 ปี และทบทวนสัญญาทุก 2 ปี?? คาดว่าทีโอที จะมีความจุของโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะบริษัทขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมีนาคม บริษัท จะจัดงาน “i-mobile Day” เพื่อเป็นการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการหลังเซ็นเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่กับทีโอที โดยภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอี หรือ? 4G? บนคลื่น2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ด้วย คาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4G ให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
___________________________________
'กลุ่มสามารถ'หวังจบดีลเอ็มวีเอ็นโอ มี.ค.
สามารถคอร์ป เตรียมจรดปากกาเซ็นสัญญาเอ็มวีเอ็นโอ 3จี เฟส 2 มี.ค.นี้ หวังครองเจ้าตลาดลูกค้าเฮ้าส์แบรนด์ ปั้มลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 1 ล้านราย
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับ บมจ.ทีโอที ในการเป็นผู้ให้บริการขายต่อและขายส่งในโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) ภายใต้แบรนด์ไอ-โมบาย 3จีเอ็กซ์ จะสรุปได้ภายในเดือนมี.ค.นี้แน่นอน
เบื้องต้น สัญญาฉบับใหม่ ชุดคณะกรรมการทีโอที ที่มีนายอุดม พัวสกุล เป็นประธาน ปรับแก้แล้วเสร็จ โดยทีโอทีมีสัดส่วนรายได้และกำไรที่จะได้รับจากเอกชน 50-60% ของรายได้รวม และหลักประกันรายได้ รวมถึงสัญญาฉบับใหม่จะลงนามในสัญญาระยะยาวไม่ถึง 15 ปี ทบทวนทุก 2 ปี
เขาคาดว่าทีโอทีจะมีความจุโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากเดิมที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมี.ค.หลังจากลงนามสัญญาเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่เสร็จ บริษัทจะจัดงาน “ไอ-โมบาย เดย์” เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แสดงถึงความพร้อมที่จะให้บริการ 3จีในย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ และเปิดให้ลูกค้าทดลองใช้บริการ 4จีแอลทีอี ในย่านความถี่ดังกล่าวด้วย
"ภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอีด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4จีให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน"
สิ้นปี 2555 บริษัทติดตั้งสถานีฐาน 3จี ระยะ (เฟส) แรกให้ทีโอทีแล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และเดือน ก.พ.2556 จะติดตั้งเป็น 4,000 สถานีฐาน คาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน พ.ค.นี้
พร้อมทั้งจะเดินหน้าติดตั้ง 3จี เฟส 2 อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าทั้งโครงการรวม 30,000 ล้านบาท โดยสามารถตั้งเป้าเป็นผู้ติดตั้งสถานีฐานให้ได้ 50% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งจะประมูลเดือน เม.ย.นี้ และจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังจะเข้าร่วมกับบมจ. กสท โทรคมนาคม ใช้โครงข่ายโทรคมนาคมร่วม (โรมมิ่ง) สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี บนคลื่นความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ ภายใต้ชื่อแบรนด์มาย ทั้งการให้บริการเสียง (วอยซ์) และการให้บริการด้านสื่อสารข้อมูล (ดาต้า) กับลูกค้ามาย หลังจากทีโอที ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกับ กสท เมื่อ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อให้บริการโรมมิ่ง ทีโอที 3จี และมาย
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130225/491961/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0
%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B
8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A
5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0
%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AD-%E0%B8%A1%E0%B8%B5.%E0%B8%84..html“สามารถฯ” เตรียมจัดงาน ‘i-mobile Day’ หลังเซ็น MVNO 3G TOT
_______________________________________
‘วัฒน์ชัย’ ยิ้ม มี.ค.เตรียมเซ็นสัญญา MVNO 3G TOT ฉบับใหม่ หลังใจอ่อนให้ผลประโยชน์ทีโอทีจุใจ พร้อมจัดงาน ‘i-mobile Day’ รีลอนช์แบรนด์ 3GX กระตุ้นตลาดอีกรอบ คาดโกยลูกค้าอีก 1 ล้าน อานิสงส์ทีโอทีโรมมิ่ง กสท ส่วนโครงข่าย 3G เฟส 2 หวังได้ติดตั้ง 50%
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าบริษัท สามารถ ไอ-โมบายจะเซ็นสัญญาการเป็น MVNO 3G TOT ฉบับใหม่หลังจากมีการปรับแก้ไขประเด็นส่วนแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกันรวมทั้งเรื่องหลักประกันรายได้เป็นที่เรียบร้อย โดยสัญญาฉบับใหม่นี้จะมีการทบทวนทุก 2 ปี ไม่ใช่สัญญาระยะยาว 15 ปี
ทั้งนี้ สามารถฯ จะได้สิทธิทำตลาดบริการ 3G ทีโอที จำนวน 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40% ของความจุโครงข่ายที่มีราว 7.2 ล้านเลขหมาย โดยคาดว่าภายในปีนี้น่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านรายจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2-3 แสนราย นอกจากนี้ ภายในเดือน มี.ค.บริษัทฯ จะจัดงาน “i-mobile Day” เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหลังเซ็น MVNO ฉบับใหม่กับทีโอที โดยภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยี 4G LTE บนความถี่ 2.1GHz ประมาณ 2-3 รุ่น พร้อมทั้งเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 4G ให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
นายวัฒน์ชัยกล่าวว่า ช่วงสิ้นปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการติดตั้งสถานีฐาน 3G เฟสแรกให้กับทีโอที แล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และในเดือน ก.พ. 56 จะมีการติดตั้งเป็น 4,000 สถานีฐาน โดยคาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน เม.ย.นี้ ในขณะที่ทีโอทีก็มีแผนที่จะติดตั้งโครงข่าย 3G เฟส 2 อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าทั้งโครงการรวม 30,000 ล้านบาท
‘ใน 3G เฟส 2 สามารถฯ ตั้งเป้าเป็นผู้ติดตั้งสถานีฐานให้ได้ 50% ของโครงการทั้งหมด’
ส่วนความคืบหน้าการเซ็นสัญญา MVNO ของบริษัท สามารถ ไอ-โมบายนั้น ล่าสุดทีโอที และสามารถฯได้ตกลงในรายละเอียดเรื่องผลประโยชน์ลงตัวแล้ว จากเดิมที่เอกชนได้ 60% หลังหักค่าการตลาดผ่านช่องทางจำหน่าย 10% และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่ากับเอกชนจะได้รับส่วนแบ่ง 43% ขณะที่ทีโอทีได้ 40% โดยปรับเป็นเอกชนได้ 55% หลังหักค่าการตลาดและภาษีแล้วจะเหลือ 38% ในขณะที่ทีโอทีจะได้ผลประโยชน์ 45% เหลือแค่เสนอบอร์ดทีโอทีอนุมัติเซ็นสัญญาเท่านั้น
Company Related Link :
Samart
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000023601
____________________________________
สามารถฯชิงงานTOT วางโครงข่าย “3G”3หมื่นล.
ผู้บริหารกลุ่มสามารถฯ ยังมั่นใจได้รับงานวางโครงการข่าย3G TOT ในเฟส2 แม้ว่าการวางโครงข่ายเฟสแรกที่ผ่านมา เกิดปัญหาความล่าช้า
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)? เปิดเผยว่า กิจการร่วมค้า (คอนซอร์เตียม) เอสแอล ที่มี บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น เป็นแกนนำ มีการติดตั้งสถานีฐาน 3G ระยะ (เฟส) แรก ให้กับ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) หรือTOT ณ สิ้นปี2555 ที่ผ่านมาแล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และคาดว่าในเดือน กุมภาพันธ์ 2556 นี้ จะมีการติดตั้งเพิ่มเป็น 4,000 สถานีฐาน คาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้บริษัทยังสนใจติดตั้งโครงข่าย 3G ?ในเฟส 2ของ ทีโอที ?อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่ง ทีโอที จะมีการเปิดประมูลช่วงเดือน เมษายนนี้ ก่อนจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ภายในเดือน มิถุนายน2556
มีรายงานข่าวจาก ?บริษัท ทีโอที แจ้งว่า ในการติดตั้งโครงข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่3Gเฟส) จำนวน 5,320 สถานีฐาน ทั่วประเทศถือว่า ล่าช้า มาจากปัญหาภายในหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นทั้งปัจจัยภายนอกองค์กร และปัจจัยภายใน อาทิ การปรับเปลี่ยนผู้บริหาร หรือจากกำหนดการเดิม ทีโอที จะต้องติดตั้งสถานีฐานจำนวน 5,320 แห่งทั่วประเทศแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 รวมทั้งประเด็นกรณีติดขัดการขอใช้โครงข่ายร่วมกับผู้ให้บริการอื่นๆ ส่งผลให้ทีโอทีไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน ทำให้การให้บริการในเฟสแรกล่าช้าไป
นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงการเป็นผู้ให้บริการขายต่อ และขายส่งในโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) หรือขอเช่าโครงข่ายของ ทีโอที เพื่อให้บริการ3G ในชื่อ i-mobile 3GX นั้น คาดว่าการลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับ บริษัท ทีโอที จะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ภายในเดือน มีนาคม 2556 ในเบื้องต้น สัญญาฉบับใหม่ ทางคณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอที ที่มีนายอุดม พัวสกุล เป็นประธาน ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว โดยสัดส่วนรายได้ และกำไรที่ทีโอทีจะได้รับจากบริษัทที่เข้าร่วม ราว 50-60 % ของรายได้รวม และหลักประกันรายได้ รวมถึงสัญญาฉบับใหม่จะลงนามในสัญญาระยะยาวไม่ถึง 15 ปี และทบทวนสัญญาทุก 2 ปี?? คาดว่าทีโอที จะมีความจุของโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะบริษัทขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมีนาคม บริษัท จะจัดงาน “i-mobile Day” เพื่อเป็นการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการหลังเซ็นเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่กับทีโอที โดยภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอี หรือ? 4G? บนคลื่น2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ด้วย คาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4G ให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1596715
เตรียมงาน“i-mobile Day”พร้อมให้บริการ3Gผ่านTOT3Gสัญญาใหม่และทดลอง4G++รายได้ให้TOT50-60 % ++ต่อผลิตเครื่อง4Gให้ลูกค่าเล่น
ประเด็นหลัก
เขาคาดว่าทีโอทีจะมีความจุโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากเดิมที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมี.ค.หลังจากลงนามสัญญาเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่เสร็จ บริษัทจะจัดงาน “ไอ-โมบาย เดย์” เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แสดงถึงความพร้อมที่จะให้บริการ 3จีในย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ และเปิดให้ลูกค้าทดลองใช้บริการ 4จีแอลทีอี ในย่านความถี่ดังกล่าวด้วย
"ภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอีด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4จีให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน"
สิ้นปี 2555 บริษัทติดตั้งสถานีฐาน 3จี ระยะ (เฟส) แรกให้ทีโอทีแล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และเดือน ก.พ.2556 จะติดตั้งเป็น 4,000 สถานีฐาน คาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน พ.ค.นี้
พร้อมทั้งจะเดินหน้าติดตั้ง 3จี เฟส 2 อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าทั้งโครงการรวม 30,000 ล้านบาท โดยสามารถตั้งเป้าเป็นผู้ติดตั้งสถานีฐานให้ได้ 50% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งจะประมูลเดือน เม.ย.นี้ และจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงการเป็นผู้ให้บริการขายต่อ และขายส่งในโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) หรือขอเช่าโครงข่ายของ ทีโอที เพื่อให้บริการ3G ในชื่อ i-mobile 3GX นั้น คาดว่าการลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับ บริษัท ทีโอที จะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ภายในเดือน มีนาคม 2556 ในเบื้องต้น สัญญาฉบับใหม่ ทางคณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอที ที่มีนายอุดม พัวสกุล เป็นประธาน ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว โดยสัดส่วนรายได้ และกำไรที่ทีโอทีจะได้รับจากบริษัทที่เข้าร่วม ราว 50-60 % ของรายได้รวม และหลักประกันรายได้ รวมถึงสัญญาฉบับใหม่จะลงนามในสัญญาระยะยาวไม่ถึง 15 ปี และทบทวนสัญญาทุก 2 ปี?? คาดว่าทีโอที จะมีความจุของโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะบริษัทขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมีนาคม บริษัท จะจัดงาน “i-mobile Day” เพื่อเป็นการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการหลังเซ็นเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่กับทีโอที โดยภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอี หรือ? 4G? บนคลื่น2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ด้วย คาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4G ให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
___________________________________
'กลุ่มสามารถ'หวังจบดีลเอ็มวีเอ็นโอ มี.ค.
สามารถคอร์ป เตรียมจรดปากกาเซ็นสัญญาเอ็มวีเอ็นโอ 3จี เฟส 2 มี.ค.นี้ หวังครองเจ้าตลาดลูกค้าเฮ้าส์แบรนด์ ปั้มลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 1 ล้านราย
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับ บมจ.ทีโอที ในการเป็นผู้ให้บริการขายต่อและขายส่งในโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) ภายใต้แบรนด์ไอ-โมบาย 3จีเอ็กซ์ จะสรุปได้ภายในเดือนมี.ค.นี้แน่นอน
เบื้องต้น สัญญาฉบับใหม่ ชุดคณะกรรมการทีโอที ที่มีนายอุดม พัวสกุล เป็นประธาน ปรับแก้แล้วเสร็จ โดยทีโอทีมีสัดส่วนรายได้และกำไรที่จะได้รับจากเอกชน 50-60% ของรายได้รวม และหลักประกันรายได้ รวมถึงสัญญาฉบับใหม่จะลงนามในสัญญาระยะยาวไม่ถึง 15 ปี ทบทวนทุก 2 ปี
เขาคาดว่าทีโอทีจะมีความจุโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากเดิมที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมี.ค.หลังจากลงนามสัญญาเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่เสร็จ บริษัทจะจัดงาน “ไอ-โมบาย เดย์” เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แสดงถึงความพร้อมที่จะให้บริการ 3จีในย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ และเปิดให้ลูกค้าทดลองใช้บริการ 4จีแอลทีอี ในย่านความถี่ดังกล่าวด้วย
"ภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอีด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4จีให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน"
สิ้นปี 2555 บริษัทติดตั้งสถานีฐาน 3จี ระยะ (เฟส) แรกให้ทีโอทีแล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และเดือน ก.พ.2556 จะติดตั้งเป็น 4,000 สถานีฐาน คาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน พ.ค.นี้
พร้อมทั้งจะเดินหน้าติดตั้ง 3จี เฟส 2 อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าทั้งโครงการรวม 30,000 ล้านบาท โดยสามารถตั้งเป้าเป็นผู้ติดตั้งสถานีฐานให้ได้ 50% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งจะประมูลเดือน เม.ย.นี้ และจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังจะเข้าร่วมกับบมจ. กสท โทรคมนาคม ใช้โครงข่ายโทรคมนาคมร่วม (โรมมิ่ง) สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี บนคลื่นความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ ภายใต้ชื่อแบรนด์มาย ทั้งการให้บริการเสียง (วอยซ์) และการให้บริการด้านสื่อสารข้อมูล (ดาต้า) กับลูกค้ามาย หลังจากทีโอที ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกับ กสท เมื่อ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อให้บริการโรมมิ่ง ทีโอที 3จี และมาย
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130225/491961/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0
%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B
8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A
5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0
%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AD-%E0%B8%A1%E0%B8%B5.%E0%B8%84..html“สามารถฯ” เตรียมจัดงาน ‘i-mobile Day’ หลังเซ็น MVNO 3G TOT
_______________________________________
‘วัฒน์ชัย’ ยิ้ม มี.ค.เตรียมเซ็นสัญญา MVNO 3G TOT ฉบับใหม่ หลังใจอ่อนให้ผลประโยชน์ทีโอทีจุใจ พร้อมจัดงาน ‘i-mobile Day’ รีลอนช์แบรนด์ 3GX กระตุ้นตลาดอีกรอบ คาดโกยลูกค้าอีก 1 ล้าน อานิสงส์ทีโอทีโรมมิ่ง กสท ส่วนโครงข่าย 3G เฟส 2 หวังได้ติดตั้ง 50%
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าบริษัท สามารถ ไอ-โมบายจะเซ็นสัญญาการเป็น MVNO 3G TOT ฉบับใหม่หลังจากมีการปรับแก้ไขประเด็นส่วนแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกันรวมทั้งเรื่องหลักประกันรายได้เป็นที่เรียบร้อย โดยสัญญาฉบับใหม่นี้จะมีการทบทวนทุก 2 ปี ไม่ใช่สัญญาระยะยาว 15 ปี
ทั้งนี้ สามารถฯ จะได้สิทธิทำตลาดบริการ 3G ทีโอที จำนวน 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40% ของความจุโครงข่ายที่มีราว 7.2 ล้านเลขหมาย โดยคาดว่าภายในปีนี้น่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านรายจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2-3 แสนราย นอกจากนี้ ภายในเดือน มี.ค.บริษัทฯ จะจัดงาน “i-mobile Day” เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหลังเซ็น MVNO ฉบับใหม่กับทีโอที โดยภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยี 4G LTE บนความถี่ 2.1GHz ประมาณ 2-3 รุ่น พร้อมทั้งเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 4G ให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
นายวัฒน์ชัยกล่าวว่า ช่วงสิ้นปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการติดตั้งสถานีฐาน 3G เฟสแรกให้กับทีโอที แล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และในเดือน ก.พ. 56 จะมีการติดตั้งเป็น 4,000 สถานีฐาน โดยคาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน เม.ย.นี้ ในขณะที่ทีโอทีก็มีแผนที่จะติดตั้งโครงข่าย 3G เฟส 2 อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าทั้งโครงการรวม 30,000 ล้านบาท
‘ใน 3G เฟส 2 สามารถฯ ตั้งเป้าเป็นผู้ติดตั้งสถานีฐานให้ได้ 50% ของโครงการทั้งหมด’
ส่วนความคืบหน้าการเซ็นสัญญา MVNO ของบริษัท สามารถ ไอ-โมบายนั้น ล่าสุดทีโอที และสามารถฯได้ตกลงในรายละเอียดเรื่องผลประโยชน์ลงตัวแล้ว จากเดิมที่เอกชนได้ 60% หลังหักค่าการตลาดผ่านช่องทางจำหน่าย 10% และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่ากับเอกชนจะได้รับส่วนแบ่ง 43% ขณะที่ทีโอทีได้ 40% โดยปรับเป็นเอกชนได้ 55% หลังหักค่าการตลาดและภาษีแล้วจะเหลือ 38% ในขณะที่ทีโอทีจะได้ผลประโยชน์ 45% เหลือแค่เสนอบอร์ดทีโอทีอนุมัติเซ็นสัญญาเท่านั้น
Company Related Link :
Samart
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000023601
____________________________________
สามารถฯชิงงานTOT วางโครงข่าย “3G”3หมื่นล.
ผู้บริหารกลุ่มสามารถฯ ยังมั่นใจได้รับงานวางโครงการข่าย3G TOT ในเฟส2 แม้ว่าการวางโครงข่ายเฟสแรกที่ผ่านมา เกิดปัญหาความล่าช้า
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)? เปิดเผยว่า กิจการร่วมค้า (คอนซอร์เตียม) เอสแอล ที่มี บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น เป็นแกนนำ มีการติดตั้งสถานีฐาน 3G ระยะ (เฟส) แรก ให้กับ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) หรือTOT ณ สิ้นปี2555 ที่ผ่านมาแล้วกว่า 3,800 สถานีฐาน และคาดว่าในเดือน กุมภาพันธ์ 2556 นี้ จะมีการติดตั้งเพิ่มเป็น 4,000 สถานีฐาน คาดว่าจะครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้บริษัทยังสนใจติดตั้งโครงข่าย 3G ?ในเฟส 2ของ ทีโอที ?อีก 15,000 สถานีฐาน ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่ง ทีโอที จะมีการเปิดประมูลช่วงเดือน เมษายนนี้ ก่อนจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ภายในเดือน มิถุนายน2556
มีรายงานข่าวจาก ?บริษัท ทีโอที แจ้งว่า ในการติดตั้งโครงข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่3Gเฟส) จำนวน 5,320 สถานีฐาน ทั่วประเทศถือว่า ล่าช้า มาจากปัญหาภายในหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นทั้งปัจจัยภายนอกองค์กร และปัจจัยภายใน อาทิ การปรับเปลี่ยนผู้บริหาร หรือจากกำหนดการเดิม ทีโอที จะต้องติดตั้งสถานีฐานจำนวน 5,320 แห่งทั่วประเทศแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 รวมทั้งประเด็นกรณีติดขัดการขอใช้โครงข่ายร่วมกับผู้ให้บริการอื่นๆ ส่งผลให้ทีโอทีไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน ทำให้การให้บริการในเฟสแรกล่าช้าไป
นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงการเป็นผู้ให้บริการขายต่อ และขายส่งในโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) หรือขอเช่าโครงข่ายของ ทีโอที เพื่อให้บริการ3G ในชื่อ i-mobile 3GX นั้น คาดว่าการลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับ บริษัท ทีโอที จะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ภายในเดือน มีนาคม 2556 ในเบื้องต้น สัญญาฉบับใหม่ ทางคณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอที ที่มีนายอุดม พัวสกุล เป็นประธาน ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว โดยสัดส่วนรายได้ และกำไรที่ทีโอทีจะได้รับจากบริษัทที่เข้าร่วม ราว 50-60 % ของรายได้รวม และหลักประกันรายได้ รวมถึงสัญญาฉบับใหม่จะลงนามในสัญญาระยะยาวไม่ถึง 15 ปี และทบทวนสัญญาทุก 2 ปี?? คาดว่าทีโอที จะมีความจุของโครงข่ายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย โดยจะบริษัทขอทำตลาดรวม 2.8 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 40 ของโครงข่ายทั้งหมด พร้อมทั้งคาดหวังจะเพิ่มลูกค้าอีก 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่มี 2-3 แสนราย
ทั้งนี้ ภายในเดือนมีนาคม บริษัท จะจัดงาน “i-mobile Day” เพื่อเป็นการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการหลังเซ็นเอ็มวีเอ็นโอฉบับใหม่กับทีโอที โดยภายในงานจะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่รองรับเทคโนโลยีแอลทีอี หรือ? 4G? บนคลื่น2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ด้วย คาดว่าจะมีประมาณ1 - 3 รุ่นให้ก่อนในช่วงแรก พร้อมเร่งให้โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่รองรับ4G ให้มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1596715