ผมมีอาการไออย่างหนักมาประมาณ 1 สัปดาห์
เมื่อ 2-3 วันก่อนได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ก็เลยไปหาหมอที่คลีนิค
หมอบอกว่าเป็นเชื้อคันคอ (เชื้ออะไรหว่า???) ซึ่งถ้าติดเชื้อแล้วมันจะทำให้เรามีอาการคันคอและไอได้เป็นเดือน
จากนั้นก็จ่ายยา Azithromycin 250 mg จำนวน 10 เม็ดมาให้ โดยให้ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 5 วัน
และบอกว่าถ้าดูอาการไป 3 วันแล้วยังไม่หายไอก็ให้ไปหาหมอที่ไหนก็ได้อีกครั้งพร้อมกับบอกว่าเราได้ใช้ยาอะไรไปแล้ว เพราะเชื้อคันคอมียาอยู่แค่ไม่กี่ตัว ใช้ตัวนี้ไม่หายก็ใช้อีกตัวต่อไป (ชักอยากรู้ขึ้นมาแล้วสิว่าเชื้อคันคอที่ว่านี่มันคือเชื้ออะไร ใครพอทราบก็ช่วยบอกหน่อยแล้วกันครับ)
หลังจากทานยาที่ให้มาครั้งแรก คืนนั้นผมก็มีอาการไข้ขึ้นทั้งที่แต่ก่อนมีอาการแค่ไออย่างเดียวไม่มีอาการไข้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อาจเป็นเพราะเราติดเชื้ออื่นซ้ำซ้อนขึ้นมาก็ได้ ก็อาศัยยาพาราฯ บรรเทาอาการไป ถือซะว่าถ้าเป็นเชื้อไวรัสก็ไม่มียาอะไรรักษาได้อยู่แล้ว ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรียเราก็ทานยาปฏิชีวนะอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาหมอซ้ำอีก รอให้สามวันผ่านไปก่อน
ผ่านไปสามวัน ด้วยการนอนและทานยาตามที่หมอสั่งร่วมกับยาพาราฯ เมื่อรู้สึกว่ามีไข้ ผลคือ อาการไอก็ดีขึ้น อาการไข้ก็เริ่มลดลง
ตอนนี้ก็มีไอบ้างแต่ก็ไม่มาก มีไข้อ่อนๆ (ประมาณปลายๆ 27 องศา) มีน้ำมูกค่อนข้างไสและมีสีออกเหลือง
เนื่องจากใกล้วันทำงานแล้ว ผมจึงไปหาหมออีกครั้งเพื่อความมั่นใจ คราวนี้ไปหาหมอแถวสุขุมวิท
หมอบอกว่าผมคอแดงมาก น่าจะเป็นเพราะติดเชื้อซ้ำซ้อน จากนั้นก็ให้จ่ายยา Clarithromycin 500 mg มาให้ 20 เม็ด โดยให้ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
ปัญหามันก็อยู่ที่ตรงนี้ล่ะครับ เนื่องจากอาการต่างๆ ที่เป็นก็ทุเลาลงมากแล้ว การทานยาปฏิชีวนะ 1000 mg ต่อวัน นานถึง 10 วัน มันมากไปหรือเปล่าครับ
อาจยาวไปหน่อย แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้ครับแนะนำครับ ^^
ขออนุญาติ Tag มาที่ห้องหว้ากอด้วยนะครับ เพราะที่นั้นมีหมอหลายท่านเล่นอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เพิ่งได้ยามา ยิ่งได้คำตอบเร็วจะได้ปรับเปลี่ยนได้ถูกต้องเร็วขึ้นครับ
ขอบคุณครับ
ขอถามถึงปริมาณการใช้ยา Clarithromycin ในการรักษาหวัดครับ
เมื่อ 2-3 วันก่อนได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ก็เลยไปหาหมอที่คลีนิค
หมอบอกว่าเป็นเชื้อคันคอ (เชื้ออะไรหว่า???) ซึ่งถ้าติดเชื้อแล้วมันจะทำให้เรามีอาการคันคอและไอได้เป็นเดือน
จากนั้นก็จ่ายยา Azithromycin 250 mg จำนวน 10 เม็ดมาให้ โดยให้ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 5 วัน
และบอกว่าถ้าดูอาการไป 3 วันแล้วยังไม่หายไอก็ให้ไปหาหมอที่ไหนก็ได้อีกครั้งพร้อมกับบอกว่าเราได้ใช้ยาอะไรไปแล้ว เพราะเชื้อคันคอมียาอยู่แค่ไม่กี่ตัว ใช้ตัวนี้ไม่หายก็ใช้อีกตัวต่อไป (ชักอยากรู้ขึ้นมาแล้วสิว่าเชื้อคันคอที่ว่านี่มันคือเชื้ออะไร ใครพอทราบก็ช่วยบอกหน่อยแล้วกันครับ)
หลังจากทานยาที่ให้มาครั้งแรก คืนนั้นผมก็มีอาการไข้ขึ้นทั้งที่แต่ก่อนมีอาการแค่ไออย่างเดียวไม่มีอาการไข้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อาจเป็นเพราะเราติดเชื้ออื่นซ้ำซ้อนขึ้นมาก็ได้ ก็อาศัยยาพาราฯ บรรเทาอาการไป ถือซะว่าถ้าเป็นเชื้อไวรัสก็ไม่มียาอะไรรักษาได้อยู่แล้ว ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรียเราก็ทานยาปฏิชีวนะอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาหมอซ้ำอีก รอให้สามวันผ่านไปก่อน
ผ่านไปสามวัน ด้วยการนอนและทานยาตามที่หมอสั่งร่วมกับยาพาราฯ เมื่อรู้สึกว่ามีไข้ ผลคือ อาการไอก็ดีขึ้น อาการไข้ก็เริ่มลดลง
ตอนนี้ก็มีไอบ้างแต่ก็ไม่มาก มีไข้อ่อนๆ (ประมาณปลายๆ 27 องศา) มีน้ำมูกค่อนข้างไสและมีสีออกเหลือง
เนื่องจากใกล้วันทำงานแล้ว ผมจึงไปหาหมออีกครั้งเพื่อความมั่นใจ คราวนี้ไปหาหมอแถวสุขุมวิท
หมอบอกว่าผมคอแดงมาก น่าจะเป็นเพราะติดเชื้อซ้ำซ้อน จากนั้นก็ให้จ่ายยา Clarithromycin 500 mg มาให้ 20 เม็ด โดยให้ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
ปัญหามันก็อยู่ที่ตรงนี้ล่ะครับ เนื่องจากอาการต่างๆ ที่เป็นก็ทุเลาลงมากแล้ว การทานยาปฏิชีวนะ 1000 mg ต่อวัน นานถึง 10 วัน มันมากไปหรือเปล่าครับ
อาจยาวไปหน่อย แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้ครับแนะนำครับ ^^
ขออนุญาติ Tag มาที่ห้องหว้ากอด้วยนะครับ เพราะที่นั้นมีหมอหลายท่านเล่นอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เพิ่งได้ยามา ยิ่งได้คำตอบเร็วจะได้ปรับเปลี่ยนได้ถูกต้องเร็วขึ้นครับ
ขอบคุณครับ