ศาสนาสำคัญที่มีคนนับถือมากที่สุดอันดับต้นๆ แต่กลับมีข่าวที่น่าเศร้าใจ กรณีสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ลาออก
บาร์บารา เบลน ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเหยื่อผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดทางเพศของบาทหลวงคริสต์ (SNAP) ระบุว่า
ประวัติการทำงานของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 “เป็นที่น่าสิ้นหวัง”
“สิ่งที่พระองค์ตรัสนั้นยิ่งใหญ่น่าฟัง แต่พระกรณียกิจที่ผ่านมากลับไม่เป็นเช่นนั้น
เด็กและเยาวชนมากมายยังตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปาองค์นี้” เบลน กล่าว
ไม่กี่วันที่ผ่านมา อาร์กบิชอป โฮเซ โกเมซ ในนครลอสแองเจลิส เพิ่งถูกศาลสั่งให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนักบวชราว 100 รูป
ที่มีพฤติกรรมชอบละเมิดทางเพศเด็ก และเมื่อปีที่แล้ว มอนซีเนอร์ วิลเลียม ลีนน์ จากเมืองฟิลาเดลเฟีย ก็ถูกตัดสินจำคุก 3-6 ปี
ฐานปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศ และอนุญาตให้นักบวชผู้กระทำผิด 2 รูปอยู่ในตำแหน่งต่อไป ทั้งๆ ที่มีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้เยาว์
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสหรัฐฯ แถลงว่า ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมามีบาทหลวงก่อคดีละเมิดทางเพศผู้เยาว์ถึง 6,100 รูป
สามารถระบุชื่อเหยื่อผู้ถูกกระทำได้ 16,000 ราย และทำให้สูญเสียงบประมาณถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อชดเชยความเสียหายและบำบัดสภาพจิตใจของเหยื่อ
เบลนชี้ว่า แม้สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงอยู่ในตำแหน่งถึงแค่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรืออีกเพียง 2 สัปดาห์
แต่ยังทรงมีเวลาพอที่จะประกาศมาตรการปกป้องเยาวชนและชื่อเสียงของคริสตจักรคาทอลิกทั่วโลก
เช่น ประกาศรายนามบาทหลวงผู้กระทำผิดลงอินเทอร์เน็ต ดังเช่นที่พระบิชอป 30 รูปในสหรัฐฯ เคยทำมาแล้ว
หรือออกคำสั่งให้บาทหลวงต้องแจ้งเหตุการล่วงละเมิดทางเพศให้ตำรวจรับทราบ เป็นต้น
โรเบิร์ต โฮตสัน ประธานกลุ่ม Road to Recovery ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเหยื่อการละเมิดทางเพศ
เอ่ยตรงกันว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่พระสันตะปาปาประกาศสละตำแหน่ง
เพราะที่ผ่านมาพระองค์ไม่ทรงใส่ใจที่จะแก้ไขพฤติกรรมชอบล่วงละเมิดทางเพศของเหล่านักบวช”
“พระสันตะปาปาพระองค์ต่อไปควรจะต้องจัดการปัญหานี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเพราะเกี่ยวข้องกับเด็ก
และยังถือเป็นปัญหาระดับโลก อีกทั้งพระสันตะปาปาเองก็ทรงมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยคิดหาหนทางแก้ไขได้” โฮตสันกล่าว
“หากจำเป็นต้องปลดบิชอปทุกรูปที่ปกปิดพฤติกรรมเสื่อมเสียนี้ ก็ต้องทำ”
กลุ่มผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดเด็ก (Survivors of Child Abuse) ในไอร์แลนด์
ก็แสดงความยินดีต่อการอำลาตำแหน่งของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
โดย จอห์น เคลลี โฆษกของกลุ่ม ชี้ว่า “คริสตจักรควรยอมรับว่าเรื่องเช่นนี้มีอยู่จริง
พวกเขาต้องยอมรับว่าได้ปล่อยให้มารศาสนาซุกซ่อนอยู่ในโบสถ์มานานถึง 50 ปีแล้ว”
ถึงเวลาแล้วที่คริตสศาสนิกในประเทศไทย ทุกนิกายต้องหันมามอง มีหลายโบสถ์ทั้งคาทอลิกและคริสเตียน
ที่มีคนลักเพศ เกย์คิงเกย์ควีน เสือไบ แอบแฝงปะปนอยู่ในโบสถ์ คอยแอบตะปบเหยื่อที่เป็นเด็กผู้ชาย
นำไปล่วงละเมิดทางเพศเมื่อมีโอกาส จึงเป็นหน้าที่ของคริตสชน ต้องกล้าที่จะร่วมกันแฉ
เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ทำความสะอาดคริตสจักร ให้ปลอดจากฝูงซาตาน ที่แอบอาศัยศาสนาหา"เด็ก"กิน
ลองถามลูกชายลูกหญิงดูว่า ไปโบสถ์แล้วโดนใครมาล่วงละเมิดทางเพศกับเขาบ้าง
แล้วจัดการลากมันออกมาประจาน ก่อนส่งไปติดคุกซะให้เข็ด..
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017886
ความตกต่ำเสื่อมทรามของคริตสศาสนา ในยุค 21
บาร์บารา เบลน ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเหยื่อผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดทางเพศของบาทหลวงคริสต์ (SNAP) ระบุว่า
ประวัติการทำงานของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 “เป็นที่น่าสิ้นหวัง”
“สิ่งที่พระองค์ตรัสนั้นยิ่งใหญ่น่าฟัง แต่พระกรณียกิจที่ผ่านมากลับไม่เป็นเช่นนั้น
เด็กและเยาวชนมากมายยังตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปาองค์นี้” เบลน กล่าว
ไม่กี่วันที่ผ่านมา อาร์กบิชอป โฮเซ โกเมซ ในนครลอสแองเจลิส เพิ่งถูกศาลสั่งให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนักบวชราว 100 รูป
ที่มีพฤติกรรมชอบละเมิดทางเพศเด็ก และเมื่อปีที่แล้ว มอนซีเนอร์ วิลเลียม ลีนน์ จากเมืองฟิลาเดลเฟีย ก็ถูกตัดสินจำคุก 3-6 ปี
ฐานปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศ และอนุญาตให้นักบวชผู้กระทำผิด 2 รูปอยู่ในตำแหน่งต่อไป ทั้งๆ ที่มีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้เยาว์
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสหรัฐฯ แถลงว่า ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมามีบาทหลวงก่อคดีละเมิดทางเพศผู้เยาว์ถึง 6,100 รูป
สามารถระบุชื่อเหยื่อผู้ถูกกระทำได้ 16,000 ราย และทำให้สูญเสียงบประมาณถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อชดเชยความเสียหายและบำบัดสภาพจิตใจของเหยื่อ
เบลนชี้ว่า แม้สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงอยู่ในตำแหน่งถึงแค่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรืออีกเพียง 2 สัปดาห์
แต่ยังทรงมีเวลาพอที่จะประกาศมาตรการปกป้องเยาวชนและชื่อเสียงของคริสตจักรคาทอลิกทั่วโลก
เช่น ประกาศรายนามบาทหลวงผู้กระทำผิดลงอินเทอร์เน็ต ดังเช่นที่พระบิชอป 30 รูปในสหรัฐฯ เคยทำมาแล้ว
หรือออกคำสั่งให้บาทหลวงต้องแจ้งเหตุการล่วงละเมิดทางเพศให้ตำรวจรับทราบ เป็นต้น
โรเบิร์ต โฮตสัน ประธานกลุ่ม Road to Recovery ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเหยื่อการละเมิดทางเพศ
เอ่ยตรงกันว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่พระสันตะปาปาประกาศสละตำแหน่ง
เพราะที่ผ่านมาพระองค์ไม่ทรงใส่ใจที่จะแก้ไขพฤติกรรมชอบล่วงละเมิดทางเพศของเหล่านักบวช”
“พระสันตะปาปาพระองค์ต่อไปควรจะต้องจัดการปัญหานี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเพราะเกี่ยวข้องกับเด็ก
และยังถือเป็นปัญหาระดับโลก อีกทั้งพระสันตะปาปาเองก็ทรงมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยคิดหาหนทางแก้ไขได้” โฮตสันกล่าว
“หากจำเป็นต้องปลดบิชอปทุกรูปที่ปกปิดพฤติกรรมเสื่อมเสียนี้ ก็ต้องทำ”
กลุ่มผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดเด็ก (Survivors of Child Abuse) ในไอร์แลนด์
ก็แสดงความยินดีต่อการอำลาตำแหน่งของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
โดย จอห์น เคลลี โฆษกของกลุ่ม ชี้ว่า “คริสตจักรควรยอมรับว่าเรื่องเช่นนี้มีอยู่จริง
พวกเขาต้องยอมรับว่าได้ปล่อยให้มารศาสนาซุกซ่อนอยู่ในโบสถ์มานานถึง 50 ปีแล้ว”
ถึงเวลาแล้วที่คริตสศาสนิกในประเทศไทย ทุกนิกายต้องหันมามอง มีหลายโบสถ์ทั้งคาทอลิกและคริสเตียน
ที่มีคนลักเพศ เกย์คิงเกย์ควีน เสือไบ แอบแฝงปะปนอยู่ในโบสถ์ คอยแอบตะปบเหยื่อที่เป็นเด็กผู้ชาย
นำไปล่วงละเมิดทางเพศเมื่อมีโอกาส จึงเป็นหน้าที่ของคริตสชน ต้องกล้าที่จะร่วมกันแฉ
เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ทำความสะอาดคริตสจักร ให้ปลอดจากฝูงซาตาน ที่แอบอาศัยศาสนาหา"เด็ก"กิน
ลองถามลูกชายลูกหญิงดูว่า ไปโบสถ์แล้วโดนใครมาล่วงละเมิดทางเพศกับเขาบ้าง
แล้วจัดการลากมันออกมาประจาน ก่อนส่งไปติดคุกซะให้เข็ด..
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017886